จากกรณีตำรวจกองปราบร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนชุดตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และชุดตำรวจภูธรภาค9 รวบตัวผู้ต้องหา 4 ราย ที่ช่วยเสี่ยแป้งหลบหนีออกจากเทือกเขาบรรทัด คือ นายอัซฮัร อายุ 30 ปี ชาวอ.เมือง จ.สตูล , นายทนงศักดิ์ อายุ 50 ปี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง , นายสืบศักดิ์ อายุ 38 ปี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง , และนายสุเชษฐ์ อายุ 39 ปี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง

 

จากข้อมูลของตำรวจเบื้องต้นระบุว่า ทั้ง 4 คนที่รวบตัวมา แบ่งหน้าที่ในการพาเสี่ยแป้งหลบหนีจากเทือกเขาบรรทัด โดยขี่รถจักรยานยนต์ไปรับแป้งลงจากตีนเขา , ขับรถเก๋งนำแป้งไปยังจ.สตูล , และขับรถกระบะนำทางรถเก๋งพี่แป้งนั่งอยู่ขณะอยู่ในพื้นที่จ.สตูล , และมีคนประสานงาน โดยขบวนการทั้งหมดมี 5 คน จับได้แล้ว 4 คน ซึ่งอีก 1 คน ที่หลบหนีอยู่คือนายกัมปนาท หรือโจ้ มีหน้าที่เป็นคนประสานงานในทีม

 

ล่าสุดจากรายงานพบว่า นายกัมปนาท หรือโจ้ ซึ่งเป็นคนสนิทของเสี่ยแป้ง ได้เข้าแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่จากรายงานยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสอบสวนที่ใด เนื่องจากรอขยายผลคดีนี้ต่อ เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายจับ นายกัมปนาท ในคดีช่วยแป้งหนีออกเทือกเขาบรรทัด และอยู่ระหว่างออกหมายจับเพิ่มอีกคดีช่วยแป้งหลบหนีออกโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช

 

ล่าสุดวันนี้ (01 ธ.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังบ้านของนายกัมปนาท ในพื้นที่ ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง โดยทันทีที่ทีมข่าวไปถึง ก็มีนางสมศรี (นามสมมติ) ซึ่งเป็นแม่ของนายกัมปนาท ได้เดินออกมาบอกทีมข่าวว่า ส่วนตัวทราบเรื่องที่ลูกชายถูกออกหมายจับ แต่ไม่รู้ว่าลูกชายไปมอบตัวกับตำรวจแล้วหรือไม่ เนื่องจากตัวแม่เอง ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ก็เลยติดต่อกับลูกชายไม่ได้

 

ส่วนเหตุการณ์วันที่เสี่ยแป้ง หนีออกจากโรงพยาบาล และวันที่ตำรวจปะทะกับเสี่ยแป้ง บนเขาบรรทัด แม่ยืนยันว่าลูกชายอยู่ที่บ้านกับแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ยืนยันว่าลูกชายอยู่ที่บ้านตลอด ซึ่งส่วนตัวแม่ ไม่รู้ว่าลูกชายเป็นเพื่อนกับนายสืบศักดิ์ และเสี่ยแป้ง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมาที่บ้าน

 

โดยจากการตรวจสอบ เฟซบุ๊กและคลิปในติ๊กต็อกของนายกัมปนาท หรือโจ้ พบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 64 ซึ่งเป็นปีที่มีการชิงตัวประกัน เจ้าตัวได้ลงคลิปซ้อมยิงปืนยาวลักษณะเดียวกันกับอาวุธปืนที่ตำรวจตรวจยึดมาได้

 

ส่วนในเฟซบุ๊ก ก่อนที่แป้งจะหนีออกมาจากโรงพยาบาล นายกัมปนาท ก็มีการลงคลิปยิงปืนกระบอกเดียวกันที่สนามยิงปืนเอาไว้เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

 

จากนั้นวันที่ 4 ตุลาคม มีการโพสต์ภาพไปแสดงความยินดีกับผู้ว่าฯจังหวัดสงขลา โดยมีนายสืบศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อวานนี้ไปด้วย

 

จากนั้นวันที่ 8 ตุลาคม นายกัปนาท ก็ได้มีการโพสต์รูป ที่ไปแสดงกับว่าที่ผู้ว่าคนในของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งก็จะมีนายสืบศักดิ์ ไปด้วย

 

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายทนงศักดิ์ ในพื้นที่ ตำบลวังใหม่ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ซึ่งบ้านของนายทนงศักดิ์ จากการตรวจสอบจะอยู่ติดกับบ้านของกำนันตำบลวังใหม่ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า นายทนงศักดิ์ เป็นน้องชายของกำนัน โดยชาวบ้านจะเรียกนายทนงศักดิ์ ว่านายหัวต่อ และในพื้นที่ใกล้บ้านของนายทนงศักดิ์ ทีมข่าวยังไปพบป้ายขนาดใหญ่ไว้ที่หน้าโรงเรียน ซึ่งเป็นการขึ้นป้ายเชิญชวนให้มาร่วมงาน โดยมีชื่อนายหัวต่อ ทนงศักดิ์ เพชรตีบ เป็นคนจัดงาน

 

ซึ่งวันนี้ทีมข่าวก็ได้ไปทั้งบ้านของนายทนงศักดิ์ และที่บ้านของกำนัน แต่ปรากฎว่าที่บ้านของกำนัน ไม่มีใครอยู่ในบ้าน ซึ่งบ้านของนายทนงศักดิ์ มีแต่คนงานที่กำลังสร้างบ้านหลังใหม่อยู่ในพื้นที่

 

ทีมข่าวจึงไปสอบถามกับ นางเจน (นามสมมติ) ชาวบ้านที่บ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านของกำนัน ซึ่งชาวบ้านบอกแต่ว่าไม่เห็นและไม่รู้ว่ากำนัน กับน้องชาย ขับรถออกไปจากบ้านตอนไหน และก็ไม่รู้ว่าตำรวจเข้ามาจับนายทนงศักดิ์ น้องชายของกำนันไปตอนไหน เนื่องจากตนเอง ไม่ได้อยู่ที่บ้าน แล้วที่ผ่านมาก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเข้าออกบ้านตอนไหนบ้าง

จากกรณีวานนี้30 พ.ย. 66 ตำรวจกองปราบ ร่วมกับกำลังตำรวจถูธรจังหวัดสตูล ได้สนธิกำลังเข้าบุกค้นบ้านพักของนายอัชฮัร อายุ 30 ปี ชาว ต.พิมาน อ.เมืองสตูล จากนั้นตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีขาว กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทำความผิด

 

โดยเป็นรถกระบะที่ใช้นำทางพานายเชาวลิตไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงูจ.สตูล ชุดจับกุมได้นำตัวนายอัชฮัร พร้อมรถยนต์ตำรวจสภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ดำเนินคดีต่อไป ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของนายอัชฮัร พบปัสสาวะสีม่วงด้วย

 

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านของนายอัชฮัรอีกครั้ง โดยบ้านของนายอัชฮัรเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น บริเวณด้านล่างทำเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งวันนี้ปิดร้านและบ้านเงียบไม่มีคนอยู่ และในละแวกบ้านนายอัชฮัรเป็นชุมชนในเมือง มีแต่ตึกแถวและบ้านเรือนของเพื่อนบ้านพักอาศัยติดกันไม่ได้มีสวนยางพารา หรือสวนปาล์มในละแวกนี้

 

ทีมข่าวยังสังเกตการณ์จากคลิปของเสี่ยแป้งที่ได้มีการอัดวิดีโอออกมาแฉเจ้าหน้าที่รัฐคลิปแรกฉากหลังอยู่ในสวนปาล์ม ซึ่งในบริเวณดังกล่าวมีรั้วลวดหนามแบบตาข่ายติดตั้งอยู่ และคลิปที่สองอัดคลิปในบ้านพักซึ่งมีประตูน้ำตาลแดงเป็นฉากหลัง จากการสังเกตการณ์ของนายอัชฮัรไม่พบสวนปาล์มที่อยู่ในละแวกนี้รวมทั้งไม่พบลักษณะฉากหลังคล้ายกับคลิปที่สองที่เสี่ยแป้งอัด

 

ภายหลังที่เราไม่พบใครพักอาศัยในบ้านพักของนายอัชฮัร เราได้ไปพูดคุยกับนางมะนาว (นามสมมติ) อายุ 42 ปี เป็นชาวบ้านในละแวกดังกล่าวบอกว่า ในส่วนวันที่ทางตำรวจได้บุกค้นบ้านนายอัชฮัร ตนไม่อยู่ในบ้านพักแถวนี้จึงไม่เห็นเหตุการณ์ตอนค้น แต่หลังค้นได้พูดคุยกับแฟนสาวของนายอัชฮัร ก็เล่าให้ตนฟังเพียงว่า ช่วงเช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน ตื่นมาเปิดประตูบ้านก็พบว่าตำรวจอยู่หน้าบ้านแล้ว ซึ่งตอนนั้นตำรวจก็ได้ขอค้นบ้านพัก จากนั้นก็มีการยึดรถกระบะสีขาวไป แฟนสาวของนายอัชฮัรยืนยันว่าไม่ทราบว่าทำไมแฟนหนุ่มถึงไปเอี่ยวในคดีของเสี่ยแป้ง

 

ปกติบ้านพักของนายอัซฮัรอยู่อาศัยกันสองคนคือนายอัซฮัรกับแฟนสาว ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว เป็นของแฟนสาวแต่นายอัชฮัรก็ช่วยขายก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำ ที่ผ่านมาในอัชฮัรก็เป็นคนนิสัยดีแล้วก็เป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไป

 

จากนั้นทีมข่าวได้นำคลิปวงจรปิดขณะรถเก๋งสีขาวนำขบวนรถเก๋งต้องสงสัยที่คาดว่าแป้งนั่งอยู่ให้นางมะนาวดู ก็ยืนยันทันทีว่าลักษณะรถกระบะสีขาวคล้ายกับรถกระบะของนายอัชฮัร ซึ่งปกตินายอัชฮัร จะใช้รถกระบะคันนี้ในการเดินทางเท่านั้น ส่วนก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นรถเก๋งสีดำหรือไม่ยืนยันว่าไม่ได้สังเกตจึงไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวได้เข้ามาในพื้นที่นี้หรือไม่

 

ขณะที่ถามว่าเคยเห็นต้นปาล์มลักษณะในคลิปที่เสี่ยแป้งอัดในระแวกนี้หรือไม่ ยืนยันชุมชนนี้ไม่มีสวนยางพาราหรือสวนปาล์ม แต่สวนปาล์มจะมีเยอะในอ.มะนัง จ.สตูล ในขณะที่ตนเคยเข้าไปที่บ้านพักของนายอัชฮัร ก็ไม่เคยเห็นลักษณะบ้านที่คล้ายกับคลิปสองของเสี่ยแป้ง

เพื่อนแป้งโวยถูกจับมั่วยันวันแหกคุกนั่งอยู่บ้าน โชว์ยิงปืนแชะถ่ายคู่บิ๊กจังหวัด