เจอแล้ว! สาวถูกฆ่าหมกไร่มันสำปะหลัง
จากกรณีที่เจอศพหญิงนิรนามในวันที่ 2 ธ.ค.66 บริเวณพื้นที่หมู่ 13 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในสภาพถูกอำพรางหมกร่องน้ำไร่มันสำปะหลัง ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ เนื่องจากตอนที่พบศพนั้นเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ทำให้สภาพศพเริ่มขึ้นอืด ประกอบกับไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนอยู่กับร่างผู้ตาย แต่บนร่างกายผู้ตายนั้นมีรอยสักคำว่า "สายเถื่อน" อยู่บริเวณหลังต้นคอ นอกจากนี้บริเวณแผ่นหลังมีรอยสักรูปพ่อแก่ และรูปพ่อปู่ฤาษี
ล่าสุดวันนี้ที่ สภ. ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้มีญาติมาติดต่อขอยืนยันตัวตนศพหญิงนิรนามคนดังกล่าว ว่าคือ "ส้ม" หรือ นางสาวจันทร์จิรา อายุ 27 ปี ซึ่งได้ออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 01.00 น.
นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงคดีของนายจีระพันธ์ที่ผูกคอเสียชีวิตอย่างปริศนา เนื่องจากการเสียชีวิตของทั้งสองรายห่างกันเพียง 1 กิโลเมตร
เมียผู้ตายเชื่อ ต้องมีคนฆ่าจัดฉากเผยสงสัยคนใกล้ตัว
ด้าน นางวันณิกา อายุ 37 ปี รรยาของนายจีระพันธ์ (ผู้ตาย) เล่าว่า ตนนั้นไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าสามีจะผูกคอตาย อยู่ด้วยกันมา 20 ปี ตนนั้นรู้จักนิสัยสามีดี ซึ่งทุกอย่างมันทำให้ตนตั้งข้อสงสัยไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ผ้าขาวม้าแขวนคอ หรือจะเป็นเรื่องใช้กุญแจเหน็บไว้ที่คอเสื้อ ทุกอย่างมันตรงข้ามกับนิสัยใจคอของนายจีระพันธ์
ซึ่งถ้าถามว่าก่อนหน้านี้ตนกับนายจีระพันธ์เคยมีปัญหากันหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคงจะไม่มี แต่สามีนั้นเคยเข้ามาคุยกับตน โดยบอกว่า "ขอมีกิ๊กได้ไหม ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ น่ารักนะ เอาใจเก่ง" ตอนนั้นตนก็บอกไปว่า "อยากจะมีก็มีเถอะ ขนาดต่อหน้ายังกล้าขอ ลับหลังจะไปเหลืออะไร" ซึ่งตอนนั้นตนก็พูดไปอย่างไม่ใส่ใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยจับได้ว่าสามีนั้นเคยมีผู้หญิงอื่น แต่คิดว่านี่คงไม่ใช่สาเหตุที่ทำฝห้สามีคิดสั้น และที่สงสัยอีกอย่างหนึ่ง คือ "นายข้าวฟ่าง" ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายจีระพันธ์ โดยก่อนหน้าที่จะเจอศพนายจีระพันธ์ ตนได้พยายามสอบถามไปยังเพื่อนของสามีทุกคน แต่ก็มารู้สึกสะดุดใจกับผู้ชายคนนี้ เนื่องจากก่อนที่จะเจอศพสามี นายข้าวฟ่างได้โพสต์ภาพเตียงพยาบาลกับรถกู้ภัย พร้อมบอกว่า "หมดทุกข์หมดโศกเลยนะเพื่อน" ตอนนั้นตนก็ได้โทรศัพท์ไปถาม นายข้าวฟ่างก็ตอบกลับมาว่า "เพื่อนผมผูกคอตาย" และหลังจากที่นั้นอีก 3 วัน ตนก็ไปเจอว่านายจีระพันธ์ได้เสียชีวิตในสภาพที่ถูกแขวนคอกับต้นไม้
หลังจากที่ทุกคนทราบข่าวว่านายจีระพันธ์เสียชีวิต เพื่อนร่วมงานก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่นายข้าวฟ่างก็ได้สวนขึ้นมาว่า "เจอศพแล้วหรอ แล้วผู้หญิงที่ตายตรงนั้น ใช่แฟนอาร์มหรือเปล่า คนตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ที่อาร์มพาออกไป" ทุกคนก็ได้งงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะนายข้าวฟ่างนั้นพูดคล้ายกับคนที่รู้อะไรมาแล้วปิดบังไว้ หลังจากนั้นตนก็ได้พยายามติดต่อไปหานายข้าวฟ่างเพื่อไขข้อสงสัย ปรากฏว่านายข้าวฟ่างนั้นได้บล็อกโทรศัพท์ไปทุกช่องทาง วันนี้ตนจึงสงสัยว่านายข้าวฟ่างจะรู้อะไรมาหรือเปล่า แต่เลือกที่จะปิดบัง แต่ตนก็ได้อยากปรักปรำใครสุ่มสี่สุ่มห้า ตอนนี้ก็ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ก็คงรอให้ผลตรวจจากนิติเวชออกพรุ่งนี้ จะได้รู้ว่าจริง แล้วสาเหตุของการเสียชีวิตคืออะไร
