จากกรณี เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 10 ธันวาคม 2566 น.ส.เอ (นามสมมุติ) เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ร้องทุกข์กล่าวโทษ กล่าวหานายสมรักษ์ คำสิงห์ ลวนลามและจับถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือย แล้วนำเอาอวัยวะเพศมาถูที่อวัยวะเพศจนมีสารคัดหลั่งติดที่อวัยวะเพศ เหตุเกิดภายในห้องพัก ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
จากการสอบสวนน้องเอ ผู้เสียหายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 9 ธ.ค. 66 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้ไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เห็นนายสมรักษ์ ยืนอยู่กับพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงได้เดินไปทักทายนายสมรักษ์ที่โต๊ะ เพื่อขอถ่ายภาพด้วย เมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้วนายสมรักษ์ ได้จับมือแล้วบอกว่าให้อยู่ที่โต๊ะ จากนั้นก็อยู่สังสรรค์ที่โต๊ะของนายสมรักษ์
ต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น. วงดนตรีก็เลิกการแสดงจึงได้เดินไปหาเพื่อนที่โต๊ะของตนเอง แต่พอกลับห้องพัก จึงได้เดินออกไปรอเพื่อนที่ลานจอดรถจักรยานยนต์ด้านหน้าร้าน ก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัย และนายสมรักษ์ เดินเข้าไปหา ต่อมาพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมาหา บอกว่าจะไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จึงขึ้นนั่งไปด้วย โดยมีนายสมรักษ์ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อีกคน มีพนักงานรักษาความปลอดภัย ขับไปส่งที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่ง เมื่อถึงโรงแรม พนักงานรักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวได้บอกให้ลงจากรถจักรยานยนต์ นายสมรักษ์ จึงเดินจูงมือพาเข้าไปในโรงแรม และขึ้นไปที่ชั้น 2 จำเลขห้องไม่ได้ เมื่อเข้าไปในห้องพัก นายสมรักษ์ ได้เข้ามากอด จูบ พยายามขัดขืนและขอโอกาสโทรหาเพื่อนก่อน แต่นายสมรักษ์ไม่ยอม และได้จับถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยร่างกาย จากนั้นนายสมรักษ์ ได้นำเอาอวัยวะเพศมาถูไถที่อวัยวะเพศจนมีสารคัดหลั่งติดที่อวัยวะเพศ
เมื่อนายสมรักษ์ หยุดลวนลามแล้ว จึงได้แชตเฟซบุ๊กไปหาเพื่อนผู้ชายให้เพื่อนมารับ เมื่อเพื่อนผู้ชายมารับ ก็พากันออกจากโรงแรม ไปหาเพื่อนหญิงที่โรงแรมอีกแห่งและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อน ๆ ฟัง จากนั้นเพื่อน ๆ จึงพากันเข้าแจ้งความกับร.ต.ท.วิทยา หรรอารีย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวน้องเอไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น และสอบสวนเพื่อนและพยานที่เข้าช่วยเหลือน้องเอ ไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ตนได้ถ่ายภาพนายสมรักษ์ไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่าตนอยู่กับนายสมรักษ์จริงในวันเกิดเหตุ
ขณะที่ทางด้านหุ้นส่วนของผับดังกล่าว ได้ชี้แจ้งกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ปล่อยให้เด็กอายุ 17 ปี เข้าไปใช้บริการ โดยยืนยันว่าทางร้านได้มีการตรวจนักท่องเที่ยวทุกรายที่เข้าไปใช้บริการอย่างเข้มงวด ส่วนกรณีของเด็กอายุ 17 ปีที่เข้ามาใช้บริการตนเองจะต้องมาสอบถามกับทาง การ์ดที่ อยู่หน้าประตูทางเข้าว่าเด็กที่มาใช้บริการได้นำบัตรประชาชนจริงหรือบัตรประชาชนปลอมมาแสดงกับเจ้าหน้าที่
