สาวเน็ตไอดอล ร้องขอความช่วยเหลือหลังเข้ารับบริการ คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งโดยวิธีเผาสมุนไพรที่หน้าท้อง ทำให้ไฟลุกลามตามร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ไร้การเยียวยา จนเครียดเพราะต้องใช้ร่างกายและหน้าตาทำงานจนเกือบจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย

จากกรณี นางสาวเกมส์ นามสมมติ อายุ 28 ปี เน็ตไอดอลสาวแฟนนักแสดงช่องดัง ส่งเรื่องร้องเรียนมายังกัน จอมพลัง เนื่องจากตนและแฟนได้เข้าใช้บริการ กับทางคลีนิคดัง ซึ่งหมอใช้วิธีการ รักษาด้วยการ เผายาหน้าท้อง ซึ่งต้องใช้ แอลกอฮอล์ 95% เทราดบนตัว และหมอได้จุดไฟ จนไฟลุมลามไปทั่วตัว หลังจากไฟลุกทั่วตัวหมอกลับวิ่งหนี ไม่ช่วยคนไข้และคลีนิคไม่ได้มีวิธีการป้องกันหากเกิดเหตุผิดพลาดทำให้น้องบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุหมอกับคลีนิค บ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ ทำให้ผู้เสียหายตัองหาเงินมารักษาตนเอง ตอนนี้ก็ยังรักษาตัวไม่หายดี  แถมยังไม่มีการเยียวยาใดๆ  กับทางคู่กรณี

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมผู้เสียหายได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณนวุฒิ) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว

นางสาวเกมส์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่าของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เนื่องจากตนเองเป็นเน็ตไอดอล มีคลินิกรักษาความงามได้ติดต่อมาทางแฟนของตนเอง เนื่องจากอยากให้ตนเองไปรักษาทางคลินิกเพื่อที่จะแลกกับการให้ตนเองโปรโมททางคลินิกให้

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2565 ตนเองได้เดินทางไปที่คลินิกตามนัด หลังจากที่เดินทางไปถึงคุณหมออธิบายขั้นตอนการรักษา จำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์ 95% นำสมุนไพรวางที่หน้าท้อง และจุดไฟเผาที่หน้าท้อง ซึ่งตนเองได้ทักท้วงไปว่าจะเกิดอันตรายหรือไม่ แต่ทางคุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวล มีคนเข้ามาทำแล้วหลายคน หลังจากนั้นคุณหมอได้เริ่มทำการรักษาโดยการนำสมุนไพรว่างไว้บริเวณหน้าท้อง ราดแอลกอฮอร์ จุดไฟเผา จากนั้นไฟก็ลุกลามตามร่างกายของตนเอง ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นคุณหมอได้วิ่งหนีออกไปจากห้อง แฟนของตนพยายามเข้ามาช่วยดับไฟ โดยการนำหมอนมาช่วยดับไฟ หลงจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นคุณบอกเข้ามาแล้วบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง

หลังจากนั้นตนเองได้เข้ารับการรักษาซึ่งคุณหมอบอกว่าบาดแผลบริเวณหน้าท้องถูกไฟไหม้ระดับสาม ซึ่งแรกๆคุณหมอทางคลินิกมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้บางส่วน ต้องนอนโรงพยาบาล 2 อาทิตย์มีการผ่าตัดหลายครั้ง และต้องรักษาต่อเนื่อง เพราะบาดแผลถูกเผาไหม้ทั้งตัว จำเป็นต้องรักษาโดยการใช้เลเซอร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หลังจากนั้นทางคลินิกกับคุณหมอก็ปัดความรับผิดชอบ ไม่ได้รับการเยียวยา ทำให้ตนเองต้อง ใช้เงินส่วนตัวรักษาตัวเองเป็นจำนวนมาก

ตนเองจำเป็นต้องทำงาน เนื่องจากต้องใช้หน้าตาและร่างกายในการทำงานเนื่องจากเป็นเน็ตไอดอล บางครั้งทำให้ตนเองรู้สึกอยากฆ่าตัวตายเนื่องจากรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ไหว