พ่อ-แม่ ยันเสียงแข็ง ลูกถูกฆาตกรรมแล้วจัดฉาก
วันนี้ครอบครัวของนายจีระพันธ์ หรือ อาร์ม อายุ 33 ปี ได้เข้ามารับเอกสารที่ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี เพื่อเตรียมจะไปรับร่างของนายจีระพันธ์ ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจในพรุ่งนี้เช้า
ด้านนางรัญจวน แม่ของผู้ตายก็ยังคงเชื่อว่าลูกชายจะถูกฆาตกรรมแล้วจัดฉากให้เหมือนกับคนฆ่าตัวตาย แต่ตนเชื่อว่ายังไงลูกชายก็คงไม่คิดสั้น เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ดูปกติดีทุกอย่าง แต่มันมีหนึ่งสิ่งที่ผิดปกติ คือ จู่ ๆ นายจีระพันธ์ก็พูดขึ้นมาดื้อ ๆ ว่า "คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ต่อหน้าอย่าง ลับหลังก็อีกอย่าง ไว้ใจไม่ได้" ตอนนั้นตนก็ถามลูกชายว่ามีเรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้น แต่นายจีระพันธ์ก็ตอบว่า "ไม่มีอะไร แม่ไม่ต้องรู้หรอก"
ทางด้านของนายนพรัตน์ พ่อของนายจีระพันธ์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายมีอาการเครียดอย่างหนัก และมีการอสดงท่าทีฉุนเฉียว แต่ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายเป็นอะไร ได้แต่บอกเขาว่าให้ใจเย็น ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่เชื่ออยู่ดีง่าลูกชายจะผูกคอตาย เพราะก่อนที่จะออกจากบ้านไป เขายังพูดคุยยิ้มแย้มกับครอบครัวอยู่เลย ตอนนี้ก็คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงาน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าใครทำอะไร ก็ต้องได้รับผลเช่นนั้น และเชื่อว่ากฎแห่งกรรมจะให้ความยุติธรรมกับลูกชาย
ด่วน! รวบแล้วมือฆ่าสาวรอยสัก คุมตัวนายนนท์มาโรงพัก
ล่าสุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยใหญ่ จังหวัดชลบุรี ได้ควบคุมตัว "นายนนท์" มาที่โรงพัก ซึ่งสามารถไปจับกุมตัวได้ร้านค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ขณะที่ตำรวจบุกไปจับกุมตัวนั้น พบว่านายนนท์กำลังนั่งดื่มเหล้าเพื่อย้อมใจอยู่ เพราะนายนนท์นั้นคงจะรู้ชะตากรรมตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้นายนนท์นั้นได้โทรศัพท์ไปสารภาพกับญาติๆ จึงบอกให้มอบตัวและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าจับกุมตัว และเบื้องต้นได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆาตกรรม น.ส.จันทร์จิรา จริง โดยก่อเหตุในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนจะนำศพมาอำพรางในพื้นที่ จ.ชลบุรี
ซึ่งขณะที่ได้ควบคุมตัวนายนนท์ เข้ามาที่ สภ.ห้วยใหญ่ ทีมข่าวก็ได้พยายามสอบถามถึงปมเหตุในการฆาตกรรม น.ส.จันทร์จิรา และถามถึงเรื่องผ้ายันต์ดังกล่าว แต่ไม่ทันจะได้คำตอบ ญาติ ๆ และสามีของ น.ส.จันทร์จิราก็ได้ปรี่เข้ามาทุบตีและต่อว่านายนนท์อย่างหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบพาตัวนายนนท์เข้าห้องสืบสวนทันที
สามีผู้ตายเผยไม่รู้จักคนชื่อนนท์ แต่เชื่อว่าเป็นคนก่อเหตุ
