พี่ชายเชื่อ “แป้ง” มอบตัวถ้าทำตามข้อเรียกร้อง เพราะแค้น”จนท.รัฐ”อมเงินวิ่งเต้นคดี 10 ล้าน
ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาพูดคุยกับนายกษิดิ์ชาติ ทองด้วง หรือพงษ์ พี่ชายแป้ง เปิดในในหลายประเด็นกับช่อง 8 ว่าคลิปที่ปรากฎในโซเชียล คือน้องชายตนตัวจริง เนื่องจากรูปพรรณสัณฐานและน้ำเสียงคือน้องชายตัวจริงของตน ส่วนสถานที่ตนไม่มั่นใจว่าน้องชายอัดคลิปที่ใดเนื่องจากหลังน้องชายแหกคุกออกมาก็ไม่ได้ติดต่อมาหาทางตนหรือพี่สาว
ประเด็นสอง ตนเชื่อทั้งหมดที่น้องพูดแฉในคลิปเป็นเรื่องจริง เพราะก่อนน้องชายติดคุกก็ได้ระบายความอัดอั้นตันใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องเหมือนเหตุการณ์ที่น้องเล่าในคลิปให้ตนฟัง โดยน้องไม่เคยโกรธแค้นใครมาก่อนแต่บุคคลที่น้องกล่าวชื่อในคลิปเป็นบุคคลที่น้องแค้นฝังใจมาก และตนก็เพิ่งเคยเห็นน้องไม่พอใจใครมากแบบนี้มาก่อน เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เพราะทุกคนที่น้องเอ่ยชื่อ5 คนในคลิปหลอกน้องให้ไปช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติด แต่ปรากฎว่าสุดท้ายน้องชายถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว ซึ่งน้องเป็นคนชอบความยุติธรรมในเมื่อน้องชายไม่ได้ทำแต่โดนข้อหาและติดคุกเพียงคนเดียวจึงแค้นฝังใจ หลังติดคุกน้องชายก็ชวนนักโทษไล่ล่าชื่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่ไม่ได้รับความยุติธรรม รวมทั้งเรื่องวันปะทะก็เชื่อน้องไม่มีเจตนายิงเจ้าหน้าที่ มีแต่เจ้าหน้าที่อยากวิสามัญ
ประเด็นที่สาม จากตามสื่อที่มีการเผยแพร่ว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า จุดที่น้องชายตนอัดคลิปคือประเทศมาเลเซีย ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่ก็มองเพียงว่าหากน้องชายหลบหนีออกจากประเทศไทยไปประเทศเพื่อนบ้านจริง ก็มีเพียงแค่มาเลเซียกับอินโดนีเซียที่มีสวนปาล์มเท่านั้น เพราะในคลิปถ่ายขณะน้องอยู่ในสวนปาล์ม ส่วนที่หนีไปได้คงเป็นความสามารถพิเศษของน้อง
ประเด็นสุดท้าย ตนมองว่าน้องเป็นคนพูดจริงทำจริง ถ้าทำตามข้อเรียกร้องน้องจะออกมามอบตัวเอง ยืนยันน้องชายใจนักเลงพูดคำไหนคำนั้น และรักษาคำพูด ส่วนที่อัดคลิปเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับ 5 คนที่น้องเอ่ยถึง เพราะหากน้องจะล้างแค้นแหกคุกแล้วออกมายิง คงมายิง 5 คนแล้ว คงไม่อัดคลิปแฉแล้วเรียกร้องทวงความยุติธรรม สุดท้ายอยากฝากถึงแป้งให้ดูแลสุขภาพ
เปิดเบาะแสชาวบ้านพบรถต้องสงสัยรับ”แป้ง” ออกจากน้ำตกหม่อมจุ้ย
ทีมข่าวช่อง8 ได้เบาะแสจากชาวบ้านในต.ตะโหมด ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเมื่อสองวันก่อนทางตำรวจได้เข้ามาในพื้นที่เพื่อหาหลักฐานภาพวงจรปิดเพิ่มเติม โดยได้แจ้งเบาะแสตำรวจว่าพบรถเก๋งสีดำต้องสงสัยคาดว่าอาจเป็นคันที่มารับเสี่ยแป้งลงเขา หลังปะทะเจ้าหน้าที่ โดยวันที่ปะทะคือวันที่ 8 พ.ย. แต่วันที่เห็นรถเก๋งต้องสงสัยคือช่วงกลางดึกวันที่ 9 พ.ย. ย่างเข้าวันที่ 10 พ.ย.
