ลุ้นศาลนัดชี้ชะตา กปปส.ชุดเล็ก ขับไล่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 56
จากกรณีการชุมนุมในนามกลุ่ม กปปส. มีการ์ดเป็นนักรบศรีวิชัย นักรบตะนาวศรี กลุ่มกระเบนธง บุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ขัดขวางต่อสู้ ขู่เข็ญเพื่อไม่ให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ได้ ประกาศปิดกรุงเทพมหานคร (BANGKOK SHUT DOWN) ตั้งเวทีปราศรัยปิดกั้นการจราจรสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ รวม 7 แห่ง โดยรอบเวทีชุมนุมได้นำเครื่องกีดขวาง อาทิ รั้วลวดหนาม แท่งแบร์ริเออร์ ยางรถยนต์ฯ พร้อมกับจัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ ขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง สส. ระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค.2556 และการใช้สิทธิของประชาชน ในการลงคะแนนล่วงหน้าวันที่ 26 ม.ค.2557 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ.2557 โจทก์ยื่นฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิด คดีนี้ศาลอาญาได้เลื่อนอ่านคำพิพากษา แกนนำ "กปปส.ชุดเล็ก" ชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้งเป็นวันที่ 1 ธ.ค.2566 เหตุยังพิจารณาคดีไม่แล้วเสร็จ ต้องพิจารณาเอกสารกว่า 4 หมื่นแผ่น
โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวไป
วันนี้ (1 ธ.ค. 66) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนัสเซอร์ ยีหมะ,นายอุทัย ยอดมณี,นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา น.ส.จิตภัสร์ หรือตั๊น กฤดากร ,นายพานสุวรรณ ณ แก้ว,นายประกอบกิจ อินทร์ทอง และนายกิตติศักดิ์ ปรกติ จำเลยในคดีมั่วสุม เป็นกบฏสมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดินและขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมทนายได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐาน "ร่วมกันมั่วสุม เป็นกบฏสมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฯ" โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2562 สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.2556-1พ.ค.2557
จำเลยกับพวกซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชน เพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จำเลย ที่ศาลพิพากษาลงโทษได้ร่วมกันกับพวกจำเลยคดีนี้ มั่วสุม เป็นกบฏสมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดินและขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้พ้นจากตำแหน่ง ยุยง ปลุกระดม ให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง ที่ห้องพิจารณา 807 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความในคดี กล่าวว่า คดีนี้เป็นกบฏ กปปส. ชุดกลาง จำเลย 7 คน โดยศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมฯ เช่นเดียวกับกรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำ กปปส.
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มคำพิพากษาของศาลจะเป็นไปในลักษณะเช่นเดียวของนายสุเทพ ที่พิพากษาจำคุกหรือไม่ ตอบว่า ต้องยอมรับว่า การชุมนุมมีผู้รักชาติรักแผ่นดินมาเป็นร่วมจำนวนมาก ดังนั้นพฤติการณ์ก็จะแยกออกเป็นกลุ่ม และในแต่ละกลุ่มพฤติการณ์ก็จะต้องแยกออกเป็นรายบุคคลอีก ซึ่งมองว่า ตามหลักการทางอาญาแล้ว การจะพิจารณาแบบเหมารวมไม่สามารถทำได้
ส่วนแนวทางในการต่อสู้ทางคดีนั้น ขอยืนยันว่า เป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง รวมถึงลักษณะของการปราศรัย เช่น น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ก็เป็นการแปลเนื้อหาข่าวสารให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการรายงานข่าว
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และพร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล