จากกรณีรถโดยสารประจำทาง สาย 9914 กทม.-นาทวี รถหมายเลขทะเบียน 14-3301 กรุงเทพมหานคร ชนต้นไม้ข้างทาง เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าหาดวนกร กม.331+450 อ.ทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์ (ขาล่อง) ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 32 ราย และไม่บาดเจ็บ จำนวน 3 ราย
รถทัวร์คันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่บนรถ 3 ราย รับผู้โดยสารจำนวน 46 คน จากสถานีขนส่งสายใต้ มุ่งหน้า อ.นาทวี จ.สงขลา แวะรับประทานอาหารที่ร้านสุภาพชนสามร้อยยอด ก่อนเดินทางต่อ
ผู้โดยสารที่รอดชีวิต เปิดเผยว่า ซื้อตั๋วจะไปลงที่หาดใหญ่ รถทัวร์คันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มทุกที่นั่ง จำนวน 46 คน ในตั๋วระบุว่าเป็น ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ แต่ตัวรถเป็นของบริษัทศรีสยามเดินรถ
เปิดใจญาติ 1 ในผู้เสียชีวิต รสบัสมรณะพุ่งชนต้นไม้เสียชีวิต 14 ราย
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยพบทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถบัสคันดังกล่าวเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้อีกจุดหนึ่งแล้วส่วนในพื้นที่ยังหลงเหลือข้าวของบางส่วนของผู้โดยสารที่กระจัดกระจายอยู่เต็มข้างถนนระหว่างนั้นมีญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายด้วยบรรยากาศเศร้า
ด้านน.ส.ชุติภรณ์ ลูกสาวผู้ตาย เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนเองเป็นลูกสาวของนายเชน อายุ 62 ปี ผู้เสียชีวิต เมื่อวานนี้พ่อของตนได้ขึ้นรถคันนี้ในช่วงเวลาประมาณสองทุ่มโดยขึ้นรถจากแม่กลองจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านมายังจังหวัดสงขลาเพราะบ้านอยู่ที่นี่โดยพ่อตนได้ทำงานอยู่ที่นั่นและจะกลับมาที่บ้านเนื่องในวันวันพ่อ
โดยล่าสุดที่ตนได้คุยกับพ่อคือตอนที่พ่อเพิ่งขึ้นรถพ่อได้แชทมาหาตนว่าขึ้นรถแล้วหลังจากนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ตนก็ได้ดูข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นตอนแรกตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นรถคันที่พ่อตนนั่งแต่ด้วยความตงิดใจตนจึงได้เปิด GPS ของพ่อดูก็พบว่าอยู่ในที่เกิดเหตุตนจึงตัดสินใจเดินทางมาที่โรงพยาบาลทับสะแก
พอมาถึงตนก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ว่ามีรายชื่อของพ่อตนอยู่ในรายชื่อของผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตหรือไม่แต่ก็ไม่พบรายชื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกให้ตนรอก่อนเพราะว่ายังมีบางรายยังไม่ได้ยืนยันรายชื่อ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตบางรายเสร็จ จึงพบว่าเป็นรายชื่อของพ่อตนอยู่ในนั้นและจึงเดินทางไปดูศพเพื่อยืนยันว่าใช่
เบื้องต้นตอนนี้ตนได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าจะเร่งช่วยเหลือเยียวยาต่างๆเดี๋ยวจะมีการนัดมาคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ชาวบ้านเผย เห็นคนเจ็บนอนร้องขอความช่วยเหลือเต็มไปหมด
ด้านนายฉอ้อน ชาวบ้านที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ย้ายร่างคนเจ็บออกจากรถ เล่าให้ทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า ตอนนั้นตนนั่งอยู่อยู่ที่อู่รถของตนเองและมีเจ้าหน้าที่ประสานมาว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นตนจึงได้ขับรถไปพร้อมพร้อมกับลูกชายเพื่อที่จะไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในด้านการยกรถแต่พอไปถึงก็พบว่าเป็นอุบัติเหตุขนาดใหญ่และคนเจ็บติดอยู่ภายในรถเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้ไปช่วยเจ้าหน้าที่ในการดึงร่างของผู้บาดเจ็บออกมา โดยสภาพรถค่อนข้างเละแบบที่เห็นและมีต้นไม้เสียบอยู่ตรงกลางของรถ ตนกับเจ้าหน้าที่จึงคุยกันว่าจะต้องเคลื่อนย้ายร่างของผู้บาดเจ็บออกมาก่อนและค่อยนำร่างของผู้เสียชีวิตมาภายหลัง
โดยตลอดระยะเวลาที่ทำการขนร่างผู้บาดเจ็บออกมาตนก็จะได้ยินเสียงผู้บาดเจ็บร้องด้วยความเจ็บปวดและขอให้ตนช่วยเหลือเขาแล้วบอกว่าเขาเจ็บตรงนั้นตรงนี้ โดยการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากสภาพรถค่อนข้างเละและด้วยความที่รถมีสองชั้นทำให้ชั้นบนการที่จะไปนำร่างผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตออกมาจะต้องปีนขึ้นไป
โดยหลังจากเคลื่อนย้ายร่างของผู้บาดเจ็บเสร็จร่าง ของผู้เสียชีวิต ไม่สามารถเอาออกมาได้เพราะรถอัดทับหมดแล้ว ตนจึงได้ไปเอารถยกสองคัน มาลากรถออกเป็นสองส่วนเพื่อที่จะขนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกมา
12 ปี ก่อนเคยเกิดอุบัติเหตุจุดนี้เสียชีวิตทั้งหมด 12 ราย แต่ครั้งนี้หนักสุด 14 ราย
ด้านพันจ่าอากาศเอกฉัตรชัย สวียานนท์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับทีมข่าวช่องแปดว่า ตนได้รับแจ้งเหตุประมาณเที่ยงคืนครึ่ง จึงได้ให้ทีมงานอบต.ห้วยยางลวพื้นที่ตรวจสอบ พบเป็นอุบัติเหตุหมู่มีผู้โดยสารมาในรถรวมคนขับแล้วทั้งหมด 49 ราย
โดยจากการตรวจสอบพบมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 15 รายและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด 14 ราย จึงได้นำส่งทั้งหมดสองโรงพยาบาลคือโรงพยาบาลทับสะแกและโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ส่วนในกระแสข่าวที่ว่ามีเด็กเสียชีวิตด้วยยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่ในรถมีเด็กจริงแต่เพียงบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นไม่ได้เสียชีวิต
ที่ผ่านมาในพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นทางตรงโดยเมื่อ 12 ปีที่แล้วก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแบบนี้เสียชีวิตทั้งหมด 12 ราย หลังจากนั้นพอมาเกิดเคสนี้ก็ต้องยอมรับว่าเคสนี้เป็นเคสที่หนักที่สุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งแตะด้วยความที่ถนนมันเป็นเส้นตรงและไม่มีพื้นพื้นที่ขรุขระ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาการวูบหลับของคนขับเองทั้งนั้น
โดยหลังจากนี้ทางศูนย์ความปลอดภัยทางถนนก็จะมีการประชุมร่วมกันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ามาหาวิธีแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อที่จะไม่ให้มีการสูญเสียเช่นนี้อีก