ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของอัยการบอยบุคคลที่แป้ง นาโหนดได้พูดถึงในคลิป ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเมืองพัทลุง เมื่อไปถึงพบว่าบ้านถูกปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่บ้าน และรถเก๋งของภรรยาอัยการบอย ไม่อยู่บ้านแล้ว
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลสั้นๆว่า ตนเองไม่เห็นอัยการบอยมาหลายวันแล้ว ไม่ทราบว่าไปไหน และปกติไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เพราะเลิกงานกันคนละเวลา
นอกจากนี้มีรายงานข่าวว่า หลังจากเสี่ยแป้งหลบหนีออกจากโรงพยาบาล อัยการบอยได้เดินทางออกไปอยู่ต่างประเทศ ไม่อยู่ประเทศไทยแล้ว เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน
ขณะที่ นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้รับเรื่องร้องเรียนของรัฐบาล เผยว่า การที่มีการเผยแพร่คลิปผ่านสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรมหรือให้มีการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรม ตามหลักของระบบราชการและในฐานะรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ เว้นแต่ว่าได้รับหนังสือข้อเรียกร้อง 1,2,3 ซึ่งเป็นการลงชื่อหรือเขียนโดยเสี่ยแป้ง หรือร่างโดยเสี่ยแป้ง สามารถดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้ทันที ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงแค่คลิป จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ เว้นแต่ว่าจะมีการส่งหนังสือมาตามที่ระบุเอาไว้ว่าช่วงบ่ายหรือเย็นวันนี้จะได้รับ ไม่ว่าจะโดยรูปแบบใดแต่ขอเป็นลายลักษณ์อักษรที่เป็นเอกสาร สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ตามข้อเรียกร้อง
และก่อนหน้านี้แม้ว่าจะมีกระแสข่าวหรือการเปิดเผยข้อมูลโดยโดยตัวของเสี่ยแป้ง ทำนองว่ามีการยื่นร้องไปยังหลายหน่วย แต่ในฐานะของกระทรวงยุติธรรม และตนเองเห็นหนังสือการเรียกร้อง ยืนยันว่าเสี่ยแป้งไม่เคยเรียกร้องขอความเป็นธรรมหรือให้มีการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมแม้แต่ครั้งเดียว แต่ เคยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการขึ้นค่าอุปโภคบริโภคในเรือนจำโดยเฉพาะค่ากาแฟ ซึ่งเป็นหนังสือที่ลงชื่อและส่งโดยเสี่ยแป้ง แต่ยืนยันว่าหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องขอความยุติธรรมจากเสี่ยแป้งนั้นไม่เคยถูกส่งมา เว้นแต่ส่งมาเรียกร้องเรื่องอื่นมากกว่า และการที่มีการร่างรายชื่อของผู้ต้องขังรายอื่น ขอให้มีการตรวจสอบบุคคล ก็พบว่าเสี่ยแป้งก็ไม่ได้เป็นคนเสนอมาด้วยตนเอง แต่เป็นเพียงแค่การลงชื่อในฐานะพยานเท่านั้น
ซึ่งกระบวนการยุติธรรมจะเกิดขึ้น ก็อยากจะฝากถึงตัวของเสี่ยแป้งให้มีการมอบตัว เพราะอย่าลืมว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามไล่ล่า ก็อาจจะทำให้ตัวของเสี่ยแป้งไม่ปลอดภัย และที่สำคัญเสียแป้งมีการพูดถึงบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น ก็อาจจะทำให้เกิดกระบวนการตัดตอนเกิดขึ้น ฉะนั้นเสี่ยแป้งจึงอยู่ในช่วงของความไม่ปลอดภัย แต่การเข้ามาอยู่ในกระบวนการ และเข้ามาอยู่ในการคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เสียแป้งสามารถร้องขอความยุติธรรมได้ง่ายมากขึ้นและปลอดภัย แล้วตัวเองพร้อมที่จะเสนอตัวเป็นตัวแทนไปรับตัวเสียแป้งด้วยตนเอง เพราะถ้าหากไม่ไว้ใจใครแต่ก็อยากให้ไว้ใจตนเองในฐานะที่จะให้ความยุติธรรมได้
