เพื่อนบ้านชี้ “เมียแป้ง” เครียดหลังแหกคุก ไม่กล้าออกจากบ้านกลัวชาวบ้านถาม
วันนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ร้านขนมจีน แห่งหนึ่งใกล้บ้านพักนายเชาวลิต ทองด้วง ในเขตอำเภอท่าแพจังหวัดพัทลุง บรรยากาศในบ้านพักคล้ายมีคนอยู่แต่ไม่มีคนออกมาหน้าบ้านพักและมีรถเก๋งสีขาวจอดอยู่ในบ้านพัก
เราได้พูดคุยกับนางนิคม เพื่อนบ้านของแป้งบอกว่า ตั้งแต่บ้านหลบหนีออกจากโรงพยาบาลจนกระทั่งหลบหนีออกจากจุดปะทะกับเจ้าหน้าที่บนเทือกเขาบรรทัด ภรรยาของแป้งเครียดมากจึงเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพักและก็ไม่กล้าออกมาที่บริเวณนอกบ้าน โดยในบ้านพักหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกันประมาณ 4 คน คือมีภรรยาแป้ง น้าสาวภรรยาแป้ง และลูกของภรรยากับแป้งสองคน เป็นเด็กชายอายุประมาณ 5 ปีกว่า และเป็นเด็กหญิงอายุประมาณ1 ปีกว่า ซึ่งภรรยาของแป้งก็ตั้งกฎไม่ให้ลูกทั้งสองคนออกมาจากนอกบ้านพักเพราะเจ้าตัวอาจจะกลัวไม่ปลอดภัย
ตนเห็นเกิดลักษณะเหตุการณ์ดังกล่าวก็รู้สึกสงสารเพราะเด็กสองคนก็อยากออกจากบ้านพักเพื่อมาซื้อขนมแต่แม่ก็ไม่อยากให้ลูกออกมา และในส่วนของการเงินภายในครอบครัวภรรยาแป้งตอนนี้ก็น่าเห็นใจมากเพราะตั้งแต่แป้งถูกดำเนินคดีติดคุกภรรยาก็เป็นเสาหลักเลี้ยงลูกสองคนคนเดียว โดยภรรยาจะออกไปทำงานนอกบ้านแล้วก็กลับเข้าที่บ้านพัก และมีน้าสาวของภรรยาเป็นคนดูแลลูกทั้งสองให้
แล้วต่อมาก็เกิดเหตุการณ์พี่แป้งหนีออกจากโรงพยาบาลก็ทำให้สภาวะการเงินภายในครอบครัวหนักเข้าไปอีก เพราะภรรยาแป้งก็ไม่ค่อยกล้าที่จะออกมานอกบ้านเพราะกลัวชาวบ้านถามและก็กังวลไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองคนในครอบครัวเป็นยังไง เท่าที่ตนทราบครอบครัวภรรยาแป้งมีเงินที่จะต้องจำกัดใช้ในแต่ละเดือน โดยใช้เพียงวันละ 150 บาทเท่านั้น ซึ่งเงิน 150 บาทนี้คือเงินที่ใช้ทั้งหมดในครอบครัวซึ่งทางบ้านก็อยู่ด้วยกันประมาณ 4 คน ถ้าไม่อย่างนั้นการเงินภายในบ้านจะเกิดวิกฤติทันที
นอกจากนี้ตนก็ยังสงสารลูกสาวคนเล็กที่อายุประมาณ1 ปีกว่า เพราะตอนที่ภรรยาแป้งคลอดก็เป็นช่วงที่แป้งถูกดำเนินคดี และจนกระทั่งตอนนี้ลูกสาวคนเล็กอายุประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ก็ยังไม่เคยเจอพ่อและพ่อก็ยังไม่เคยอุ้มลูกคนเล็กด้วย
เผยตั้งแต่รู้จักกับแป้ง แป้งเป็นคนที่ดีและเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นมากหากเห็นใครน่าสงสารก็จะควักเงินส่วนตัวไปช่วยเหลือหรือหากเห็นบ้านใครที่มีฐานะยากจนและเป็นคนแก่ฉลาก็จะหาเงินเอาไปซ่อมบ้านให้ ตนไม่เคยคิดว่าแป้งจะมีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว แต่เท่าที่รู้จักกับแป้งเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง
นอกจากนั้นตนขอเผยอีกเรื่องหนึ่งหลังจากที่แป้งหนีออกจากโรงพยาบาลและเทือกเขาบรรทัด ตนเห็นครอบครัวของแป้งหน้าเศร้าและเครียดมาก แต่ครอบครัวนี้จะมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคือหลวงปู่ดำ ซึ่งบริเวณด้านหลังบ้านของแป้งติดกับพื้นที่ที่อดีตเคยเป็นบ้านพักของหลวงปู่ดำ แต่ปัจจุบันญาติหลวงปู่ดำขายต่อให้คนอื่นแล้ว ก็จะเห็นว่าเจ้าของคนใหม่ทำเป็นสวนปาล์ม
ครอบครัวแป้งก็จะมีความเชื่อที่ว่า หลวงปู่ดำปกปักษ์คุ้มครองครอบครัวของแป้งอยู่ บางครั้งน้าสาวของภรรยาแป้งก็จะอุ้มหลานทั้งสองออกมาที่บริเวณอดีตบ้านพักหลวงปู่ดำและก็จะจับดินขึ้นมา นำลูบหัวหลาน พร้อมทั้งกำดินและอธิษฐานว่า “ขอให้หลวงปู่ดำช่วยแป้งขอให้แป้งแคล้วคลาด” ตนเห็นดังนั้นตนก็สงสารมาก
ประวัติหลวงพ่อดำ สุวัณโณ วัดหัวหมอน อ.เมือง จ.พัทลุง เป็นอดีตเกจิผู้เก่งกล้า อาคมขลัง ทางอภิญญา วาจาสิทธิ์ ท่านเกิดและโตหลังบ้านพักภรรยาแป้ง ต่อมาก็บวชเป็นพระจนกระทั่งเป็นพระเกจิที่คนในอำเภอท่าแพจะนับถือท่านทุกคน ด้วยกิตติคุณของหลวงพ่อท่านวาจาศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้คนมากราบไหว้ตลอด แม้ตอนนี้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่แป้งก็เคารพพระเกจิท่านนี้มากเช่นกัน เนื่องจากแป้งก็เป็นเขยของที่นี่แต่งงานแล้วก็มาอยู่บ้านภรรยา
สตช. เตรียมสั่งตรวจสอบ และรื้อคดีเก่าเสี่ยแป้งทั้งหมด
ภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม 2562 กลุ่มชายฉกรรจ์ ร่วมแก็งนักโทษชาย นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง รุมยิงถล่มคู่อริ เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งภาพช่วงหนึ่งปรากฎภาพนักโทษเชาวลิต ทองด้วง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ และแนวทางการสืบสวนพบว่านายเชาวลิต ร่วม ขบวนการในครั้งนี่ด้วย แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาใด
และอีกเหตุการณ์ที่ส่อให้เห็นถึง พฤติกรรม ความโหดร้าย มีอิทธิพล และไม่เกรงกลัวกฏหมาย ของนักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง คือการพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ในวันที 9 กันยายน 2562 เหตุเกิดที่ร้านเติมสุขวาไรตี้ อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถบันทึกกลุ่มชายฉกรรจ์ไล่ยิงคู่อริ โดยในช่วงหนึ่งปรากฏตัวนักโทษชายเชาวลิต ร่วมกระบวนการด้วย ซึ่งคดีดังกล่าวนายเชาวลิต ตกเป็นจำเลยที่ 5 ซึ่งศาลรออ่านคำพิพากษาในวันที่20 ธันวาคม 2566
ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมสั่งตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีข้อมูลการกระทำผิด และเตรียมรื้อสำนวนคดีขึ้นมาใหม่ ว่ามีข้อผิดพราดประการใด ที่ทำให้นักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง ได้รับบทลงโทษเพียงเล็กน้อย ทั้งที่ก่อคดีไว้มากมายกว่า 15 คดี
ความในใจดาบไชยยา หรือ ดาบแจ้ โยงคดีเสี่ยแป้ง
อดีตดาบตำรวจไชยยา เผยว่า ลูกเครียดเคยจะยิงตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง และแม่เครียดพยายามผูกคอตาย ส่วนภรรยาเครียดหนักหลังจากลาออกจากตำรวจ
ตร.ภาค 9 ตั้งกรรมการเรียก ไสว นักข่าวพัทลุง สอบปมที่มาคลิปเสี่ยแป้ง
วันนี้เวลา 14.30 น. ทางด้าน นายไสว รุยันต์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ประจำจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางด้านเสี่ยแป้งได้ไว้วางใจ และมีการส่งคลิปในส่วนของ EP 1และ EP 2 ที่พูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับคดีความและการเรือนจำออกมา ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งเป็นการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อเข้าตรวจสอบ เกี่ยวกับกรณีเอกสารร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐรวมไปถึงประเด็นเกี่ยวกับที่มาที่ไปของคลิปที่ทาง “นายไสว” ได้มา
โดยเจ้าตัวได้มีการเปิดใจภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้ข้อมูลนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยที่เจ้าตัวเปิดเผยว่าสำหรับการเรียกให้ข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เป็นการเรียกของทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งเป็นคนละส่วนกับทางจเรตำรวจที่มีการเรียกสอบไปเมื่อวันก่อน โดยคณะกรรมการดังกล่าวได้มีการตั้งขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง
เบื้องต้นแนวการ ตั้งคำถามจะเป็นในกรณีเรื่องที่มาที่ไปของคลิป รวมถึงรายละเอียดภายในคลิปเป็นหลัก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถามว่าส่วนตัวทราบถึงรายละเอียดหรือข้อมูลที่ทางเสี่ยแป้งจะพูดหรือบอกกล่าวผ่านคลิปหรือไม่ ในส่วนนี้ตนเองก็พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าเนื้อหาและข้อมูลภายในคลิปตนไม่ทราบ แต่ส่วนประเด็นหรือสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อยอมรับว่าตนเองก็ได้มีการสอบถามว่าอยากทราบถึงกรณีการหลบหนีว่าเป็นเพราะอะไร แต่ในส่วนของรายละเอียดว่าเค้าจะพูดหรือสื่อสารอะไรนั้นตนไม่ทราบ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้มีการนำโทรศัพท์ของตนไปตรวจสอบหรือยึดไปเช็ครายละเอียดถึงที่มาของคลิปหรือมีการส่งคลิปมาจากที่ใด จะมีแค่เพียงขอในส่วนหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น อย่างไรก็ตามลักษณะคำถาม ก็จะเป็นแนวทางเดียวกับกรณีเก่าที่ทางจเรตำรวจได้มีกาสอบถาม ย้ำไม่ได้มีประเด็นในกรณีชิงตัวนายจรวด แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองได้มีการเข้าไปทำข่าวแต่ประเด็นที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไม่ได้มีการสอบถามตนในประเด็นนั้น ซึ่งเชื่อว่าการเรียกมาสอบคงเป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับกรณีเรื่องคลิปเพียงอย่างเดียว