จากกรณีที่ญาติแจ้งความ น.ส.กวินนา หรือ ฝน อายุ 38 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร ที่หายตัวไปเมื่อคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งญาติได้เข้าแจ้งความคนหายไว้แล้ว แต่คดียังไม่คืบ แถมไร้ร่องรอย หวั่นเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น และล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้พบร่างของนางฝนแล้ว ซึ่งคนที่ลงมือก่อเหตุก่อคืออดีตสามีตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

วันนี้ตำรวจได้นำนายปอ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านชุนเฮง ซึ่งเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจุดนี้นายปอรับสารภาพว่าตัวเองมาซื้อทรายทั้งหมด 10 กระสอบ เพื่อบรรทุกใส่รถกระบะนำไปใช้กลบอำพรางร่างของฝน ที่นำไปยัดท่อไว้

 

นายปอให้ข้อมูลกับตำรวจว่า มาที่ร้านนี้ใน วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน ช่วงเช้า เมื่อมาถึงก็ จอดรถเทียบกับจุดที่วางทรายไว้ จากนั้นก็ซื้อทรายทั้งหมด 10 กระสอบขนขึ้นรถตัวเอง เพื่อนำไปปิดฝาท่ออำพรางร่างของฝน

 

ต่อมาได้คุมตัวนายปอไปที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้อยู่อาศัยกับฝนอดีตภรรยาด้วย และเป็นจุดเกิดเหตุที่ทำให้ฝนเสียชีวิต แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพด้านใน

 

โดยตำรวจได้คุมตัวนายปอเข้าไปยังห้องนอน ของฝน (แยกกันนอนคนละห้องกับปอ) ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ นายปอ อ้างว่า ช่วงเวลา ประมาณ 20.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน ตัวเองมีปากเสียงกับฝน เกี่ยวกับเรื่องความหึงหวง เนื่องจากปอไปรู้ว่าฝนหน้าจะมีคนเข้ามาคุย และด่าทอทะเลสะกัน จนนายปอไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ จึงผลักฝนจนล้มลงบนที่นอน ก่อนจะตามเข้าไปบีบคอ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที จนฝนแน่นิ่งไป และพบว่าฝนเสียชีวิต จึงได้หาทางเคลื่อนย้ายศพ เพื่อปกปิดความผิด

 

ในจุดนี้ตำรวจได้มีการจำลอง ซึ่งนายปอได้นำร่างของฝนที่เสียชีวิตขึ้นรถกระบะคันสีแดงของตัวเองขับออกจากบ้านเพื่อนำไปทิ้งไว้ในท่ออำพรางศพ

 

จากนั้นตำรวจได้นำนายปอ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุด นำร่างของฝนไปซ่อนเร้นอำพรางศพ ภายในท่อน้ำในซอยขุนทะเลสาม ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

ซึ่งจุดนี้ นายปอ รับสารภาพว่า ช่วงวันที่ 14 พฤศจิกายนเวลาประมาณตีสอง ประมาณ 02.00 น.ได้ขับรถนำร่างของฝน มาจอดไว้บนถนนที่มีท่อระบายน้ำหลังจากนั้นลงไปดูในท่อว่ามีพื้นที่ว่าง จึงมาอุ้มร่างของฝน ไปใส่ไว้ในท่อระบายน้ำ พร้อมกับเอาใบตอง ที่อยู่ใกล้กับบริเวณดังกล่าวมาปิดซ่อนเร้นเอาไว้หวังกำบังไม่ให้มีคนเห็นและไม่ให้ได้กลิ่น และกลับบ้านไป

 

จนวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 15 พฤศจิกายน หลังจากแจ้งความเสร็จแล้ว ได้ย้อนกลับมาดูที่ทิ้งศพอีกครั้ง

 

และในวันที่ 16 พฤศจิกายน ช่วงเวลาประมาณ 14:00 น. นายปอเกรงว่าจะมีผู้คนมาพบศพ จึงได้ไปจัดเตรียมซื้อปูน และทราย มาโบกศพ