กรณีที่เสี่ยแป้งมีการเผยคลิปผ่านสื่อมวลชนถึง2คลิป อาจถูกมองว่าเป็นการเย้ย เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เพราะไม่สามารถติดตามตัวหรือจับกลุ่มเสี่ยแป้งได้ แต่ในขณะเดียวกันสื่อมวลชนสามารถ ที่จะมีช่องทางสื่อสารกับเสี่ยแป้งจนกระทั่งได้มาชึ่งคลิปนั้น ส่วนตัวบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยู่ระหว่างการแกะรอยและไล่ล่า ยังไม่ได้มีการยุติ แต่ไม่ได้มองว่าเย้ยเจ้าหน้าที่รัฐ เพียงแค่อาจจะต้องใช้ขั้นตอนและการกระบวนการ และเชื่อว่าสุดท้ายผู้ที่หลบหนีคดีหรือ มีการหลบหนีการจับกุมสุดท้ายแล้วก็จะถูกจับทั้งหมด เพราะมีเคสส่วนใหญ่ให้เห็นหลายเคสแล้ว
ขณะที่ นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้รับเรื่องร้องเรียนของรัฐบาล เผยว่า การที่มีการเผยแพร่คลิปผ่านสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรมหรือให้มีการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรม ตามหลักของระบบราชการและในฐานะรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ เว้นแต่ว่าได้รับหนังสือข้อเรียกร้อง 1,2,3 ซึ่งเป็นการลงชื่อหรือเขียนโดยเสี่ยแป้ง หรือร่างโดยเสี่ยแป้ง สามารถดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามข้อเรียกร้องได้ทันที ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงแค่คลิป จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ เว้นแต่ว่าจะมีการส่งหนังสือมาตามที่ระบุเอาไว้ว่าช่วงบ่ายหรือเย็นวันนี้จะได้รับ ไม่ว่าจะโดยรูปแบบใดแต่ขอเป็นลายลักษณ์อักษรที่เป็นเอกสาร สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ตามข้อเรียกร้อง
และก่อนหน้านี้แม้ว่าจะมีกระแสข่าวหรือการเปิดเผยข้อมูลโดยโดยตัวของเสี่ยแป้ง ทำนองว่ามีการยื่นร้องไปยังหลายหน่วย แต่ในฐานะของกระทรวงยุติธรรม และตนเองเห็นหนังสือการเรียกร้อง ยืนยันว่าเสี่ยแป้งไม่เคยเรียกร้องขอความเป็นธรรมหรือให้มีการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมแม้แต่ครั้งเดียว แต่ เคยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการขึ้นค่าอุปโภคบริโภคในเรือนจำโดยเฉพาะค่ากาแฟ ซึ่งเป็นหนังสือที่ลงชื่อและส่งโดยเสี่ยแป้ง แต่ยืนยันว่าหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องขอความยุติธรรมจากเสี่ยแป้งนั้นไม่เคยถูกส่งมา เว้นแต่ส่งมาเรียกร้องเรื่องอื่นมากกว่า และการที่มีการร่างรายชื่อของผู้ต้องขังรายอื่น ขอให้มีการตรวจสอบบุคคล ก็พบว่าเสี่ยแป้งก็ไม่ได้เป็นคนเสนอมาด้วยตนเอง แต่เป็นเพียงแค่การลงชื่อในฐานะพยานเท่านั้น
ซึ่งกระบวนการยุติธรรมจะเกิดขึ้น ก็อยากจะฝากถึงตัวของเสี่ยแป้งให้มีการมอบตัว เพราะอย่าลืมว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามไล่ล่า ก็อาจจะทำให้ตัวของเสี่ยแป้งไม่ปลอดภัย และที่สำคัญเสียแป้งมีการพูดถึงบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น ก็อาจจะทำให้เกิดกระบวนการตัดตอนเกิดขึ้น ฉะนั้นเสี่ยแป้งจึงอยู่ในช่วงของความไม่ปลอดภัย แต่การเข้ามาอยู่ในกระบวนการ และเข้ามาอยู่ในการคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เสียแป้งสามารถร้องขอความยุติธรรมได้ง่ายมากขึ้นและปลอดภัย แล้วตัวเองพร้อมที่จะเสนอตัวเป็นตัวแทนไปรับตัวเสียแป้งด้วยตนเอง เพราะถ้าหากไม่ไว้ใจใครแต่ก็อยากให้ไว้ใจตนเองในฐานะที่จะให้ความยุติธรรมได้
กรณีที่เสี่ยแป้งมีการเผยคลิปผ่านสื่อมวลชนถึง2คลิป อาจถูกมองว่าเป็นการเย้ย เจ้าหน้าที่ภาครัฟฐ เพราะไม่สามารถติดตามตัวหรือจับกลุ่มเสี่ยแป้งได้ แต่ในขณะเดียวกันสื่อมวลชนสามารถ ที่จะมีช่องทางสื่อสารกับเสี่ยแป้งจนกระทั่งได้มาชึ่งคลิปนั้น ส่วนตัวบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยู่ระหว่างการแกะรอยและไล่ล่า ยังไม่ได้มีการยุติ แต่ไม่ได้มองว่าเย้ยเจ้าหน้าที่รัฐ เพียงแค่อาจจะต้องใช้ขั้นตอนและการกระบวนการ และเชื่อว่าสุดท้ายผู้ที่หลบหนีคดีหรือ มีการหลบหนีการจับกุมสุดท้ายแล้วก็จะถูกจับทั้งหมด เพราะมีเคสส่วนใหญ่ให้เห็นหลายเคสแล้ว
