สืบศักดิ์ ยันไม่เคยมีรถสีดำ และไม่รู้เห็นกับการที่เสี่ยแป้งหลบหนีไป
ล่าสุดทีมข่าวช่อง8 ได้เดินทางมาพบกับนายโก้ง สืบศักดิ์ แสงจันทร์ อายุ 38 ปี 1 ใน 5 ผู้ต้องหาที่ตำรวจแจ้งข้อหาช่วยเหลือพาเสี่ยแป้งหลบหนีลงเขาบรรทัดอีกครั้ง ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมข่าวช่อง8 ได้มานั้น นายโก้งเป็นคนขับรถเก๋งวีออสสีดำ ไปส่งเสี่ยแป้งถึงท่าเรือที่จ.สตูล ก่อนขึ้นเรือและหลบหนีออกนอกประเทศไป
โดยนายโก้งเปิดใจกับทีมข่าวทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนนั้นขอยืนยันว่าอยู่แถวบ้าน นั่งดื่มสุราที่บ้านเพื่อนตลอด และไม่เคยรถออกไปต่างจังหวัดเลย ซึ่งรถเก๋งสีดำจากกล้องวจป.ตนไม่เคยขับและไม่เคยมีรถสีนี้ด้วย เพราะที่บ้านตนจะมีแค่รถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีขาว และรถกระบะที่ติดโลโก้ร้านของตนเท่านั้น
และเรื่องที่ตำรวจมุ่งเป้ามาหาตนพร้อมกับแจ้งข้อหาว่าตนช่วยเหลือพาเสี่ยแป้งหลบหนีลงเขาบรรทัด ตนรู้สึกเครียดมากเพราะตนไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อนในชีวิต ส่วนในตอนที่ตำรวจมาที่บ้านและเชิญตนไปให้ปากคำนั้น ทางตำรวจก็ได้บอกกับตนว่า ได้ข้อมูลชิ้นสำคัญมาว่าตนนั้นเป็นนั้นเป็นคนขับรถเก๋งวีออสสีดำ พาเสี่ยแป้งไปส่งที่สตูล ซึ่งตนก็ปฏิเสธในทันทีว่าตนไม่ได้ไปส่งและไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าหากตำรวจยังมีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับตนที่เป็นคนขับรถไปส่งเสี่ยแป้งจริง ตนก็พร้อมจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย
รวมถึงเรื่องของนายโจ้ กัมปนาท ที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น ตนก็รู้จักเป็นการส่วนตัว โดยอยู่ด้วยกันเสมอ อีกทั้งนายโจ้ กัมปนาทเป็นเพื่อนสนิทของตนเช่นเดียวกับเสี่ยแป้ง และจากข้อมูลของตำรวจที่มีการเชื่อมโยงว่านายโจ้ กัมปนาท คือ 1 ใน 5 คนที่ช่วยเหลือพาเสี่ยแป้งหลบหนีลงเขาบรรทัด ก็เพราะตนกับนายโจ้ กัมปนาท มักจะโทรหากันบ่อยมาก ทำให้ทางตำรวจอาจจะคิดว่านายโจ้ กัมปนาท ต้องส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของเสี่ยแป้งแน่ๆ และขอยืนยันอีกคนนึงเลยว่านายโจ้กัมปนาท จะเข้ามามอบตัวภายในสัปดาห์นี้แน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนได้
ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด.จากทางช่อง 8 ที่ได้มาเป็นจังหวะที่นายเดี่ยว สุเชษฐ์ กำลังพาเสี่ยแป้งซ้อนท้ายรถจยย.สีดำหลบหนีนั้น เมื่อตนได้ดูแล้วตนไม่กล้าการันตีว่าใครเป็นใคร เพราะตนไม่ได้สนิทกับนายเดี่ยว สุเชษฐ์ และคนซ้อนท้ายที่คล้ายกับเสี่ยแป้ง ก็ไม่ขอพูดดีกว่าเพราะไม่รู้คนๆ นี้คือใครกันแน่ เลยอยากให้คนติดตามข่าวไปตัดสินเองดีกว่า แต่ส่วนตัวตนมองว่าคนที่ขับจยย.และคนซ้อนท้าย เหมือนกับคนใส่ชุดไปตัดยางและกำลังออกไปตัดยางมากกว่า
สุดท้ายตนอยากฝากเรื่องที่เสี่ยแป้ง เพื่อนของตน ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนมองว่าทำไมเสี่ยแป้งต้องถูกสั่งฟ้องและต้องถูกจำคุกอยู่คนเดียว โดยเสี่ยแป้งเคยมานั่งปรับทุกข์กับตนว่าการไปช่วยนายจรวด ตนถูกหลอกไป ซึ่งในตอนที่เสี่ยแป้งไปช่วยนายจรวด ตำรวจได้มีการแสดงบัตรเจ้าหน้าที่แล้ว ทำให้เสี่ยแป้งสั่งหยุดยิงปะทะกับตำรวจทันที พร้อมบอกกับพวกของตัวเองว่า หากใครจะยิงตำรวจก็ต้องมามีเรื่องกับตนแทน แต่นายจรวดไม่ยอมฟัง มีการแย่งปืนจากตำรวจและยิงใส่ตำรวจไป 2-3 นัด นั้นจึงทำให้เสี่ยแป้งโกรธมาก อีกทั้งพอมีการดำเนินคดี เสี่ยแป้งคิดว่าตัวเองเป็นห้ามทุกคนแล้ว แต่ยังถูกดำเนินคดีและถูกคนเดียวอีก จึงทำให้แค้นฝังใจตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
เปรียบเทียบภาพบุคคลปริศนา วันแป้งลงเขา 9-10 พ.ย. 2566