ค้นบ้านเสี่ยแป้ง2หลังอีกรอบแต่ไม่บุคคลที่ถูกออกหมายจับและสิ่งผิดกฎหมาย

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.พัทลุง ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กก.สส.ฯ จำนวน 2 ชุด เข้าค้นบ้านนายแป้ง นาโหนด หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง จำนวน 2 หลัง อีกรอบ เพื่อพบและยึดสิ่งของ ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด พบบุคคลที่ถูกออกหมายจับ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า กรณีที่เสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาหลบหนีจากโรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 22 ตุลาคม 2556 ได้หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ขนำในป่าลึกใกล้ๆบ้านในตระ เขตรอยต่อจังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง และ บริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง หมู่ที่ 6 ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด และได้เกิดยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าที่ปฏิบัติบนเทือกเขาบรรทัด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นั้น

 

หลังจากพล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์. ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุด ขึ้นบนภูเขาบรรทัดเพื่อสนับสนุนค้นหา นายแป้ง นาโหนด เป็นเวลาเกือบ 20 วัน แต่ปราฏว่าเสี่ยแป้ง นาโหนด ได้หลบหนีลงจากภูเขาบรรทัดตั้งแต่ค่ำคืนแรกของวันแรกที่เกิดการยิงปะทะกับตำรวจได้ไป และได้เผยแพร่คลิปวีดิโอคลิปแรกเปิดเผยความในใจสาเหตุที่หลบหนีการคุมควบของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ฯ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 และคลิปที่ 2 วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 

ซึ่งจากการเปิดเผยคลิปวีดิโอทั้ง 2 คลิป นั้นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สืบควานหาตัวนายแป้ง ตามแหล่งต่าง ๆ ที่คาดว่าเป็นสถานที่บันทึกคลิป จากตรวจคลิปเชื่อว่าคลิปดังกล่าวบันทึกในพื้นที่จังหวัดที่ติดกับจังหวัดพัทลุง  จังหวัดสตูล จังหวัดตรัง จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว

 

และล่าสุดเช้าวันนี้  28 พฤศจิกายน 2566   พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์  ผบก.ภ.จว.พัทลุง สั่งการให้พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง รอง ผบกฯ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์  ไชยโยธา รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์  ภิรมย์รักษ์รอง ผบก.ฯ และพ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.พัทลุง  พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กก.สส.ฯ เข้าตรวจบ้านของนายแป้ง นาโหนด จำนวน 2 หลัง

 

คือ ร่วมกันทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง  จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสุนันทา ฯ เจ้าบ้าน/ผู้ครอบครองบ้าน ซึ่งเป็นบ้านของแม่ภรรยานายแป้ง  ที่นายแป้งอาศัยอยู่ด้วยก่อนหน้านี้ เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิดพบบุคคลที่ถูกออกหมายจับ ผลการปฏิบัติ/ตรวจยึด  ไม่พบบุคคลตามหมายจับและไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่อย่างใด

 

และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันทำการตรวจค้นบ้านอีกหลังหนึ่ง ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ. พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของนายแป้ง นาโหนด แต่มีพี่สาวเป็นผู้อยู่อาศัยปัจจุบัน  เพื่อพบบุคคลตามหมายจับและสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆ ผลการตรวจค้นปรากฎว่าไม่พบบุคคลตามหมายจับและสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆแต่อย่างใดเช่นกัน และการค้นบ้านดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นการค้นครั้งที่ 2 หลังจากเกิดเหตุการณ์นายแป้ง นาโหนด หลบหนี ผู้ต้องหาหลบหนีจากโรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะหลบหนีกลับมากบดานพร้อมอาวุธปืนที่บ้านทั้ง 2 แห่งเป็นการชั่วคราว

 

วันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักภรรยาของแป้ง ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง  จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสุนันทา ฯ เจ้าบ้าน/ผู้ครอบครองบ้าน  เป็นบ้านของแม่ภรรยานายแป้ง  ที่นายแป้งอาศัยอยู่ด้วยก่อนหน้านี้ โดยไม่พบบุคคลตามหมายจับและไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณหน้าบ้านพักเป็นร้านอู่ซ่อมรถเก่าซึ่งตอนนี้ปิดไปแล้ว  และในบ้านพัก มีรถเก๋งสีขาวจอดหนึ่งคัน  เราพยายามอยากสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  หลังตำรวจเข้าตรวจค้น  แต่ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านพัก  โดยปิดเงียบและล็อกบ้านไว้

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านหลังที่สองที่เป็นบ้านน้าสาวแป้ง  ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ. พัทลุง  เป็นบ้านของของนายแป้ง นาโหนด  ซึ่งจากข้อมูลพบว่าแป้งมีชื่อในทะเบียนบ้านที่บ้านหลังนี้  โดยเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สองชั้น

 

เราพบกับนางสำราญ (นามสมมติ) น้าสาวของแป้ง อายุ 70 กว่าปี  บอกว่า  เช้าวันนี้ทางตำรวจเข้ามาตรวจค้นบ้านตน  โดยจำไม่ได้ว่ามากี่นาย  เข้ามาตรวจค้นสองจุด  จุดแรกในบ้าน ค้นทั้งชั้นบนชั้นล่างอย่างละเอียด  จุดสองตนที่สวนยางพาราของบ้านพักตนซึ่งอยู่หลังบ้านพัก ตนไม่ทราบสาเหตุที่ตำรวจมาค้น  อาจมาหาเบาะแสของหลานชายตนเพิ่ม  แต่ตนยืนยันไปแล้วตนไม่ทราบข้อมูลและไม่รู้เรื่อง  เพราะไม่ได้ติดต่อกับหลานมานานแล้ว

 

ยอมรับว่าชื่อหลานชายอยู่ในทะเบียนบ้านตนจริง  เพราะช่วงวัยรุ่นตอนที่พ่อแม่หลานยังไม่เสียชีวิต  พ่อของแป้งไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง  ตนจึงบอกให้เอาชื่อแป้งเข้ามาในชื่อทะเบียนบ้านของตน  จึงทำให้แป้งมีชื่อในทะเบียนบ้านของตนตั้งแต่นั้นเป็นตนมาหลายปีแล้ว

 

แต่จริงๆแล้วหลานก็เกิดและโตที่นี่  แต่ไม่ได้อยู่ตลอดซึ่งแม่ของหลานก็ไปอยู่ที่อีกบ้านพักหลังหนึ่งและเอาแป้งไปอยู่ด้วย  จากนั้นแป้งก็แต่งงานกับเมียคนแรก  สักพักก็เลิกรากันไปก่อนมาแต่งงานกับเมียคนล่าสุด  และไปใช้ชีวิตที่บ้านของเมียที่ตำบลท่าแค  รู้เพียงว่าหลานชายรักเมียคนนี้มาก  ซึ่งระหว่างนั้นก็ไม่ได้ติดต่อหลานและหลานก็ไม่ได้มาเยี่ยมตนที่นี่อีกเลย

 

ยืนยันว่าหลานไม่ได้มาหลบซ่อนตัวหรือพักอาศัยอยู่ที่นี่และซึ่งสภาพแวดล้อมบริเวณหลังบ้านเป็นสวนยางพาราไม่ได้มีลักษณะคล้ายสวนปาล์มที่หลานอัดคลิปออกมา  ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องประเด็นที่หลานแหกคุกหนี  เพราะเท่าที่ตนรู้จักแป้งก็เป็นคนที่นิสัยดีแล้วก็น่ารักกับญาติทุกคน

 

พี่ชายแป้งพาสำรวจสวนปาล์มบ้านญาติและชาวบ้าน  ยันสภาพสวนปาล์มไม่คล้ายในคลิป ในขณะที่ทีมข่าวสำรวจสวนปาล์มในพื้นที่เพิ่มเติมพบมีลักษณะต้นปาล์มที่มีอายุใกล้เคียงกับคลิปที่เสี่ยแป้งอัดออกมา  แต่บริเวณโดยรอบไม่ได้มีรั้วลวดหนามเหมือนในคลิป

 

วันนี้นายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์  พี่ชายแป้ง  ยังพาทีมข่าวสำรวจสวนยางพาราและสวนปาล์มใน ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ. พัทลุง  เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย  และแสดงความบริสุทธิ์ใจ  เนื่องจากเมื่อเช้านี้ทางตำรวจได้มาหาเบาะแสมีการค้นบ้านญาติเนื่องจากสันนิษฐานว่าบ้านญาติแป้งอาจจะมีลักษณะสวนปาล์มคล้ายในคลิปซึ่งอาจให้ที่พักพิงแป้งในการซ่อนตัว

 

จุดแรกที่เราสำรวจคือบริเวณริมถนนหน้าบ้านพี่พงซึ่งเป็นพี่ชายแป้ง  จะเห็นว่าบริเวณด้านข้างและบริเวณด้านหน้าเป็นสวนยางพาราไม่ใช่สวนปาล์ม

 

จุดที่สองพี่พงษ์พาทีมข่าวเดินไปที่สวนปาล์มของญาติซึ่งติดกับสวนยางพาราของพี่พงษ์  ลักษณะเป็นสวนปาล์มที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี  ยังไม่โตเต็มที่เหมือนที่ปรากฏในคลิปที่แป้งออกมาแฉ  และเป็นสวนปาล์มที่ไม่มีรั้วลวดหนามที่แบ่งอาณาเขต  ซึ่งในส่วนของสวนปาล์มแห่งนี้ยังมีสภาพรกเพราะยังไม่ได้ตัดหญ้า  และมีต้นลองกองปลูกแซมในสวนแห่งนี้

 

จากนั้นก็พาเราสำรวจจุดที่สาม  ซึ่งเป็นสวนยางพาราหลังบ้านพักน้าสาว  ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจได้ค้นบ้านของแป้งและมาตรวจสอบที่สวนยางพาราแห่งนี้ที่พี่พงษ์พาทีมข่าวสำรวจ  โดยลักษณะเป็นสวนยางพาราขนาดใหญ่หลังบ้านพักน้าสาว  ซึ่งบริเวณข้างสวนยางพาราก็มีสวนปาล์มสวนปาล์มมีอายุประมาณหนึ่งถึงสองปียังไม่โตเต็มที่ 

 

ยืนยันว่าในคลิปพี่แป้งอัดคลิปออกมาแฉเป็นลักษณะสวนปาล์มที่มีอายุประมาณ 3-4 ปี  และยังมีรั้วลวดหนามที่แบ่งอาณาเขตส่วนตัวไม่ทราบว่าน้องชายอยู่ที่ไทยหรือต่างประเทศ  แต่ลักษณะในคลิปน่าจะไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย

 

ต่อมาลักษณะสวนปาล์มใน หมู่ 6 ต.นาโหนดซึ่งเป็นสวนปาล์มของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง  พบว่ามีสวนปาล์มของชาวบ้านอยู่ตามริมถนนซึ่งลักษณะเป็นสวนปาล์มที่มีอายุประมาณ 2-4 ปี ใกล้เคียงกับสวนปาล์มที่ปรากฏในคลิปของเสี่ยแป้ง  แต่เมื่อสำรวจแล้วไม่พบบริเวณสวนปาล์มของชาวบ้านมีรั้วลวดหนามแบ่งอาณาเขต  โดยจากข้อมูลของชาวบ้านก็ยืนยันว่าในชุมชนแห่งนี้อยู่กันอย่างพี่น้องจึงไม่ได้มีการทำรั้วลวดหนามในการแบ่งอาณาเขตว่าเป็นสวนของใคร

 

ภายหลังที่ตำรวจได้มีการตรวจค้นบ้านแม่ยายเสี่ยแป้งรวมถึงบ้านน้าสาวของเสี่ยแป้ง  รวมสองหลังช่วงเช้าวันนี้  ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอร (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนาโหนด  บอกว่า  ส่วนตัวไม่ทราบว่าช่วงเช้าวันนี้ทางตำรวจได้มีการค้นบ้านญาติของเสี่ยแป้งในละแวกนี้  ส่วนตัวไม่ได้ตกใจที่ตำรวจมาค้นเพราะตำรวจก็ต้องทำตามหน้าที่คงหาเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องที่นักโทษแหกคุกหลบหนี

 