ต่อมาทีมข่าวได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้านโพธิ์ที่ชาวบ้านให้เบาะแสตำรวจพบว่า ช่วง 23.09 น. พบรถเก๋งต้องสงสัยตามข้อมูลของชาวบ้าน ออกจากซอยทางเข้าน้ำตกหม่อมจุ้ย ซึ่งจุดที่เห็นรถเก๋งจอดบริเวณสี่แยกบ้านโพธิ์ ห่างจากบริเวณน้ำตกหม่อมจุ้ย 4 กิโลเมตร
ซึ่งน้ำตกหม่อมจุ้ย อยู่ห่างจากจุดปะทะในอ.บ้านตระ จ.ตรัง หากวัดระยะทางเป็นเวลาเดินเท้าใช้เวลา 10-11 ชั่วโมง กว่าจะถึงจุดน้ำตก ซึ่งเส้นทางนี้หากมาถนนใหญ่สามารถไป จ.อื่นที่สามารถหนีไปได้ทั้งเมียนมาและมาเลเซีย / โดยเราพบรถเก๋งสีดำต้องสงสัยมุ่งหน้าผ่านบ้านควน ต.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งห่างจากจุดแรกที่พบรถเก๋งที่บ้านโพธิ์ 2 กิโลเมตร แล้วรถเก๋งคันนี้ก็ไปยังเส้นทางจ.ตรัง
นอกจากนั้นทีมข่าวยังสังเกตอีกว่า ระหว่างที่รถเก๋งดำต้องสงสัยขับผ่านในพื้นที่บ้านควน ต.ตะโหมด ปรากฏว่าไม่กี่นาทีต่อมามีคนต้องสงสัยสองคนกำลังข้ามถนนในช่วงกลางดึก คล้ายเพิ่งออกมาจากป่ายาง แต่จุดที่พบห่างจากรัศมีกล้องวงจรปิด จึงเห็นภาพไม่ชัดเจนว่ามีรูปพรรณสัณฐานอย่างไร
โดยชาวบ้านยังให้เบาะแสทีมข่าวอีกว่าจากข้อมูลดังกล่าวทางตำรวจได้มีการลงพื้นที่และเก็บหลักฐานกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อไล่ล่าตัวแป้งมาดำเนินคดี
สำรวจเส้นทางคาดว่า “แป้ง” หลบหนีออกน้ำตกหม่อมจุ้ย
ภายหลังจากที่ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เราได้เข้าสำรวจเส้นทางเข้าน้ำตกหม่อมจุ้ยตามเบาะแสที่ชาวบ้านและแหล่งข่าวลับให้ข้อมูล โดยมีทีมงานพาเสี่ยแป้งออกมาจากบริเวณตีนเทือกเขาบรรทัดจุดน้ำตกหม่อมจุ้ย ซึ่งซอยที่ออกมาเป็นซอยเล็กและเป็นทางลูกรังมีเพียงรถเล็กหรือจะต้องเดินเท้าออกมาจากตีนเทือกเขาบรรทัดเท่านั้น ซึ่งสองข้างทางก็เป็นป่ารกและบางจุดเป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน ห่างจากน้ำตกหม่อมจุ้ยประมาณ 1.5 กิโลเมตร
หากมาถึงบริเวณหน้าปากซอยแล้วก็จะมาทะลุถนนผ่านลาดยางซึ่งเป็นถนนสายหลักของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้น้ำตกหม่อมจุ้ย ซึ่งจากเส้นทางที่เราได้วงจรปิดรถเก๋งสีดำขับผ่านเส้นทางนี้ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสี่แยกบ้านโพธิ์ และขับผ่านบ้านควน ในต.ตะโหมด จ.พัทลุง เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสตูล
ผู้ใหญ่บ้านคาดแป้งลงเทือกเขาบรรทัดฝั่งพัทลุงคืนวันที่ 9 พ.ย.
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายสานิตย์ พลเพ็ชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ตะโหมด ต.ตะโหมด จ.พัทลุง บอกว่า ในส่วนที่ชาวบ้านแจ้งเบาะแสว่าพบรถต้องสงสัยในพื้นที่ ยังไม่ได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้าน โดยกำชับชาวบ้านในพื้นที่ตลอดหากใครพบเบาะแสรถแปลกๆที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ หรือกลุ่มคนแปลกๆที่เข้ามาในพื้นที่ให้รีบแจ้งทันที เพื่อช่วยเหลือเรื่องการไล่ล่านักโทษแป้ง
แต่ส่วนตัวมองว่า แป้งปะทะกับเจ้าหน้าที่ในวันที่ 8 พ.ย. คาดว่าวันนั้นอาจยังไม่กล้าลงเขา เพราะทางตำรวจตรึงกำลังปิดล้อมและไล่ล่า ส่วนตัวก็คิดว่าแป้งน่าจะลงเขาวันที่ 9 พ.ย . และลงเขาฝั่งพัทลุง เพราะจุดปะทะอยู่ฝั่งบ้านในตระ จ.ตรัง หลังปะทะตำรวจตรึงกำลังในพื้นที่บ้านในตระ เชื่อว่าแป้งต้องหนีตายการไล่ล่าจึงต้องหาทางลงเขาฝั่งพัทลุง ซึ่งในวันที่ 9 พฤศจิกายนทางตำรวจยังไม่มีการตั้งด่านสกัดกั้นบริเวณด้านล่าง แต่มาตั้งด่านสกัดกั้นในวันที่ 10 พ.ยตนจึงมองว่าวันที่เอื้อต่อการหนีลงเขามากที่สุดก็คือวันที่ 9 พ.ย.
แต่ในส่วนข้อมูลที่มีชาวบ้านแจ้งทีมข่าวว่าพบรถต้องสงสัยในช่วงคืนวันที่ 9 พ.ย. ในส่วนนี้ตนไม่ทราบมาก่อน