จากกรณี เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 พ.ย. 66 เกิดเหตุยิงกันบริเวณหลัก กม.ที่ 66 ถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) หมู่ที่ 8 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มุ่งหน้า จ.สระแก้ว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือ ส.อ.เอกรัตน์ หรือ ต้า อายุ 22 ปี เสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตั้งอยู่อําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยเมื่อเวลา 12.00 น. ญาติของ ส.อ.เอกรัตน์ ได้เดินทางมารับศพ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยโศกเศร้าของเหล่าบรรดาครอบครัว

ทีมข่าวช่อง 8 พูดคุยกับ น.ส.มนธิชา อายุ 25 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนพร้อม ส.อ.เอกรัตน์ ได้ขับรถยนต์ มาจาก จ.สระบุรี เพื่อมุ่งหน้า จ.สระแก้ว โดยใช้เส้นทางถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) เพื่อจะไปส่งแฟนหนูทำงานและจะเลยไปเอาการ์ดแต่งงานที่สั่งพิมพ์ไว้ ขณะที่กำลังขับรถมาตามเส้นทาง เหมือนตอนแรกคู่กรณีขับรถแซงไป ส.อ.เอกรัตน์ก็ขับเทียบกันไปประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งมีบางจังหวะที่แฟนหนุ่มของตนแซงกลับ ทางคู่กรณีก็ได้มีการบีบแตรใส่รถของพวกตน จนกระทั่งคู่กรณีก็ขับรถขึ้นมาเทียบ และตีคู่กัน จากนั้นตนสังเกตเห็นว่า คู่กรณีได้ยื่นมือออกมานอกกระจกรถ ซึ่ง ณ ตอนนั้นตนไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่า ทางคู่กรณีแค่ชี้หน้าด่าเฉย ๆ

จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่นึง ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดด้วยความตกใจ จึงกรี๊ดลั่นออกมา จากนั้นตนก็รีบสังเกตตนเองจึงพบว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ก่อนจะหันไปถามแฟนหนุ่มว่า “เธอเป็นอะไรไหม” ซึ่งแฟนหนุ่มก็ได้ตอบกลับมาว่า “เขาโดน…” ทันใดนั้น แฟนหนุ่มยันไม่ได้ทันบอกตนว่าถูกยิงเข้าบริเวณใด รถได้เสียหลักลงข้างทางก่อน

ส่วนสาเหตุที่คู่กรณีถึงขั้นต้องชักปืนออกมายิง นั้น ส่วนตัวตนมองว่า ปมเหตุน่าจะเกิดจาก การที่ขับรถแซงกันไปมา อาจจะทำให้ทางคู่กรณีโมโห ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่า ค่อนข้างที่จะรุนแรงทำเกินกว่าเหตุ

ส่วนรถกระบะของทางคู่กรณี ตนจำได้เพียงว่า เป็นรถกระบะสีขาว 4 ประตู แต่ไม่สามารถจดจำลักษณะคนร้ายหรือป้ายทะเบียนรถได้ เพราะบริเวณจุดเกิดเหตุ ณ ตอนนั้นค่อนข้างมืด

น.ส.มนธิชา เผยทั้งน้ำตาว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังไม่สามารถทำใจยอมรับได้ เนื่องจากตนรักแฟนหนุ่มมาก และมีกำหนดจะแต่งงานในวันที่ 21 มกราคม 2567 ประกอบกับตนตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน โดยก่อนเกิดเหตุนั้น ตนรู้สึกว่า แฟนหนุ่มอยากไปไหนมาไหนกับตนเองบ่อยครั้งจนผิดสังเกต จึงมองว่าน่าจะเป็นล้างก่อนเกิดเหตุหรือไม่

 

พ่อ-แม่เผยลูกได้เป็นทหารคือสิ่งที่ใฝ่ฝันไว้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนพังทั้งหมด

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเอ็มไพร อายุ 51 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ระหว่างที่รอรับศพลูกได้มีการนำเครื่องแบบข้าราชการทหารของลูกชายมากกอดไว้ ซึ่งแม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า

“ชุดข้าราชการชุดนี้คือความภาคภูมิใจของแม่ โดยก่อนเกิดเหตุตนได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกชายครั้งล่าสุด คือ เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ช่วงบ่าย จนกระทั่งช่วงเย็น ตนได้จะไลน์ถามลูกชายว่า “กลับถึงบ้านหรือยัง” แต่ กลับได้รับสายโทรศัพท์จากพี่สาว ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของตนว่า ลูกชายคนเล็กถูกยิงเข้าที่แขน จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต แต่ก่อนที่ลูกสาวจะโทรมาตนยอมรับว่า มีลางสังหรณ์ผิดปกติ คือ ตอนนั้นตน ได้ยินเสียงหมาหอนเสียงดังมาก ซึ่งปกติหมาที่บ้านจะไม่ค่อยหอนช่วงเวลานั้น หลังจากตนทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยปกติลูกชายเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร รักครอบครัวเป็นอย่างมาก และเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว นอกจากนี้ ลูกชายของตนยังเป็นที่รักของเพื่อนฝูง ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร

ด้านของนายณรงค์ พ่อผู้เสียชีวิต เผยทั้งน้ำตาว่า ลูกชายของตนเป็นเด็กที่มีผลการเรียนดี ถึงแม้บางทีอาจจะมีนิสัยดื้ออยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเสียหาย และไม่เคยมีประวัติทะเลาะวิวาทหรือมีเรื่องกับใครมาก่อน เบื้องต้นลูกชายของตนรับราชการอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่ได้มีการขอตัวไปขอช่วยราชการที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเกิดของลูกชาย โดยการรับราชการ ส่วนนึงเป็นความฝันของพ่อด้วย เพราะพ่ออยากให้ลูกเป็นทหาร ซึ่งลูกชายก็ทำตามความฝันของพ่อได้สำเร็จ

อีกทั้งลูกชายตนกำลังจะเข้าวิวาห์กับแฟนสาวในเดือนมกราคมปีหน้า แต่ พอมาเจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ สิ่งที่จะทำ สิ่งที่จะคิดทุกอย่างพังหมด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากให้เป็นอุทาหรณ์ และไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับใครอีก จึงขอย้ำเตือนกับผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ขับรถอย่างมีสติ และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพื่อลดการกระทบกระทั่งและความรุนแรง

เปิดวงจรปิดนาทีกระบะไล่เบียด ก่อนเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ภาพวงจรปิดจากกล้องซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4-5 กิโลเมตร โดยในภาพจะเห็นว่ามีรถกระบะ สองคัน ลักษณะขับขี่ไล่กันมา อย่างกระชั้นชิด และรถทั้งสองคันตรงกับรถของผู้เสียชีวิต และรถของผู้ก่อเหตุตามคำให้การของแฟนสาวของผู้เสียชีวิต

นอกจากนี้ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด วันเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร ช่วงเวลาประมาณ 20.22 น. จะเห็นรถกระบะต้องสงสัย เป็นรถกระบะสีขาว 4 ประตู ทรงสูง ขับผ่านไปหลังเกิดเหตุ โดยลักษณะรถกระบะคันดังกล่าว ตรงกับคำให้การของแฟนสาวผู้เสียชีวิต

ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณแยกกรอกสมบูรณ์ จ.ปราจีนบุรี จะเห็นรถกระบะสีขาว 4 ประตู ทรงสูง ซึ่งเป็นรถต้องสงสัย ตามคำให้การของแฟนสาวของผู้เสียชีวิต โดยรถคันดังกล่าวได้ขับผ่านไปหลังก่อเหตุ

ประกบยิงรถคู่รัก ทหารหนุ่มดับเมียนั่งข้างหวิดเป็นศพ แพลนวิวาห์ต้นปี ฝันสลายไปไม่ถึง