แต่หากถามว่าตนกังวลหรือไม่หากตำรวจจะมีการค้นบ้านชาวบ้านเพื่อมาตรวจสอบบริเวณสวนยางพาราหรือสวนปาล์มในชุมชน  ยืนยันว่าหากตำรวจจะมาค้นบ้านของชาวบ้านก็ยินดีให้ตรวจค้น  เพราะชาวบ้านที่นี่บริสุทธ์ใจ  เนื่องจากเชื่อว่าหากแป้งจะมาหลบ มาอยู่ที่นี่ตำรวจก็มีการมาตรวจดูตามบ้านญาติของแป้งอยู่แล้ว ก็เชื่อว่าถ้าแป้งจะหนีก็คงไม่มาในพื้นที่บ้านเกิดหรือบ้านญาติ

 

 

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร อดีต ผบช.ปส.เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านช่องยูทูบ Happy Family หัวข้อ EP.40 พูดแนะนำ "เสี่ยแป้งนาโหนด" ล่าสุด ให้ติดต่อท่านเรวัชแล้วจะรอด

 

โดยระบุว่า “สำหรับตนนั้นแป้ง นาโหนดนั้นก็เป็นผู้ต้องขังคนหนึ่งที่หลบหนีการควบคุมมา ก็วางแผนมาไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร แต่ว่าต้องมีการใช้เงินแน่ ติดสินบนเจ้าหน้าที่แน่ ตนเชื่อว่านายแป้งเริ่มติดสินบนตั้งแต่บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าป่วยแล้ว เพราะมันไม่น่าจะป่วยจริง ทางนั้นก็ไม่คิดว่าจะหลบหนี อาจจะคิดแค่ว่าอยากจะสบายหน่อย พอออกมาก็หลบหนีออกมาได้ ซึ่งตนมองว่าเป็นการหลบหนีออกมาด้วยความคับแค้นใจ

 

สมมติว่าตนเป็นแป้ง กำลังอยู่ที่บ้านเฉย ๆ แล้วมีคนโทรมาบอกว่าลูกหลานโดนจับให้ไปช่วยหน่อย เมื่อพาพวกไปช่วยแป้งก็โดนจับกุมข้อหาปล้นทรัพย์ มีแค่แป้งและจรวดที่ติดคุก แต่คนที่โทรมาวางแผนให้คือข้าราชการและตำรวจและคนอื่นทำไมไม่ติดคุก ในเมื่อมันชั่วร่วมกันทำงานด้วยกัน ทำไมถึงรอดไม่ติดคุก นอกจากนี้ยังมีข่าวว่ามีการเรียกเงินแป้งไปด้วยเพื่อวิ่งคดีนี้ แต่ไม่รู้วิ่งอย่างไร วิ่งให้คนอื่นรอดแล้วใหแป้งติดคุก ทำให้แป้งคับแค้นใจและออกมาพูดความจริงทั้งหมด

 

ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นประเด็น โดยท่านอัยการสูงสุด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่คุมดีเอสไอ ถ้าเป็นคดีสำคัญดีเอสไอก็มีหน้าที่สอบสวน คดีนี้ตำรวจและอัยการภาค 9 สั่งไม่ฟ้องและตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ทำความเห็นแย้ง แต่ถ้าปรากฏพยานหลักฐานใหม่ที่สำคัญ ทางอัยการสูงสุด หรือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สามารถที่จะสั่งรื้อฟื้นคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ อันนี้ถือว่าแป้งทำสำเร็จแล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าแป้ทำตามที่ตนแนะนำในคลิปที่ผ่านมา ซึ่งตนเชื่อว่าคดีนี้ต้องมีผู้ถูกดำเนินคดี

 

รายละเอียดในสำนวนที่ตนใช้วิธีสอบถามจากน้อง ๆ ทราบว่าคดีนี้ผู้เสียหายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้ตัวอยู่แล้วว่าใครชื่ออะไร มาก่อเหตุพฤติการณ์อย่างไร ตรงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าไฟสว่างตรงนั้นมีกล้องวงจรปิด เป็นคดีง่าย ๆ ห่างบ้านประธานติ่งและอัยการบอยไปไม่เท่าไหร่ ทำให้แป้งคับแค้นใจนอนอยู่บ้านเฉย ๆ กลับโดนเรียกไปติดคุกคนเดียว พอแป้งมาเปิดแบบนี้ก็น่าจะมีคนติดคุกเพิ่ม อย่างน้อยแป้งก็จะได้ไม่เหงาเวลามามอบตัว

 

พล.ต.ท.เรวัช ยังได้แนะนำแป้งอีกว่า “มึงอย่าพกปืนติดตัวนะ เลิกเก่ง ถึงจะเป็นอดีตทหารพราน เก่งยิงปืนอะไร ต่อไปนี้อย่าพกปืนติดตัว แล้วหนูจะไม่ตาย หนูหนีไปอย่างไรเดี๋ยวก็โดนจับได้ ผมเชื่อมั่นว่าเดี๋ยวก็โดนจับได้ ไปไม่รอดหรอก ผมให้ต่อให้ไม่หนีในประเทศ ออกไปนอกประเทศไปอาเจะ เกาะใกล้ ๆ นี้ได้แล้ว หนูก็ไปไม่รอดหรอกลูก อย่างไรก็ต้องโดนจับ แต่หนูเปิดเผยข้อมูลที่มันเป็นประโยชน์ที่จะมารื้อขบวนการยุติธรรมระดับตำรวจระดับอัยการ”

 

ส่วนแป้งนั้นตนก็ขอเรียกร้องให้ออกมาพูดข้อมูลให้ชัดเจนต้องเล่าให้หมดแบบนักเลง ต้องพูดแบบใก้การในชั้นศาลเลย เพราะว่ามันจะกลายเป็นพยานหลักฐานที่ศาลจะรับฟัง และก็อย่าไปใส่หมวกให้คนสงสัยว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่า ให้เปิดเผยมาเลยว่าตนชื่ออะไร อยากจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมเรื่องอะไร และที่สำคัญอย่าพกปืนให้ขว้างทิ้งไปเลย

 

ที่แป้งออกคุกมาแล้วทำคลิป ก็ต้องดูว่าทำไมถึงไปถ่ายที่รั้วลวดหนาม เรื่องนี้มองว่าเป็นความฉลาดเพราะจะเป็นรั้วลวดหนามจริงหรือว่าไปเอาลวดหนามมาขึงแล้วถ่ายให้เห็นว่ามีรั้วลวดหนามก็ได้ เพราะตำรวจจะได้ไปตามหาว่ามีสวนปาล์มที่ไหนบ้างที่มีรั้วลวดหนาม เผลอ ๆ แป้งอาจจะนอนอยู่บ้านใครแบบสบาย ๆ แต่หลอกให้ตำรวจไปตามอีกทาง แต่ตนก็เชื่อว่าตำรวจก็คงไม่โง่ขนาดนั้น ก็เป็นเวรกรรมที่ต้องไล่จับกันไป

 

“แต่ผมเองก็จากใจ ขอแนะนำว่า กูไม่ไม่หน้าที่จะกล่อมมึงอยู่แล้วไอ้หนู 1 .หนูไม่มีความมั่นจเลยว่าระหว่างถูกไล่ล่าหนูจะโดนวิสามัญหรือเปล่า ประเด็นสำคัญที่สุดถ้ าพรรคพวกแป้งหรือใครที่ส่งข่าวกับแป้งได้ ให้ติดต่อมาที่อาเรวัช ผมจะลงไปรับตัวเองถ้าหนูมามอบตัวนะลูก แล้วถ้ามึงมามอบตัวกับกูมึงจะไม่ตาย ไม่ให้ไปโดนกระทืบ ผมไปคนเดียวก็ได้ เรวัชไม่เคยกลัว และผมเป็นกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจอยู่ กว่าจะหมดวาระก็ปี 70 อันนี้เป็นเครื่องค้ำประกันได้ หรือมึงจะเคารพนับถือไอ้ลูกพี่มึงก็อยู่ภาค 9 อยู่”

 

ชุดล่าค้น 2 จุดหาที่กบดาน "แป้ง" พี่ชายเปิดบ้านพิสูจน์ไร้เงา มือปราบแนะทางรอดต้องวางปืน