ส่วนเมื่อคืนสมรักษ์ คำสิงห์ ได้นั่งดื่มเหล้าที่โต๊ะหุ้นส่วนภายในร้านอยู่ใกล้กับบริเวณทางเข้าห้องน้ำจริง ส่วนเด็กอายุ 17 ปีไม่แน่ใจว่านั่งอยู่ตรงไหนแต่เห็นแค่ว่าเดินเข้ามาถ่ายรูปกับสมรักษ์คำสิงห์ เนื่องจากสมรักษ์คำสิงห์เป็นคนที่มีชื่อเสียงจึงทำให้มีคนเข้ามาถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก
ส่วนในเรื่องของการไปพูดคุยกันหลังจากที่มีการถ่ายรูปกันเสร็จไม่แน่ใจว่าไปติดต่อพูดคุยกันตอนไหนรู้อีกทีคือเห็นเด็กเดินออกมาจากร้านไปยืนอยู่ที่หน้าร้าน
ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่ากราดที่ร้านเป็นคนขับบิ๊กไบค์ไปส่งผู้เสียหายพร้อมกับสมรักษ์คำสิงห์ยืนยันว่าไม่ใช่การ์ดที่ร้านแต่คาดว่าน่าจะเป็นคนติดตามสมรักษ์คำสิงห์
ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง “สมรักษ์ คำสิงห์” เพื่อถามถึงข้อเท็จจริงโดยเจ้าตัวเผยว่า ตนยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ มีโอกาสได้เจอกันที่ผับซึ่งปกติตนก็มาระมัดระวังตัวอยู่แล้ว โดยเหตุการณ์ทางฝั่งตนเผยว่าน้องคนนั้นได้มาขอถ่ายรูปและมาเกาะแกะตน ซึ่งเขาก็ได้ตามมาที่ห้องของตน เพื่อมาร่วมวงสังสรรค์ พอมาถึงที่ห้องตนก็ได้มีการถามอายุของเด็กคนนั้น ทางผู้เสียหายบอกว่าตนอายุ 17 ปี ตนเลยสั่งให้น้องผู้เสียหายนอนพัก ช่วงเช้าตนจะเป็นคนไปส่งที่บ้าน แล้วก็หลับเลย ช่วงเช้าเขาเลยได้ไปแจ้งความ ตนก็ยืนยันว่ามีการได้กอดและจับ ตามธรรมชาติซึ่งตอนนั้นตนยังไม่ทราบน้องอายุ 17 ปี พอตนทราบตนถึงหยุด ย้ำว่าตนเป็นคนดี ไม่ได้เกเรอะไร ช่วงเช้าที่ตื่นนอนน้องก็ไม่อยู่ในห้องแล้วซึ่งมีเจ้าของผับได้มาตามตนไปแจ้งความ ตนเลยได้โทรหาน้องผู้เสียหายเพื่อจะยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรกัน ตนก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ยอมรับว่าไม่ได้มีการซื้อขายอะไรกันเพราะตนก็ไม่ได้มีเงินติดตัวมาในวันนั้น ตนรู้มาอีกว่าน้องได้โกหกยายว่าจะมาสอบแต่ไม่ได้มีการสอบอะไร ตอนที่อยู่ในผับตนก็ไม่คิดว่าน้องจะอายุ 17 ปี เพราะเห็นว่าน้องตัวใหญ่ วันนั้นตนไปแค่สองคนกับลูกน้องและยืนดื่มอยู่กับเจ้าของร้าน บอกอีกว่าน้องเขาปลอมแปลงอายุเข้ามาในผับหรือเปล่า? เพราะตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเด็กอายุ 17 ปี ยังคิดว่าน้องเขาอำเราเรื่องอายุอยู่เลย
ส่วนเหตุการณ์ในห้อง ผู้หญิงกับผู้ชายเข้าไปในห้องด้วยกันมีการถอดเสื้อผ้าก็เป็นเรื่องธรรมชาติ พอก่อนที่ตนจะหลับนอนด้วยได้มีการถามน้องว่าอายุเท่าไหร่ พอน้องบอกอายุ 17 ปี ตนถึงจึงไม่ทำอะไรต่อ และสั่งให้น้องหลับ พักผ่อนไปก่อน ช่วงเช้าถึงจะไปส่งกลับบ้าน ยอมรับว่ามีการนัวเนียกอดหอมกันหมดเพราะน้องก็เดินตามเข้ามาในห้อง ยืนยันน้องยังมีสติ ไม่น่ามีอาการเมาหนักเพราะคุยกันรู้เรื่อง ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองสามารถไปตรวจดูได้ ถ้าตนข่มขืนน้องเขาจริงก็ต้องมีน้ำเชื้ออสุจิแล้ว ขอไม่ใช้คำว่าล่วงละเมิดเพราะได้มีการกอดจูบกันประมาณ 5 นาที เผยอีกว่าตนเตรียมตั้งทนายสู้คดี เพราะที่ทางฝั่งนั้นไปแจ้งความตนก็ไม่ทราบว่าเขามีเจตนาอะไร เมื่อช่วงเช้า ทางเจ้าของผับและตำรวจได้โทรหาตน ตนก็งงอยู่ว่าเกิดเรื่องเรื่องอะไร
ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ผิดแต่อาจจะพลาดไปที่ให้น้องเขาขึ้นมาบนห้อง เจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับตนตอนที่ไปก็นั่งกันสักแป๊บแล้วก็กลับ ที่ร้านมีคนถ่ายรูปตน ตนก็ระมัดระวังตัวอยู่แล้ว
ส่วนที่น้องแจ้งความว่ามีน้ำอสุจิอยู่ที่อวัยวะเพศตนยืนยันว่าไม่มี (ไม่ได้เสร็จกิจ) ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก ตัดพ้อ ชีวิตไม่เคยทำอะไรให้ใคร ตนอยากอยู่เงียบๆ เลี้ยงไก่ชน ยอมรับว่าตัวเองก็เมา แต่ทางฝั่งผู้หญิงมาเกาะแกะตน ไม่รู้ว่าเมื่อคืนมันไปถึงขั้นนั้นได้ยังไง เพราะปกติตนก็ระวังตัวอยู่แล้วและพลาดยาก การที่น้องเขาออกมาทำอย่างนี้ ตนคาดว่าอาจจะเป็นการแบล็คเมล์เพราะไม่ทราบว่ามีเหตุผลอื่นอีกไหม เผยว่าตนอาจจะอยู่ที่นี่ยาวหรืออาจจะหนีไปบวช ตอนนี้ ก็อยู่ในช่วงตำรวจจะเรียกไปสอบปากคำ เพราะก็มองว่าตนไม่ผิด และตนเองยืนยันด้วยเกียรติของนักกีฬาทีมชาติเหรียญทองโอลิมปิคว่าตนเองไม่เคยไปข่มขืนใคร
ทางด้าน พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า กรณีดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายหรือผู้กล่าวหาที่มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่า ถูกลวนลามนั้น เป็นเยาวชนอายุ เพียง 17 ปี จึงต้องประสานสหวิชาชีพ เพื่อทำการสอบสวนตามขั้นตอน และผู้ถูกกล่าวหา เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำกการสอบสวนให้รอบคอบรัดกุม รวบรวมพยานหลักฐาน ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อน ขณะนี้จึงยังไม่มีการออกหมายเรียกแต่อย่างใด ต้องให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายและ รวบรวมหลักฐานให้ครบก่อน เพราะเกรงว่า ถ้าไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ก็จะเสียชื่อเสียง จึงต้องรอบคอบรัดกุม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร บอกว่า หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจะโดน 3 ข้อหา คือ พรากผู้เยาว์ อายุ 15-18 ปี และมีเรื่องของการกระทำอนาจาร แม้จะไม่ยังไม่กระทำชำเราและ ข้อหาพาผู้เยาว์อายุ 15-18 ปีไปทำอนาจาร แม้เด็กจะยินยอมก็ตาม
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นและได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับจนทราบข้อมูลว่า เมื่อวานนี้นายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ไม่ใช่โรงแรมที่นายสมรักษ์จะมาพักเป็นประจำแต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็มเนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบ
ซึ่งจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็นในช่วงที่นายสมรักษ์และเด็กสาวคนดังกล่าว เดินเข้ามาในโรงแรมรวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย
ทั้งนี้เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เดินทางมาที่โรงแรมแห่งนี้และขอภาพจากกล้องวงจรปิดไปแล้ว (ทั้งถ่ายคลิปมือถือและดูดไฟล์ตัวเต็มจากเซิร์ฟเวอร์) โดยไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรให้กับพนักงานต้อนรับทราบ โดยอ้างว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ แต่ก็ได้ยินตำรวจพูดคุยกันว่าในช่วงที่เด็กสาวลงจากโรงแรมก็เดินลงมาด้วยท่าทางปกติมีการกดเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนจะเดินออกนอกโรงแรมไป