นายกฯ เยี่ยมชมสินค้า OTOP สันกำแพง บ้านเกิด ทักษิณ ชินวัตร ประกาศต่อยอด มรดก "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ริเริ่มไว้ ลั่นเป็นหน้าที่รัฐบาล ต้องผลักดัน OTOP ไปสู่เวทีโลก เตรียมวัด KPI ทูตพาณิชย์ ลั่น ต้องขายของให้ได้

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางถึงศูนย์แสดงจำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีชาวสันกำแพง รอต้อนรับให้กำลังใจ พร้อมมอบของที่ระลึกให้ โดย อ.สันกำแพง เป็นบ้านเกิดของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ จะเดินทางมาร่วมในงานดังกล่าวด้วย แต่เมื่อถึงเวลาพิธีกรในงานแจ้งว่า น.ส.แพทองธาร ติดภารกิจ ขอส่งกำลังใจมาให้ชาวสันกำแพงทุกคนแทน





ทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงชาวสันกำแพงได้ส่งเสียงต้อนรับ พร้อมชูป้ายข้อความให้กำลังใจจำนวนมาก จากนั้น นายกฯ ได้เดินทักทายชาวสันกำแพงที่มารอต้อนรับ พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนทักทายถ่ายรูปเซลฟี่กับชาวบ้านที่สวมผ้าสันกำแพงมาต้อนรับ

จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมบูธสินค้า OTOP และได้เซ็นชื่อในร่ม สันกำแพงซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้า OTOP และได้มอบร่มสีแดง ให้กับนายกและนายกฯได้กางร่มโชว์อย่างอารมณ์ดี นอกจากนี้ได้เซ็นชื่อบนตัวรูปปั้นช้างเคลือบหยก ที่มีความคงทนและแข็งเหมือนหิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้า OTOP โดยบนตัวช้างยังมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว s พี่ย่อมาจาก"เศรษฐา" แล้วจะต้องนำไปเคลือบหยกอีกรอบ ก่อนจะส่งมอบให้นายกรัฐมนตรีผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของที่ระลึก



โดยในระหว่างที่แวะบูธร้านกาแฟเทพเสด็จห้วยฮ่องไคร้ มีคุณยายวัย 86 ปี เข้ามาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี จนทำให้นายกรัฐมนตรีต้องลงไปนั่งคุกเข่าพูดคุยกับคุณยาย และสอบถามคุณยายว่า มีปัญหาอะไรให้ช่วยหรือไม่ คุณยายก็ได้กล่าวว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรแค่มาให้กำลังใจ

จากนั้น จึงได้ร่วมวงหารือกับผู้ประกอบการเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหา พร้อมกล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เตรียม Speed ให้อย่างสวยหรู 2 หน้า แต่การที่ได้มานั่งฟังตรงนี้ เราพูดกันเรื่องจริงดีกว่า และการที่ได้ลงพื้นที่ มันแตกต่างจากที่นั่งอยู่ที่ทำเนียบ แม้จะมีคนมาบอกทางออก แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี แต่มาวันนี้ได้ฟังทั้งผู้ประกอบการนักวิชาการคนรุ่นใหม่ เยาวชน ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะจังหวัดเชียงใหม่ก็เหมือนเป็นเมืองหลวงของ พรรคเพื่อไทย และสินค้า OTOP ก็ทำมา 20 ปีแล้ว ตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาสานต่อ ซึ่งถือเป็นมรดกที่รัฐบาลนี้ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่ตนควรจะให้ความกระจ่าง ให้ความหวัง ให้แรงบันดาลใจกับทุกคน



นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า เรื่องของการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เราผลิตสินค้าที่ดี แต่บางครั้งทั่วโลกยังไม่ทราบถึงข้อดี ที่ผ่านมาทางกระทรวงต่างประเทศ ได้ผลักดัน Soft Power เราได้มีการเชิญทูตไทยประจำทุกๆประเทศกลับมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อมาเน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการเป็นทูตพาณิชย์ทั้งหลายและวันนี้ท่านเข้าใจแล้วความต้องการของการตลาดต่อไป รัฐบาลจะมีการวัดเป็น KPI อยากเป็นรูปธรรม เช่นในปี 1 จะต้องขายเสื้อได้กี่ตัว ขายช้างได้กี่ตัว เรามีสินค้าดีอยู่ เราควรต้องเอาสินค้าเหล่านี้ไปเผยแพร่ ไปขายไปสร้างตลาดไปสร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เรามี KPI เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือทุกคนให้มีพื้นที่ในการแสดงสินค้า



อีกทั้งยังกล่าวอีกด้วยว่า อีกสองอาทิตย์ก็จะไปญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นด้าน OTOP ที่มีแพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม และมีโซเชียลมีเดียเยอะ จึงจะหาโอกาสนำผู้ประกอบการ OTOP ไทยไปญี่ปุ่นด้วย เพื่อดูความสำเร็จและนำมาปรับใช้ และพัฒนาให้ OTOP ไทย ไปสู่เวทีโลก พร้อมย้ำว่า ขอให้มั่นใจรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้อีกเรื่องหนึ่ง และอยากจะพาท่านไปสู่เวทีโลกซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องสร้างความหวังและแรงบันดาลใจ ที่จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน