จากกรณีที่มีเอกสารฉบับหนึ่งจากเสี่ยแป้ง นาโหนด โดยส่งถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ส่งมาถึง ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความที่เคยดูแลด้านคดีความให้เสี่ยแป้ง และมอบให้ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี โดยไม่รู้แหล่งที่มาว่าเสี่ยแป้งส่งมาจากช่องทางใด หรือเป็นของเสี่ยแป้งส่งมาจริงๆหรือไม่
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความที่เคยดูแลด้านคดีความให้เสี่ยแป้ง เพื่อถามถึงความเป็นมาของจดหมายจากเสี่ยแป้ง ฉบับดังกล่าวว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดยทนายชัชวาลเปิดใจกับทีมข่าวช่อง8 ว่า ในการได้รับจดหมายฉบับดังกล่าวจากเสี่ยแป้ง ส่งมาให้ในรายการดังกล่าว ตนคาดว่าเกิดจากการที่ตนประกาศอย่างเป็นทางการไปแล้วว่าตนจะออกรายการต่างๆ ซึ่งเสี่ยแป้งเองก็น่าจะทราบเรื่องนี้ดี จึงส่งมาที่รายการและให้ให้ทีมงานของรายการนำมามอบให้ในขณะออกอากาศเลย
แต่ตอนแรกตนเองคิดว่าเสี่ยแป้ง จะส่งเอกสารดังกล่าวมาให้ตนที่สำนักงานของตนเลยมากกว่า โดยจดหมายฉบับนี้นั้นตนยังไม่ได้เปิดอ่านแต่อย่างใด แต่ตนได้จับดูแล้วก็มีความหนาไม่มาก น่าจะเป็นแค่กระดาษไม่กี่แผ่น ส่วนข้อความภายในจดหมายนั้น ตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าภายในเขียนอะไรภายในบ้าง จะเป็นการพิมพ์มาหรือเป็นการเขียนมา และหากเขียนมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าข้อความที่เขียนมาเป็นลายมือของเสี่ยแป้งหรือไม่
โดยรายละเอียดทั้งหมดตรงนี้ก็สามารถไปสอบถามร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ได้เลยว่ารายละเอียดทั้งหมดของจดหมายฉบับนี้เป็นอย่างไรกันแน่ และจดหมายตัวนี้ตนก็ไม่ทราบแหล่งที่มาเช่นกันว่าถูกส่งมาเช่นไร แต่ถ้าให้เดาตนคาดว่าจดหมายฉบับนี้จะส่งมากเสี่ยแป้งเอง และถูกส่งต่อมายังญาติๆของเสี่ยแป้งที่ทางภาคใต้ จนมาถึงญาติที่กทม.ก่อนจะส่งมาที่รายการเพื่อให้ตนอีกต่อหนึ่งก็เป็นได้
ส่วนกรณีคนที่ได้รับจดหมายจากเสี่ยแป้งและมาส่งต่อเป็นทอดๆ ก็น่าจะไม่มีความผิดอะไรถ้าหากไม่มีการตัดต่อดัดแปลงจากของเดิม ยกตัวอย่างกรณีของนายสไว รุยันต์ นักข่าวท้องถิ่นประจำจ.พัทลุง ได้มีการติดต่อกับเสี่ยแป้งโดยตรง และได้นำคลิปของเสี่ยแป้งมาเปิดเผยต่อสาธารณชน แบบเป็นฉบับโดน ก็ถือว่าเป็นสื่อมวลชนที่ใจกล้ามากที่กล้าเปิดเผยอะไรแบบนี้
และตั้งแต่วันแรกที่ตนทราบข่าวว่าเสี่ยแป้งแหกคุกออกมา ก็ไม่เคยมีการติดต่อสื่อสารอะไรกันเลย ขณะเดียวกันตอนที่ตนทราบข่าวตนคิดเพียงว่าน่าจะมีสองประเด็นในหายไปจากคุก คือเรื่องถูกอุ้มโดยคู่อริ เพราะญาติทราบว่านายแป้งนั้นขาไม่ดีจึงไม่คิดว่าจะแหกคุกไปแบบนี้ และเรื่องแหกคุกไปแก้แค้นใครบางคน แต่ญาติก็คิดว่าการอยู่ในคุกนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอยู่ เสี่ยแป้งจะกล้าถึงขนาดนี้เลยหรือ เพราะยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน จนสุดท้ายจึงทราบว่าเสี่ยแป้งสามารถหลบหนีแหกคุกออกมาได้จริงๆ
สุดท้ายตอนนี้ตนก็อยากให้เสี่ยแป้งมอบตัว เพราะชีวิตแม้จะมีอิสระแล้วก็จริง แต่การต้องหลบๆซ่อนๆในชีวิตคงไม่มีความสุข แต่ถ้าหากวันนี้เสี่ยแป้งมามอบตัว และมีการรื้อคดีต่างๆใหม่หมด ก็อาจจะมีการยกฟ้องทั้งหมดก็เป็นได้ แต่เรื่องของการแหกคุกออกมา ยังไงก็ต้องได้รับโทษอยู่แล้ว ประมาณ 5 ปี แต่ถ้าหากรับสารภาพทั้งหมดก็อาจจะรับโทษกึ่งหนึ่งประมาณ 2 ปีครึ่ง แล้วก็ออกมาใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุขเหมือนเดิม