ด้าน อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่มีการชิงตัวกันเกิดขึ้น สังคมต้องเข้าใจใหม่ ภาพที่จรวดโดนจับ ความเป็นจริงแล้ว แป้งกับจรวดเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ดังนั้น ที่แป้งไปชิงตัวคือแป้งจะไปชิงตัวจรวด แต่อัยการบอยพอได้รับการแจ้งมาจากพ่อของนายจรวด อัยการบอยเลยประสานไปทางด้านประธานติ่งว่าจรวดโดนอุ้ม แต่ไม่รู้ว่าแป้งรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร คาดว่าแป้งไปชิงตัวจรวดเอง เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีการเกี่ยวพันกันในเรื่องสิ่งผิดกฎหมาย และแป้งก็เป็นคนชิงปืนจากตำรวจ และประสานมาคืนกับเจ้าหน้าที่

อ.ปรเมศวร์พูดต่ออีกว่าหากแป้งคิดว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม สังคมต้องย้อนกลับไปดูคดีเก่าของแป้ง เพราะแป้งมีคดีเยอะมาก และมีหลายคดีที่ไม่โดนสั่งฟ้อง เช่นคดีตบผู้หญิงเหตุกเกิดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 62 ส่วนอีกคดีคือ คดีปิดรถล้อมยิง

พี่ชายยันจดหมายที่เรียกร้องความยุติธรรมเป็นลายมือของ”แป้ง” ชี้ปธ.ติ่ง-จรวดพูดไม่หมด โดยฝากถึงทั้งคู่ “อยากให้พูดความจริง อย่าเอาความดีใส่ตัว อย่าเอาความชั่วใส่เพื่อน คนใต้พูดความจริงพูดภาษานักเลง”

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายกษิดิ์ชาติ ทองด้วง หรือพงษ์ พี่ชายแป้ง เปิดใจกับหลายประเด็นว่า ประเด็นแรกจดหมายที่เสี่ยแป้งเขียนจดหมายด้วยลายมือ พร้อมลงชื่อ โดยฝากทนายความส่วนตัวส่งถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เนื้อหาในจดหมายดังกล่าว ระบุถึงการกล่าวอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนยุติธรรม

ในส่วนนี้ตนยืนยันว่าน้องชายไม่ได้ติดต่อมาผ่านตนแต่น้องชายติดต่อผ่านทนายความ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าน้องติดต่อผ่านทนายความได้อย่างไร และน้องอยู่ที่ไหนตอนนี้ ส่วนที่ว่าจดหมายดังกล่าวเป็นลายมือของแป้งจริงหรือไม่ยืนยันได้ว่าเป็นลายมือของน้องชายตน เชื่อว่าสิ่งที่น้องเขียนมาจากก้นบึ้งของหัวใจที่ต้องการซื้อออกมาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวน้อง และเป็นหลักฐานสำคัญที่น้องระบายออกมาให้ทุกคนรับรู้

ทั้งนี้ตนไม่เคยพูดคุยกับทนายความของน้องรวมถึงไม่เคยพูดคุยกับภรรยาของน้องตั้งแต่น้องแหกคุกหนีออกมา ยืนยันไม่ทราบว่าน้องอยู่ไหน ถึงอัดคลิปและติดต่อทนายได้ อาจมีคนอื่นก็ได้ที่รู้ความเคลื่อนไหวน้อง

ประเด็นที่สอง หลังจากที่น้องชายตอนอัดคลิปเพื่อร้องขอความยุติธรรมหลังจากมีเจ้าหน้าที่รัฐรับส่วยเพื่อช่วยคดี แต่สุดท้ายรับเงินไปแต่น้องชายติดคุก หลังจากน้องชายตอนอัดคลิปแล้วจะเห็นได้ว่ากระทรวงยุติธรรมมีจริงเพิ่งเริ่มดำเนินการ โดยมีการสั่งฟ้องตำรวจชุดอุ้มรีดเงินนายจรวด โดนข้อหาหนัก ผิด 157 อุ้มกรรโชกทรัพย์ ก็อยากถามว่าทำไมถึงเพิ่งสั่งฟ้องเพราะเรื่องเกิดมาตั้งหลายปีแล้ว ส่วนตัวมองว่าหากตำรวจทำตามที่น้องเรียกร้องความยุติธรรมคือดำเนินคดีกับ 5 ราย ที่น้องเอ่ยชื่อในคลิป เชื่อว่าน้องชายจะมามอบตัวแน่นอนเพราะน้องเป็นคนมีสัจจะพูดคำไหนคำนั้น ถ้าไม่จริงคงไม่ออกมาแฉขนาดนี้ เพราะตอนนี้น้องก็หัวซุกหัวซุนไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย

ประเด็นที่สาม เหตุการณ์ที่น้องพูดขณะอัดคลิป ยืนยันเป็นเหตุการณ์ที่เป็นข้อเท็จจริงและน้องพูดความจริงทั้งหมด ก็อยากฝากถึงคนที่น้องพูดชื่อในคลิปทั้ง 5 คน มีบางรายที่ให้สัมภาษณ์นักข่าว ซึ่งตนก็ได้ไปฟังสัมภาษณ์แล้ว อยากบอกประธานติ่งและจรวดว่าให้พูดความจริงบ้าง รู้อะไรอยู่ในใจของตัวเองทั้งนั้น อยากเรียกร้องให้พูดความจริง อย่าพลิกลิ้นกัน ว่าใครไปช่วย ใครโทรมาขอให้น้องไปหาเพื่อช่วยเหลือ

ซึ่งมี 2 ใน 5 ที่น้องเอ่ยชื่อโทรศัพท์มาหานอนก่อนน้องออกไปช่วยชิงตัวผู้ต้องหา ตนทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเนื่องจากน้องชายตนเล่าให้ฟัง “อยากให้พูดความจริง อย่าเอาความดีใส่ตัว อย่าเอาความชั่วใส่เพื่อน คนใต้พูดความจริงพูดภาษานักเลง” แต่ในส่วนนายจรวดตนไม่ทราบว่าสนิทหรือเกี่ยวความสัมพันธ์กับน้องตนอย่างไร แต่ประธานติ่งกับน้องชายตนรู้จักกันมานานแล้ว

ตามจริงแล้วในวันเกิดเหตุเป็นวันอังคาร ซึ่งแป้งเป็นคนที่ถือเรื่องฤกษ์ยาม วันอังคารเป็นวันเกิดของแป้งแป้งจะไม่ค่อยออกไปนอกบ้าน แต่วันนั้นหลังได้รับสายโทรศัพท์ปริศนาแป้งก็รีบออกไปทันทีเพื่อไปช่วยคนที่นับถือ ซึ่งพี่พงษ์ก็เอากระดาษฤกษ์ยามมาให้ทีมข่าวดู เป็นฤกษ์ยามที่ตนกับน้องก็จะดูประจำก่อนจะออกจากบ้าน ในส่วนวันนั้นพี่แป้งออกไปช่วยชิงตัวประกันน่าจะเป็นช่วงประมาณ 20.00 น, หากดูตามกระดาษฤกษ์ยามช่วง 20.00 น. วันอังคาร เป็นช่วงปลอดศูนย์ พูนสวัสดิ์ ภัยพิบัติ ลาภไม่มี แต่ปรากฏว่าคำทำนายก็เป็นจริงเพราะน้องตนลาภไม่มี แต่ว่าภัยพิบัติมาเต็มๆ

ทีมข่าวจึงได้สอบถามอีกว่าในส่วนวันที่แป้งเลือกปล่อยคลิปวิดีโอคลิปแรกออกมาซึ่งเป็นวันที่ 24 พฤศจิกายน แป้งได้ถือเรื่องฤกษ์ยามหรือไม่ ซึ่งพี่ชายก็บอกว่าไม่ทราบข้อเท็จจริงในส่วนนี้