สิ่งที่ตนเองออกมาพูดในวันนี้ เนื่องจากอาชีพคุณหมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ตนเองเจอคือคุณหมอไม่ออกมารับผิดชอบใดๆเลย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ที่ตนเองไปแจ้งความรับเรื่องไว้แล้ว แต่คดีความผ่านมานานถึง 1 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า วันนี้ได้พาน้องผู้เสียหายมาร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากน้องถูกคลินิกดังกล่าวรักษาโดยการราดแอลกอฮอล์ ลงไปที่หน้าท้อง อ้างว่าหากรักษาแบบนี้จะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี และสามารถลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ แต่หลังจากที่คุณหมอราดแอลกอฮอล์เสร็จ คุณหมอจุดไฟเผา ทำให้ไฟลามไปเผาร่างกายของผู้เสียหาย แต่ แต่คุณหมอกลับวิ่งหนีไม่เข้ามาช่วยเหลือต้องให้แฟนของผู้เสียหายเข้าไปช่วยดับไฟด้วยตัวเองหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งระยะเวลาผ่านมาแล้วหนึ่งปีทางคลินิกไม่ได้ออกมารับผิดชอบใดๆ

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณนวุฒิ) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องราวร้องเรียนเข้ามา เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในคลินิกเอกชน วันนี้จะส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบทางคลินิก เพื่อเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการดังกล่าว ว่าได้รับใบอนุญาติถูกต้องหรือไม่ ตรวจสอบมาตราฐานความปลอดภัย ต่างๆ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องของความผิด จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางคลินิกได้เปิดเป็นคลินิกเสริมความงาม ไม่ได้เปิดในลักษณะคลิกแพทย์แผนไทย ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีการรักษาดังกล่าวได้ ผิดมาตราฐาน ซึ่งมีความผิดหลายข้อหา

ขอยืนยันกับผู้เสียหายว่าอย่างไรก็ตาม จะดูแลผู้เสียหาย และดูแลป้องปรามทางคลินิกอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม และไม่ให้ผู้เสียหายรายอื่นๆเกิดขึ้นอีก

โดยต่อมา.นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส. ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน เข้าตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่ง  อยู่ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ปากซอยรามอินทรา 12

จากการลงพื้นที่พบว่าคลินิกยังเปิดให้บริการตามปกติ มีเจ้าหน้าที่ให้บริการอยู่ด้านใน หน้าคลินิกติดป้ายข้อความรักษาอาการต่าง ๆ อาทิ เผายา ,ฝังเข็ม ,ครอบแก้ว ,นวดปรับโครงสร้างร่างกาย, ผิวสวยหน้าใส ไมเกรน ,นอนไม่หลับ ,ออฟฟิศซินโดรม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบด้านใน ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ โดยใช้เวลาตรวจสอบชั่วโมงครึ่ง

จากนั้น นายชาตรี พินใย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยพบว่าคลินิกดังกล่าวมีแพทย์แผนจีน 1 คน ทั้งที่ขออนุญาตเป็นสหคลินิกต้องมีแพทย์แผนไทยประยุกต์อยู่ด้วย ซึ่งมีความผิดตามกฏหมาย

การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ไม่พบผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรา 35 พ.ร.บ.สถานพยาบาล จากนี้จะมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการโฆษณาในสื่อโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ก พบว่าไม่มีการขอโฆษณาก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน  ส่วนการตรวจมาตรฐานต่างๆหากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะส่งสภาการแพทย์แผนไทยพิจารณาทางด้านจริยธรรมต่อไป

ทั้งนี้ทางกรม สบส. ได้ออกมาตรการทางปกครองออกคำสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้แก้ไขภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตามผู้ดำเนินการสถานดังกล่าวไม่สามารถมาพบได้ ไม่อยู่ในสถานที่ที่เข้าตรวจ ต้องถูกดำเนินคดี ฉะนั้นการเปิดสถานพยาบาล ตามกฏหมายต้องมีผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ตลอดเวลาทำการ

ส่วนเรื่องมาตรฐานสถานที่ไม่ผิดปกติ ส่วนมาตรฐานการรักษาน่าจะมีความผิดปกติทั้งเครื่องมือและยาเครื่องเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องให้ อย. มาร่วมตรวจ ยังไม่สามารถได้ ต้องเจอข้อหาอะไรบ้าง

ส่วนเรื่องการจุดไฟเผายาเพื่อทำการรักษา ตามมาตรฐานการแพทย์แผนไทยในเบื้องต้นน่าจะสามารถดำเนินการได้ แต่สถานที่น่าจะมีการเซฟตี้มากกว่านี้ ทั้งการป้องกันการเยียวยาต่าง ๆ ซึ่งในวันเกิดเหตุไม่มีการป้องกันใด ๆ มันเป็นเหตุความประมาท อย่างไรก็ตามหากไม่มีการแก้ไขตามที่ออกคำสั่งก็จะพิจารณาว่าจะสั่งปิดหรือไม่

สำหรับการรักษาผู้เสียหายในวันเกิดเหตุ มีแพทย์แผนจีนเป็นคนรักษาคนแรก คนรักษาคนต่อมาเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ซึ่งไม่ได้ทำประวัติเลยผิดจรรยาบรรณแน่นอน ส่วนแพทย์ที่ทำการรักษาผู้เสียหายพบว่าเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตอนนี้ลาออกจากคลินิกไปแล้ว ยืนยันมีการดำเนินคดีแน่นอนทั้งทางแพ่งและอาญา ในส่วนของคลินิกต้องจัดทำประวัติผู้ป่วยหากฝ่าฝืนก็จะสั่งปิดต่อไป

ด้าน นายบี เพื่อนชายของผู้เสียหาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เปิดเผยว่า วันนั้นได้พาผู้เสียหายไปใช้บริการเผายาหน้าท้องโดยมีการใช้สมุนไพรและแอลกอฮอล์ตามปกติ โดย คุณหมอเองได้ใช้แอลกอฮอล์ราดไปที่สมุนไพรซึ่งมันอยู่บนหน้าท้อง ตอนนั้นตนเองสังเกตว่าแอลกอฮอล์ได้ไหลออกมาจากสมุนไพรท่วมบริเวณหน้าท้องและไหลไปด้านหลัง และตอนนั้นเองคนไข้ได้บอกว่าแอลกอฮอล์ได้ไหลไปทั่วแขน และหลังแต่ด้านคุณหมอก็ยังเพิกเฉย ไม่มีการแก้ไข

แต่ตนเองเห็นว่าเป็นแพทย์จึงมีความเชื่อใจและให้ทำการรักษาต่อ  ซึ่งมีการทำการรักษามาจนถึงรอบที่ห้าซึ่งเป็นรอบที่เกิดอุบัติเหตุตอนนั้น ได้เกิดเพลิงท่วมร่างน้องเขา เมื่อตนเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจและคิดว่าถ้าหากเกิดเหตุไฟลุกลามขึ้นมาใรห้อง ตนเองคงจะถูกไฟคลอกและอาจตายไปด้วย แต่ตอนนั้นจึงคิดจะช่วยชีวิตน้องเขาให้มากที่สุดเพราะตนเองกลัวว่าไฟที่ลุกไหม้อยู่นั้นจะลามไปติดแอลกอฮอล์อีกหนึ่งถัง ที่อยู่ในห้อง และน้องได้ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความเจ็บปวด ตนเองจึงดึงมือน้องเค้าลงออกมาจากเตียง

โดยรีบใช้หมอนและผ้าห่มดับไฟ แต่เมื่อไฟไม่ยอมดับ ตนเองจึงบอกให้น้องกลิ้งตัวไปกับพื้นและพยายามดับไฟให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนั้นไฟเองก็ลามมาที่ต้นขาของตนทำให้ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ตอนนั้นผู้ช่วยหมอก็ได้แต่เพียงรองน้ำจากก๊อกน้ำมารดที่ตัวน้องเค้าตลอดเวลาเพื่อที่จะให้ลดอาการบาดเจ็บ

หลังจากนั้นหมอคนก่อเหตุก็ได้วิ่งกลับมาหลังจากไฟสงบลงแล้วและได้กล่าวคำว่าขอโทษ และบอกว่าจะทำทุกอย่างให้กลับมาเหมือนเดิม และพยายามที่จะให้นำรถส่วนตัวไปส่งโรงพยาบาล แต่ตนได้ขอร้องให้เรียกรถพยาบาลจะดีกว่า และขณะเดียวกันสิ่งที่ตนเห็นคือคุณหมอได้เข้า Google และค้นหาวิธีปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟไหม้เบื้องต้น และคุณหมอเองก็ทำตามขั้นตอนของ Google ตามลำดับ ซึ่งตนรู้สึกว่าคนเป็นหมอควรมีวิธีการรักษาคนไข้ที่เกิดอุบัติเหตุได้ดีมากกว่านี้เพราะผ่านการเรียนรู้มา 

ซึ่งหลังจากที่ตนเองดับไฟเสร็จแล้วผู้บาดเจ็บนั้นไม่สามารถขยับตัวได้  ซึ่งจากในคลิปจะเห็นว่าสามารถลุกขึ้นมาได้แต่หลังจากนั้นไม่นานคนเจ็บกลับไปนอนร้อง ด้วยความเจ็บปวด ตนเองจึงต้องยืนเป็นหลักเพื่อให้คนเจ็บนั้นพยายามพยุงตัวขึ้นมา