ผู้จัดการโรงแรมที่เกิดเหตุเผย สมรักษ์มาเช็กอินช่วงประมาณ 3 ทุ่ม วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ก่อนจะมาอีกรอบกับน้องวัย 17 ปี ช่วง ตีสาม  ยืนยันวันดัวกล่าว ไม่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหาย ส่วนนายสมรักษ์ พึ่งเคยเห็นมาพักที่นี่ครั้งแรก

วันนี้ 11 ธันวาคม 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังโรงแรมที่เกิดเหตุ ได้พูดคุยกับนางสาวเรนนี่ นามสมมติ ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 นายสมรักษ์ ได้มาเช็กอินที่โรงแรมแห่งนี้ เวลาประมาณ 20.00 น. ถึง 21.00 น.  โดยมาคนเดียว และเขาเข้าพักในชั้น 2  ก่อนที่เค้าจะออกไปข้างนอก แล้วกลับเข้ามาอีกทีตอนเวลา 03.17 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2566

โดยตอนที่นายสมรักษ์มากับน้องผู้หญิงวัย 17 ปี  ตัวเองและพนักงานก็ไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะตอนนั้นไม่มีใครได้สังเกต  และตอนเช้าที่เขาออกไป ตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาออกไปกี่โมง และไม่รู้ว่าผู้หญิงออกไปก่อนหรือนายสมรักษ์ออกไปก่อน เพราะตอนเช้า มีลูกค้าหลายคนเดินเข้า-ออก พนักงานเลยไม่ทันได้สังเกต

นางสาวเรนนี่เล่าต่อว่า สำหรับคืนที่เกิดเหตุนั้น ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงความผิดปกติมาจากห้องดังกล่าว และก็ไม่มีผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือว่าถูกขืนใจ แต่อย่างใด ตนก็พึ่งมาทราบตอนที่เป็นข่าว  ยอมรับว่าตกใจมาก ที่มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในโรงแรมที่ตัวเองทำงานอยู่ โดยภาพหลังจากเกิดเหตุ ก็พบว่าห้องดังกล่าวบรรยากาศปกติ ไม่มีข้าวของในห้องพังเสียหาย

สำหรับนายสมรักษ์นั้น เคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้เป็นครั้งแรก  ส่วนน้องผู้หญิงตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ดูภาพวงจรปิดจากโรงแรม

โดยกล้องมุมแรกที่ทางทีมข่าวดูนั้น จะเป็นมุมหน้าเคาท์เตอร์ เวลาประมาณ 03.17 วันที่ 10 ธันวาคม 2566 เห็นนายสมรักษ์ และน้องวัย 17 ปี เดินจูงมือกันผ่านหน้าเคาท์เตอร์ ซึ่งทั้งสองมีสีหน้าปกติ

กล้องอีกมุม จะเป็นหน้าลิฟต์ จับภาพนายสมรักษ์ คำสิงห์ จูงมือกับน้องวัย 17 ปี เข้าไปในลิฟต์พื่อขึ้นไปยังห้องชั้น 2 สังเกตในกล้องว่า ทั้งสองคนมีสีหน้าปกติ ไม่มีการต่อสู้และขัดขืน มีพูดคุยกันเล็กน้อย

ต่อมาเมื่อถึงชั้น 2 นายสมรักษ์และน้องฝนเดินไปที่ห้องพักด้วยกันโดยไม่ได้มีการฉุดกระชากหรือลากดึงใดๆ

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ขึ้นมายังห้องชั้น 2 (ห้องลักษณะเดียวกันกับห้องที่เกิดเหตุ) พบว่าหากเป็นห้องเตียงเดี่ยว จะมีที่นอน และผ้าปูสีขาว มีหมอนใบใหญ่สีขาว 2 ใบ ใบเล็กสีส้มน้ำตาล สีเดียวกันกับที่นายสมรักษ์คำสิงห์ นอนบนหมอนอยู่ในภาพนิ่งที่ออกข่าว

จากนั้นทีมข่าวได้ทดลอง เคาะห้องจากห้องที่อยู่ติดกัน เพื่อพิสูจน์เรื่องของเสียง ซึ่งจากการเคาะหรือทุบมาจากห้องที่อยู่ติดกัน พบว่าจะได้ยินเสียงเคาะห้องชัดเจน

นายสมรักษ์ คำสิงห์ ให้สัมภาษณ์กับช่อง 8 ทางโทรศัพท์ว่า วันนี้ตำรวจยังไม่ได้เรียกตัวเอง ไปให้ปากคำแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ตัวเองอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความเพื่อที่จะแต่งตั้งทนายความมาดูแลในเรื่องนี้

ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับฝั่งผู้เสียหาย หรือทางญาติเขาแต่อย่างใด ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก  เพราะเราก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ตัวเองยืนยันว่า ตัวเองไม่รู้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวอายุ 17 มาก่อน และตอนในร้านอาหารเค้าก็ไม่ได้แจ้งตัวเอง

ตัวเองเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่มันไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ  ตั้งแต่เกิดเรื่องตัวเองก็ยังไม่ได้คุยกับครอบครัว

เรวัช เชื่อสมรักษ์เข้าใจเด็กเข้าผับต้องอายุเกิน 20 ปี โดนฟ้องอาจเพราะลูกสาวมีเงิน

นอกจากนั้น พลตำรวจโทเรวัช ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของนักมวยชื่อดังคุณสมรักษ์ถูกสาวอายุ 17 ปีฟ้องดำเนินคดีในข้อหาข่มขืน ส่วนตัวพลตำรวจโทเรวัตแล้วเชื่อว่าเรื่องที่นายสมรักษ์อ้างว่าไม่รู้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวอายุเพียงแค่ 17 ปีนั้น น่าจะเป็นเรื่องจริงเนื่องจากทุกคนที่เข้าไปในสถานบันเทิงแบบนั้นได้ก็ต้องผ่านการตรวจจากทางเข้าซึ่งต้องอายุเกิน 20 ปีแล้ว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นการสมยอมกันมากกว่า แต่ที่เกิดเป็นประเด็นแจ้งความข้อหาข่มขืนนั้นอาจเป็นเพราะว่าลูกสาวของนายสมรักษ์นั้นค่อนข้างมีฐานะเพราะถ้าหากว่านายสมรักษ์จนคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้