ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่บ้านพักของนายอัซฮัร ในพื้นที่อ.เมือง จ.สตูล โดยวันนี้บ้านพักปิดเงียบและไม่มีใครอยู่ สอบถามนางพร อายุ 60 ปี ยายของอัซฮัร บอกว่า วันนี้อัซฮัรไม่อยู่ในบ้านพัก เนื่องจากต้องไปส่งภรรยาขายของ แล้วต้องไปดูแลแม่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคไต ซึ่งป่วยหนักอยู่ในโรงพยาบาล จึงจำเป็นต้องเฝ้าอาการป่วยแม่ทุกวัน ยืนยันไม่ได้หนีนักข่าวจึงไม่อยู่บ้าน แต่เจ้าตัวมีภารกิจเยอะ และต้องสู้ชีวิตจึงไม่ค่อยอยู่บ้าน
ส่วนสภาพจิตใจหลายชายหลังถูกตำรวจแจ้งข้อหามีส่วนในการช่วยเสี่ยแป้งหลบหนี หลานชายไม่ได้มีภาวะเครียดเพราะยืนยันกับตำรวจไปแล้วว่าไม่ได้ทำ แต่หลานชายกังวลเรื่องอื่นหลังจากถูกแจ้งข้อหาในคดีนี้เพราะแม่ของหลานชายกำลังป่วยหนักกลัวว่าถ้ารู้ข่าวนี้จะทำให้ช็อคและอาการทรุดหนัก อีกทั้งมันกระทบถึงเรื่องการทำมาหากินของหลานเพราะรถกระบะสีขาวที่ปรากฏในภาพวงจรปิดเป็นรถของแฟนสาวหลานชายซึ่งตอนนี้ถูกตำรวจยึดไว้ที่สภ.ตะโหมด ทำให้ไม่มีรถในการเดินทางไปซื้อของเพื่อทำมาหากิน ทำให้ลำบากมากขึ้นเพราะต้องใช้รถจักรยานยนต์ในการไปซื้อของจำนวนมากหลายครั้ง
ยืนยันวันที่ตำรวจบุกค้นที่บ้านแล้วมีการคุมตัวหลานชายไปสอบปากคำที่สภ.ตะโหมด หลานชายยอมให้ยึดรถและยอมไปที่สภ. ทั้งๆที่หลานไม่ทราบว่าคุมตัวไปคดีอะไร จนกระทั่งถึงที่พัทลุงถึงรู้ว่าถูกดำเนินคดีช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนีก็ค่อนข้างตกใจว่าทำไมมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้
วันที่หลานขับรถกระบะวิ่งนำรถเก๋งดำต้องสงสัย เพราะเพื่อนโทรมาขอความช่วยเหลือ ก็ปกติเพื่อนวานให้ช่วยก็ไปตามที่เพื่อนขอ ซึ่งหลานไม่รู้ว่ารถเก๋งดำต้องสงสัยมีเสี่ยแป้งนั่งอยู่ในนั้น และหากถามว่าตนเองรู้จักเพื่อนหลานที่ชื่อต้นหรือไม่ยืนยันว่าตนไม่รู้จักและก็ไม่เคยเจอหน้าเพื่อนของหลานชายคนนี้ ดูจากลักษณะแล้วคล้ายหลานเพื่อนหลอกใช้ แล้วหลานก็ไปเกี่ยวข้องในคดีเสี่ยแป้งโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งหลานไม่รู้จักผู้ต้องหาอีก 4 คน ที่ถูกคุมตัวไปที่สภ.วันนั้น และไม่รู้จักเสี่ยแป้ง
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่ร้านค้าของนายต้น ผู้ต้องสงสัยในคดีช่วยเสี่ยแป้งหลบหนีออกจากเทือกเขาบรรทัดจ.พัทลุง หลังนายอัซฮัร ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวให้การตำรวจว่าได้รับการติดต่อจากนายต้น ให้ขับรถนำขบวนรถเก๋งสีดำในพื้นที่จ.สตูล โดยในทางการสืบสวนสอบสวนพบว่าในต้นเป็นคนจัดหาเรือให้เสี่ยแป้งหลบหนีออกนอกชายแดนไทย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายภพ (นาสมมติ) เป็นเพื่อนของนายต้น ยอมรับว่าตนเองกับนายต้นเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว ซึ่งยังได้ร่วมลงทุนร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสตูล แต่ระยะหลังตนเองทำงานเพียงฝ่ายเดียวและติดต่อนายต้นไม่ได้มาประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยไม่ทราบสาเหตุว่านายต้นหายไปไหน
ส่วนตัวเชื่อว่านายต้นไม่ได้รู้จักกันกับเสี่ยแป้งรอเสี่ยแป้งอยู่จ.พัทลุง ส่วนนายต้นเพื่อนของตนอยู่ในจ.สตูล ซึ่งเพื่อนก็ไม่เคยเล่าว่ารู้จักกับเสี่ยแป้งให้ต้นฟังจึงเชื่อว่าทั้งสองไม่ได้รู้จักกัน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนของตนจะไปมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีที่พาเสี่ยแป้งหลบหนี
ในส่วนนิสัยของนายต้น เป็นคนนิสัยดีอัธยาศัยดีและช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งก็เป็นหุ้นส่วนกับร้านขายเสื้อผ้ากับตนอีกด้วย