กรณีการจัดงานคนดีชาวปักษ์ใต้เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยกิจกรรมดังกล่าว มีนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวในประเด็นขอให้เสี่ยแป้งมอบตัวและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งบนเวทีนั้นพบว่ามี พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ อดีตผู้กำกับจังหวัดพัทลุง (ตำแหน่งปัจจุบัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง) มีการร่วมกิจกรรมและกล่าวบนเวทีด้วย นั้น
วันนี้ (27 พ.ย.) ทีมข่าวช่อง8 ยังได้เดินทางไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ อดีตผู้กำกับจังหวัดพัทลุง (ตำแหน่งปัจจุบัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง) ซึ่งดำรงตำแหน่งในปี 2523-2526 และยังเป็นเพื่อนบ้านของแม่เสี่ยแป้ง ที่อยู่ในพื้นที่นาโมด จังหวัดพัทลุง
พล.ต.อ.สุนทร เผยว่าในขณะที่ตนเองรับตำแหน่งเป็นผู้กำกับจังหวัดพัทลุงในขณะนั้น และอยู่บ้านในพื้นที่นาโมด โดยเข้าใจว่าเป็นบ้านแม่ของเสี่ยแป้ง ในขณะนั้นเจ้าตัวน่าจะยังเด็ก และยังไม่ได้มีการก่อคดีหรือก่อเหตุอะไร จนกระทั่งโตตนเองก็ได้ย้ายออกจากพื้นที่เพื่อมารับราชการอยู่ในพื้นที่ภาคกลางและจังหวัดอื่น จึงทำให้ไม่ได้คลุกคลีหรือรู้จักกับเสี่ยแป้งเป็นการส่วนตัว แต่สำหรับแม่และพ่อของเสี่ยแป้งนั้น ตนเองรู้จักเพราะเนื่องจากมีบ้านใกล้กัน แต่ก็เข้าใจว่าในสมัยนั้นไม่ได้มีการเกิดเรื่องเกิดคดีอะไรขึ้น จนกระทั่งตนเองเพิ่งมารู้ว่าเสี่ยแป้งเป็นใคร ก็ตอนที่เกิดเหตุการณ์แหกคุกหนีออกจากโรงพยาบาล และเรื่องราวก็เริ่มตีข่าวโด่งดัง จึงทำให้ตัวเองรู้จักกับเสี่ยแป้งมากขึ้น
ภายหลังทราบว่าตัวของเสี่ยแป้งได้มีการหลบหนี และยังเกิดเหตุปะทะที่เทือกเขาบรรทัด ก่อนที่จะมีการเผยแพร่คลิปจนกระทั่งสะเทือนวงการหลายองค์กร ส่วนตัวในฐานะที่เป็นคนพัทลุงด้วยกัน เป็นคนข้างบ้านแม่เสี่ยแป้ง และยังเป็นคนปักษ์ใต้ รวมทั้งเป็นอดีตผู้กำกับจังหวัดพัทลุง อยากจะวิงวอนและขอให้เสี่ยแป้งมอบตัว เพราะการหนีก็ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น แต่การมอบตัวตนเองในฐานะคนพัทลุง ขอการันตีและยืนยันเรื่องของความปลอดภัย ว่าเสี่ยแป้งนั้นจะได้รับความปลอดภัยและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่ต้องการได้อย่างแน่นอน
กรณีการแฉคลิป และมีการพูดถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอัยการ หรือบุคลากรซึ่งเป็นพลเรือนของตำรวจ นั้น ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยแป้งอาจเสียผล หรืออาจจะไม่ได้รับความเป็น จึงได้มีการอัดคลิปดังกล่าว ส่วนตัวก็ชื่นชมในความกล้า ที่กล้าทำคลิปดังกล่าวจนกระทั่งทำให้หลายองค์กรเริ่มที่จะหันมาสนใจและอยากจะสะสาง แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น ตนเองอยากจะสะท้อนในมุมกลับกันว่า “คนที่ทำงานเป็นข้าราชการ แม้จะรู้จักโจร แต่ก็ไม่ควรที่จะช่วยเหลือโจร หรือไปร่วมกระทำผิดกับโจร แต่สามารถที่จะเรียนรู้และทำทำความรู้จักกันได้ หากวันใดที่พลาดพลั้งไปร่วมร่วมมือกับโจร ก็อาจเป็นเหมือนกับสิ่งที่เสี่ยแป้งกำลังออกมาแฉ
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุนทร ยังกล่าวถึงเบาะแสของเสี่ยแป้งว่า ส่วนตัวคาดการณ์เสี่ยแป้งยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย และกำลังอยู่กับพรรคพวกบางคน เพราะคนเราย่อมมีพรรคพวก และเท่าที่ตนเองทราบจากรายงานข่าว จากบุคคลบุคคลใกล้ชิด เสี่ยแป้งรู้จักทั้งนักการ ทั้งตำรวจ และที่สำคัญยังมีเพื่อนฝูงอีกเยอะ จึงไม่แปลกที่จะมีคนให้การช่วยเหลือและให้พักพิง แต่สุดท้ายแล้ว การที่เสี่ยแป้งยอมมอบตัว น่าจะเป็นเรื่องที่ดีและทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้