ด้านนายพลวัฒน์ สามีของ น.ส.จันทร์จิรา (ผู้ตาย) เผยว่า ทั้งคู่นั้นคบหาดูใจกันมา 6 ปี และจดทะเบียนสมรสกันเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมาความรักก็ราบรื่นดี ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องมีที่สาม แต่มาช่วงหลังๆ ก็รู้สึกว่าภรรยาเริ่มเปลี่ยนไป จนในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 น.ส.จันทร์จิรา นั้นได้บอกว่าจะไปทำงานในเวลาประมาณ 01.00 น. ตอนนั้นตนก็ไม่คิดอะไรและไม่อยากจะถามเซ้าซี้ จึงปล่อยให้ไป จนกระทั่งช่วงเที่ยงของวันต่อมา น.ส.จันทร์จิรา ก็ได้วิดีโอคอลมาหาบอกว่าถึงที่ทำงานแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นสายสุดท้ายที่ตนได้คุยกับภรรยา หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้อีกเลย ซึ่งตนก็รู้สึกเอะใจเพราะไม่เคยหายไปหลายวันแบบนี้ แต่ก็คิดว่าภรรยาคงไปค้างอยู่บ้านเพื่อน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ มีคนส่งข่าวมาให้ตนดูว่าพบศพมีรอยสักคล้ายกับภรรยาของตน จึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นคือภรรยาของตนจริง ๆ
ส่วนตัวตนนั้นไม่รู้จักนายนนท์ และไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ของนายนนท์กับภรรยาว่าจะแอบไปคบหากันหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่านายนนท์คงเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อฝนี้ และอาจจะเป็นคนก่อเหตุ ถ้าหากตนเจอนายนนท์ก็อยากจะถามเขาว่า "ฆ่าภรรยาผมหรือเปล่า"
ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ ยืนยันนายจีระพันธ์ฆ่าตัวตาย
ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปสอบถามความคืบหน้าจาก พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้เผยว่า ทั้งสองศพนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน โดยศพผู้หญิงนั้นสามารถระบุตัวตนได้แล้ว และเป็นคนนอกพื้นที่ที่ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาอำพรางบริเวณดังกล่าว ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการติดตามจังกุมตัวคนก่อเหตุ และคาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้
ส่วนเรื่องของนายจีระพันธ์ ที่พบว่าอขวนคอเสียชีวิตอยู่นั้น สามารถยืนยันได้แล้วว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยตัวเอง เพราะผู้ตายนั้นมีอาการติดยาเสพติดอย่างหนัก และคาดว่าน่าจะเกิดจากการหลอนยา จึงทำให้ก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ลงพื้นที่ พบว่านายจีระพันธ์นั้นไม่ได้นอนมา 2 วันเต็ม ๆ เอาแต่ขี่รถจักรยานยนต์วนไปวนมาอยู่ที่เดิมซ้ำ ๆ จนสุดท้ายก็มาจบชีวิตตัวเองที่ต้นไม้ใหญ่ในไร่มันสำปะหลัง
พี่ชายผู้ก่อเหตุรับตกใจหลังทราบว่าน้องชายฆ่าผู้หญิง
ต่อมาทางด้านนายน็อต (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของ นายนนท์ คนก่อเหตุ ได้เผยว่า ตนนั้นไม่รู้มาก่อนว่าน้องชายได้ลงมือฆ่าผู้หญิง เพราะเท่าที่รู้จักน้องชายตนเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิงเลย พอมาทราบเรื่องแบบนี้ก็ยอมรับว่าตกใจ ส่วนผู้หญิงที่เสียชีวิต ตนนั้นไม่รู้จะกเป็นการส่วนตัว แต่เคยไปเจอ น.ส.จันทร์จิรา (ผู้ตาย) ที่งานบวชของนายนนท์เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 โดยก่อนหน้านี้นายนนท์ได้ไปสารภาพความผิดให้พ่อกับแม่ฟัง และพ่อแม่ก็พยายามกล่อมให้ไปมอบตัว จนนายนนท์ยอมมอบตัว หลังจากนี้ก็จะปล่อยให้เป็นเรื่องตามกระบวนการทางกฎหมาย
ในฐานะที่เป็นพี่ชายของนายนนท์ ตนก็อยากขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต แต่เบื้องต้นก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับญาติผู้เสียชีวิต แต่หลังจากวันนี้ก็คงต้องไปปรึกษากับครอบครัวก่อนว่าจะมีแนวทางการช่วยเหลือหรือจะทำอย่างไรต่อไป