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิด จับภาพในวันที่ 14 พย.ขณะที่นายปอขับรถยี่ห้ออีซูซุ สีแดง นำร่างของนางฝน อดีตภรรยาที่เสียชีวิต มาจอดบริเวณริมถนนที่มีท่อน้ำอยู่ข้างทรงแล้วทิ้งไว้จุดนี้ ในซอยขุนทะเล 3 เวลา 03.00 น. โดยใช้เวลาในการนำร่างไปทิ้งกว่า 3 นาที (เห็นไฟรถของนายปอที่กำลังจอดทิ้งร่างนางฝนตลอด) ก่อนจะกลับรถในเวลา 03.03.22  แล้วขับออกไป

 

จับภาพในวันที่ 16.พย.ขณะที่นายปอนำปูนที่ซื้อมาจากร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปโบกร่างของนางฝน อดีตภรรยา โดยขับเข้ามายังซอยขุนทะเล 3 และถึงจุดที่ถึงร่างนางฝนไว้ เวลา 09.30 น.

 

จับภาพในวันที่ 16.พย. ขณะที่นายปอนำปูนที่ซื้อมาจากร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปโบกร่างของนางฝน อดีตภรรยา โดยขับเข้ามายังซอยขุนทะเล 3 จนมาถึงจุดที่ถึงร่างนางฝนไว้ และเมื่อนายปอนำปูนมาโบกปิดบังร่างของนางฝนเสร็จแล้ว ก็ขับรถออกไปในเวลา 09.46 น. โดยใช้เวลาในการโบกปูนรวมกว่า 16 นาที

 

ต่อมาเวลา 09.05 น.ขณะที่นายปอขับรถเข้ามาซื้อปูนจากร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในต.ขุนทะเล

 

ในขณะที่นายปอ เดินเข้ามาที่วัสดุก่อสร้าง โดยเข้ามาซื้อปูนเพื่อนำไปโบกร่างนางฝน

 

จับภาพในวันที่ 16.พย.เวลา 09.09 น.ขณะที่นายปอขับรถออกมาจากร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในต.ขุนทะเล หลังซื้อปูนเพื่อไปโบกร่างนางฝน

 

ด้าน นางสุพิตร แม่ของนายปอ ได้เดินทางมาเยี่ยมนายปอที่สภ. ขุนทะเล หลังจากตำรวจควบคุมตัวมาคุมขังไว้ที่นี่ โดยแม่ของนายปอได้มีโอกาสพูดคุยกับใครในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

 

ก่อนที่จะเปิดเผยกับทีมข่าวเราว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้ค่อนข้างมั่นใจว่าลูกชายไม่ใช่คนที่ฆ่าลูกสะใภ้เด็ดขาด  แต่ตอนนี้ก็คงต้องเชื่อตามคำรับสารภาพของลูกชาย ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น ส่วนทางครอบครัวของฝนไม่รู้จะเอ่ยคำขอโทษไหนดีเพราะมันถือเป็นเรื่องที่สุดสุดในหัวใจของคนเป็นแม่แล้ว

 

ทีมข่าวของเราได้มีโอกาสคุยกับนางสาวส้ม (นามสมมุติ) เพื่อนรุ่นน้องของนายปอผู้ก่อเหตุ และเป็นคนที่ติดต่อทนายความให้ช่วยมาดูเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น

 

เปิดเผยกับทีมข่าวของเราว่า เท่าที่ได้มีโอกาสคุยกับนายปอหลังจาก ฝนหายตัวไป หนึ่งในชนวนเหตุที่อาจจะทำให้นายปอก่อเหตุฆ่าฝนได้ คือเรื่องเงิน เนื่องจากนายปอเคยเล่าให้ฟังว่า ฝนเคยโอนเงินจากบัญชีที่ทั้งสองคนสร้างเอาไว้ร่วมกัน ออกจากบัญชี ที่น่าสงสัย สองครั้ง ครั้งแรกเป็นจำนวนเงินหลักแสนแต่ไม่สามารถระบุจำนวนเงินได้ ส่วนครั้งสุดท้ายคือจำนวน 2,000,000 บาท ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่ไม่สามารถจดจำวันเวลาที่ฝนโอนออกไปได้และไม่ทราบว่าโอนไปให้ใคร ทางเพื่อนของนายปอจึงเชื่อว่านี่อาจจะเป็นชนวนเหตุก็ได้

ภาพลับที่แรก! นาทีผัวขนร่างเมีย อบต.ยัดท่อโบกปูน เพื่อนชี้มีพิรุธเงินหาย 2 ล้านก่อนสังหาร