บิ๊กอาณาจักรคิงส์โรมัน ทุ่มงบมหาศาล 10 ล้านล้านหยวน ผุดแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม ไทย-จีน-ลาว หวังให้ "สามเหลี่ยมทองคำ" เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย
อย่างที่ทราบกันดีว่า "เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ" ตั้งอยู่ในเมืองต้นผึ้ง แขวงห้วยทราย สปป.ลาว หรือที่รู้จักกันในนาม "อาณาจักรคิงส์โรมัน" ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ถูกโลกภายนอกโจมตีอย่างหนัก มองว่าเป็นพื้นที่สีเทาค่อนไปทางสีดำ ทำให้ในรอบหลายปีที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้ถูกมองว่าเป็นแหล่งอบายมุข บ่อนการพนัน ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงที่มีกลุ่มทุนจีนสีเทามาลงทุนในประเทศไทย ทำให้ถูกพาดพิงจากภายนอกว่า จ้าวเหว่ย ผู้ก่อตั้งอาณาจักรคิงส์โรมัน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการเปิดตัว เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ให้โลกภายนอกได้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการค้า การลงทุน การเติบโตของเมืองที่เป็นไปอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด รวมไปถึงมีการจัดการและกวาดล้าง การกระทำผิดกฎหมาย ออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ล่าสุด (6 ธันวาคม 2566) มีรายงานว่า จ้าวเหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในเขตเศรฐกิจพิเศษแห่งนี้ว่า ในเรื่องของยาเสพติดที่ถูกมองจากภายนอก ทางเราได้มีการจัดการมาโดยตลอด ปัจจุบันเราได้ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐของรัฐบาลลาว เข้ามาเสริมในการจัดการกวาดล้างยาเสพติด นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารเข้ามาร่วมด้วยในการป้องกันไม่ให้มีการนำยาเสพติดเข้ามาภายในได้ ทำให้การจัดการยาเสพติดในเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นระบบ
นอกจากการป้องกันจากภายนอกแล้วยังมีการกวดขันภายใน หากพบว่าผู้ใดยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะควบคุมตัวมารับโทษภายในเขตเศษฐกิจพิเศษ โดยการนำไปใช้แรงงาน ตามจำนวนยาเสพติดที่พบ อาจจะ 1-2 เดือน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง หลังจากนั้นก็จะนำตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลลาวดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้เรื่องยาเสพติดในปัจจุบันลดลงไปอย่างมาก แม้ว่าจะยังไม่สามารถดำเนินการกวาดล้างได้ทั้งหมดแต่เราก็ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการป้องกันและจัดการกับยาเสพติด
การเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีการเติมโตอย่างรวดเร็ว มีนักลงทุนทั้งจาก จีน ไทย ลาว เข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับนักลงทุน ซึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านโลจิสติกส์ที่มีท่าเรือน้ำลึก สำหรับเรือสินค้าเพื่อนำเข้าสินค้ามาจำหน่าย ด้านการคมนาคม
ปัจจุบันทางการก่อสร้างสนามบินสากลบ่อแก้ว ตั้งอยู่ในเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ห่างจากเขตตัวเมืองสามเหลี่ยมทองคำไปทางทิศตะวันออก 5 กิโลเมตร ซึ่งเริ่มก่อสร้างเดือนกันยายน 2563 มูลค่าการลงทุนประมาณ 5,700 ล้านบาท เพื่อรองรับการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุน โดยมีความยาวรันเวย์ปัจจุบัน 2,500 เมตร รองรับ แอร์บัส A320 และโบอิ้ง 737 ได้ครั้งละ 3 ลำ และกำลังขยายความยาวรันเวย์เป็น 4,000 เมตร เพื่อให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ และเปิดใช้งานเป็นท่าอากาศยานนานาชาติในปี 2024
จ้าวเหว่ย กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจ ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำว่า เราไม่ได้ต้องการให้มีการเติบโตเพียงเฉพาะในพื้นที่ของเราเท่านั้น เราได้มีการพัฒนาควบคู่กันไปทั้งที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และทาง สปป.ลาว ทั้งด้านการท่องเที่ยว ขนส่ง โลจิสติกส์ ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาร่วมกับทางท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ด้วย หลังจากนี้จะมีการพัฒนาร่วมกันที่ดีขึ้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันไปในอนาคต ทั้งในฝั่งไทย และ สปป.ลาว
“เขตเศรษฐกิจพิเศษกำลังเน้นนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับ สปป.ลาว ให้มีคนนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เราได้มีการลงทุนจัดทำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน ลาว เพื่อเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยได้ทุ่งงบประมาณในการก่อสร้างโครงการนี้ประมาณ 10 ล้านล้านหยวน และจะมีโครงการสุวรรณคงคำที่กำลังพัฒนา จะทำให้เป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งมีแผนที่จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ฝั่ง ทั้งไทย-ลาว และจะมีการจัดการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการโครงการอีกหลายโครงการ เช่น ส่วนน้ำ ดรีมพาร์ค ทำให้เกิดการท่องเที่ยวที่หลากให้ครอบคลุมหลายมิติ” ประธาน เขตเศรษฐกิจพิเศษกล่าว
นอกจากเรื่องของเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเยาวชนที่เป็นบุตรหลานของนักลงทุน พนักงาน และผู้ที่มาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยได้มีการเปิดโรงเรียนประถมดอกงิ้วคำ ปัจจุบันได้เปิดเป็นปีแรกมีนักเรียนประมาณ 300 คน โดยมีหลักสูตรการสอน ที่เน้นภาษาจีนเป็นหลัก และมีมาตราฐานที่จะสามารถไปเรียนต่อในสถานศึกษาระดับมัธยมได้ โดยจะมีนักเรียนชาวจีน ลาว เมียนมา และไทย มาเข้าเรียน