เจ้าของบริษัทถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ 29 ราย ตามล่าตัวเข้าบ้านไม่ได้ ต้องหลบหนีมาเร่ร่อนนอนตามป้ายรถเมล์

นายมาโนช อายุ 65 ปี เจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากถูกแก๊งมาเฟียเงินกู้นอกระบบตามล่าตัว เข้าบ้านไม่ได้ ต้องเรร่อนนอนตามป้ายรถเมล์

จากการสอบถามพบว่า เริ่มกู้หนี้นอกระบบมาจำนวน 30,000 บาท เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 จากนั้นทยอยส่งดอกเรื่อยมา วันไหนขาดส่ง เจ้าหนี้ก็จะบังคับให้กู้เงินจากเจ้าหนี้รายใหม่เพื่อมาจ่ายยอดหนี้เก่า ทำวนซ้ำๆๆอยู่แบบนี้ จากยอดหนี้เพียง 30,000 บาท ขณะนี้จ่ายดอกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท

ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอยู่นั้นมีเจ้าหนี้โทรเข้ามาทักทวงเงินซึ่งคุณลุงมาโนดได้ตอบไปว่าไม่มีเงินมาจ่ายหาเงินไม่ทัน

ขณะที่นายเอกภพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า คุณลุงได้มาร้องกับเพจสายไหม ขั้นตอนต่อไปวันนี้ตนเองจะพาคุณลุงไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบที่เขตพื้นที่ชลบุรี เพื่อจะได้เข้าสู่ระบบของรัฐบาลในการแก้หนี้

สายไหมต้องรอด พาลูกหนี้ไปพบตำรวจ ผงะเจอเจ้าหนี้โทรเข้าทวงเงิน

ต่อมาในช่วงบ่าย นายเอกภพพร้อมด้วยลุงมาโนช ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรหนองขาม จังหวัดชลบุรี เพื่อพบกับ พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภจว. ชลบุรี และ พ.ต.อ.เกริกศิษฎ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภอ เเละ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งลุงมาโนชได้นำเอกสารของเจ้าหนี้ที่เป็นหลักฐานมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งลุงมาโนชได้บอกกับเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าก่อนหน้านี้ จะฆ่าตาย วางเเผนถึงขั้นเตรียมเอกสารหลักฐาน เบอร์เจ้าหนี้ พร้อมมือถือใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลเอาไว้ เพราะหากตนเองตาย ตำรวจก็จะมีข้อมูลทั้งหมด

ขณะที่ พ.ต.อ.เกริกศิษฎ์ รับปากจะดูเเลแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับลุงมาโนช เพราะการคิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด มีความผิดทางอาญา โดยจะต้องเจรจา ไม่ให้เจ้าหนี้ คิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนดไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี เเละ จะเป็นผู้โทรติดต่อหาเจ้าหนี้ เเต่ละรายด้วยตัวเองให้เข้ามาพูดคุยกันก่อน ถ้าไม่ได้ จะใช้กฎหมายจัดการ โดยนโยบายของทางรัฐบาลในส่วนกลางในการเเกปัญหาหนี้นอกระบบ ก็จะมีการเปลี่ยนเเปลงเจ้าหนี้ เพื่อบรรเทาทุกให้กับลูกหนี้

โดยจะเชิญตัวเจ้าหน้ามาไกล่เกลี้ยให้เป็นรูปธรรม ส่วนการดำเนินคดีอาญา จะพิจารณาก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร จะไล่ไปทีละคน ทีละสาย ไล่เบี้ยมาเคลียร์ทุกเจ้า เพื่อตอบสังคมได้

สำหรับการข่มขู่ การนำกาวมาหยอด การบุกเข้ามายึดทรัพย์สิน ก็จะตรวจสอบซึ่งหากมีความผิดก็จะดำเนินคดีทางอาญา

พ.ต.อ.เกริกศิษฎ์ ยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาตั้งเเต่เปิดลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ยังไม่เคยมีลูกหนี้รายไหน ที่ได้รับการคุกคามเเบบนี้ เข้ามาร้องเรียน โดยทางนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เน้นย้ำห้ามให้ดำเนินการจัดการขั้นเด็ดขาด ส่วนเรื่องความกังวลความปลอดภัยมอบหมายให้ รองผู้กำกับปราบปรามฯ นำตำรวจเข้าไปดูเเล เป็นระยะ

ภายหลังจากตำรวจรับปากช่วยเเก้ปัญหา เเละ ดูเเลความปลอดภัย ลุงมาโนช บอกว่า สบายใจขึ้นในระดับหนึ่ง เเต่หากกลับบ้านไปคืนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไร ส่วนตัว ไม่เคยคิดจะหนี้หนี เเต่ขอความเห็นใจจากเจ้าหนี้ เจาปนี้รายไหนที่ตนเอง จ่ายจนดอกเบี้ยท่วมเงินต้นไปเเล้ว ขอให้หยุดเรียกเก็บได้เเล้ว ขออิสระภาพในการทำงาน ขอเวลาพักหนี้ฟรีไทม์ 3 เดือน เพราะตนเองมั่นใจว่า สามารถจะสามารถทำงานหาเงินมาผ่อนได้ ไม่ใช่ 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ยังมาล้อมหน้าล้อมหลังที่บ้าน คุกคามกัน มันเสียอิสรภาพในการทำงาน ที่ผ่านมายังถูกข่มขู่ว่า "หากกูรู้ว่ามึงไปทำให้เรื่องใหญ่ กูจะทำให้มึงตายเเบบทรมาน จะจับมึงเเขวนคอบนต้นมะม่วง"

ลุงลูกหนี้พาตรวจสอบบ้าน พบถูกแก๊งทวงหนี้เอากุญแจมาล็อคประตูด้านข้างหลังบ้านเพื่อไม่ให้ลุงแอบเข้า

ลุงมาโนช พาทีมข่าวและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบ้านและเป็นสถานที่เปิดเป็นบริษัทของลุง พบว่าภายในเปิดเป็นออฟฟิศมีโต๊ะทำงานและอุปกรณ์ต่างๆ และยังพบร่องรอยแอร์ที่ถูกถอดออกไปใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งตู้เย็นและไมโครเวฟที่อยู่ภายในครัวก็ถูกแก๊งทวงหนี้ยกเอาไปใช้แทนเงินหมดแล้ว ที่หลงเหลืออยู่ก็มีคอมพิวเตอร์สามตัวที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานซึ่งก่อนหน้านี้ก็ถูกแก๊งทวงหนี้ยึดเอาไปแต่ลุงก็ไปถ่ายคืนกลับมาเพราะต้องมาใช้ประกอบอาชีพ

ส่วนประตูด้านหลังบ้าน ได้ถูกแก๊งทวงหนี้เอากุญแจมาล็อคไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันใช้คีม ตัดเหล็กนำแม่กุญแจออกมาจึงจะเปิดได้ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยถูกหยอดกุญแจ ไม่ให้หลงได้เข้าออกทางนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ลุงลบออกทางด้านหลังหากแก๊งค์ทวงหนี้มานั่งดักรอจะได้รู้ความเคลื่อนไหวว่าลุงอยู่บ้านหรือไม่

ขณะที่ทีมข่าวได้จำลองเหตุการณ์ถ้าหากมีแก๊งทวงหนี้มาตามทวงหนี้ และลุงมาโนชต้องการที่จะเข้าบ้านจะต้องใช้ทางเดินที่อยู่ด้านข้างเพื่อเข้าประตูหลังบ้าน เมื่อแก๊งทวงหนี้รู้จึงได้นำกาวมาหยอดและเอากุญแจมาล็อคเพราะต้องการที่จะบีบลุงให้เข้าทางด้านหน้าเพื่อจะได้เจอตัวลุง

ลุงไม่ได้กลัวตายแต่กลัวถูกจับไปทรมาน อยากหลบไปอยู่ที่อื่นก่อน

ขณะที่ต่อมาเมื่อลุงมาโนชไปให้ปากคำกับตำรวจแล้วได้เดินทางกลับมาที่บ้านพร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหนึ่งคน พร้อมกับระบุกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่สามารถจะอยู่บ้านได้อีกแล้วจะขอไปหาอยู่ที่อื่นเพราะ ขณะที่เป็นข่าวและเจ้าหน้าที่ดูเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ยังถูกแก๊งทวงหนี้โทรตามแบบไม่เกรงกลัว ซึ่งแม้ว่าตำรวจจะรับปากช่วยแล้วแต่ก็ไม่มีใครที่สามารถอยู่กับตนเองได้ตลอดเวลา และเมื่อถามว่าจะกลับไปกิจสั้นอีกหรือไม่ ลุงมาโนชไม่ตอบจะบอกว่าเป็นเรื่องของอนาคตยังไม่รู้ เพราะแก๊งทวงหนี้ก็ยังไม่จบยังโทรหลังขวานตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ตนเองยังคิดอะไรไม่ออกอยากจะหาที่หลบไปก่อน ตนเองยืนยันว่าไม่ได้กลัวตายแต่กลัวถูกจับไปทรมานมากกว่า

นายกฯ ลั่นหนี้นอกระบบจะต้องได้รับการจัดการขั้นเด็ดขาด บอกวันนี้ไม่ได้เชิญมากระชับอำนาจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กล่าวว่า วันนี้ผมไม่ได้เชิญทุกท่านมากระชับอำนาจให้ผมนะครับ ผมมาขอแรงจากทุกท่านทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน มาช่วยกันทำให้การค้าทาสในยุคใหม่ หมดไปจากประเทศไทยด้วยกัน พี่น้องเพื่อนร่วมชาติเราจำนวนมากมีความทุกข์ ถูกพรากอิสรภาพในการใช้ชีวิต เพราะมีหนี้สินจองจำพวกเขาอยู่

พวกท่านในฐานะข้าราชการฝ่ายปกครองที่ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผมเชื่อมั่นว่าพวกท่าน สามารถช่วยพี่น้องประชาชน ให้มีอิสรภาพ ต่อชีวิต สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพวกเขาได้ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องขอพึ่งพาความรู้ความสามารถของพวกท่าน ช่วยให้พี่น้องประชาชนของเราเป็นอิสระ หลุดพ้นพันธนาการจากหนี้นอกระบบนี้ “

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ทุกท่านคงทราบกันดีว่า รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องนี้ตนได้แถลงนโยบายที่ทำเนียบรัฐบาลไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และ ครม. ก็ได้มีคำสั่งเมื่อวันจันทร์ที่แล้วระหว่างที่ไปประชุม ครม. สัญจร ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการ ขับเคลื่อน และประสานงานร่วมกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นี่ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเพื่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล ของตนหรือของหน่วยงานท่าน แต่นี่คือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ให้สามารถฟื้นกลับมาใช้ชีวิตโดยไม่ต้องหวาดระแวง และมีรอยยิ้มได้โดยทั่วกัน