13 ธ.ค. เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก . สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกหมายเรียกนายสมรักษ์ คำสิงห์ 4 ข้อหา ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร 2.ร่วมกัพาบุคคลอายุเกิน 15 แต่ไม่เกิน 18 ไปเพื่อการอนาจาร 3.กระทำการอนาจารแก่คนอายุเกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย 4. พยายามข่มขืนผู้อื่น ส่วนนายพิเชษฐ์ (คนขับ) 2 ข้อหา ร่วมกันพรากผู้เยาว์ และ 2.ร่วมกันพา บุคคลอื่นไปเพื่อการอนาจาร
13 ธ.ค.66 เวลา 23.00 น. นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยชื่อดัง เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ต่อพนักงานสอบสวน ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายสมรถ คำสิงห์ พี่ชาย เป็นคนพาเดอนทางมา ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการเข้าพบตำรวจ ก่อนจะลงมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน โดยกล่าวสั้นๆเพียงว่า "กราบขอโทษพี่น้องชาวไทย เเละชาวจังหวัดขอนแก่น ที่ทำเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา มันเป็นความผิดพลาด กับปัญหาที่เกิดขึ้น ผมไม่ทราบจริงๆว่าน้องเขาอายุ 17 ถ้าเกิดว่าผมทราบ เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น เเต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ส่วนตัวก็ต้องตั้งสติ หาทางแก้ไข แล้วก็ขอโทษครอบครัวผมด้วย ขอโทษครอบครัวน้อง(ผู้เสียหาย)ด้วย แล้วก็เรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ตั้งสติ ผมเข้าใจในความรู้สึกของทุกคน ไม่มีใครอยากให้เกิด ตนจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด แล้วก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
โดยหลังจากที่กล่าวเสร็จสิ้น นายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้รีบเดินกลับขึ้นรถกระบะทันที ซึ่งระหว่างที่นายสมรักษ์กำลังเดินขึ้นรถนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเพิ่มเติมถึงข้อกล่าวหาที่ถูกเเจ้ง นายสมรักษ์ ระบุว่าตนเองได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะขอต่อสู้ให้ถึงที่สุด พร้อมย้ำว่าไม่มีความกังวลใดๆ กับ 4 ข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้ง และส่วนตัวไม่ได้เครียด
ขณะเดียวกันการที่ นายสมรักษ์ คำสิงห์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางมาเก็บดีเอ็นเอเพิ่มเติม เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับพยานหลักฐาน เเละผลการตรวจร่างกายจากตัวผู้เสียหายด้วย
ในขณะที่พันตำรวจโทศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้เปิดเผยถึงการเดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของนายสมรักษ์ ในวันนี้ว่า ทางเจ้าตัวได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แล้วขอเวลาอีก 15 วัน เพื่อไปปรึกษาทนาย แล้วส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง หรือถ้าหากตัวของนายสมรักษ์ อยากจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำที่โรงพัก ก็สามารถติดต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาได้ทันที ถ้าหากระยะเวลาใน 15 วัน ไม่เพียงพอที่จะส่งคำให้การ ก็จะสามารถยืดเวลาออกไปตามกระบวนการทางกฎหมายได้
ซึ่งการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของนายสมรักษ์ ในวันนี้เจ้าตัวก็ไม่ได้มีท่าทีเครียดแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการส่งหมายเรียกให้ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อว่าจะมารับทราบข้อกล่าวหาวันไหน
ในส่วนเรื่องของพยานหลักฐานตอนนี้เรียกได้ว่าได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งคำให้การของพยาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้เกือบครบหมดแล้ว หลังจากนี้จะมีการเรียกสอบใครเพิ่มเติมหรือไม่ก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบ
บิ๊กโจ๊ก แนะสมรักษ์ สารภาพ ผ่อนหนักเป็นเบา
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีของนาย สมรักษ์ คำสิงห์ ว่า เมื่อคืนวานนี้ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขอนแก่น หลังจากถูกศาลอนุมัติหมายเรียกใน 4 ข้อกล่าวหา ซึ่งนายสมรักษ์ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหานั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่า นายสมรักษ์ควรให้การรับสารภาพ เพราะอาจเป็นเหตุบรรเทาโทษจากหนักเป็นเบาได้
เนื่องจากนายสมรักษ์เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและเคยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ประกอบกับข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษสูง อีกทั้งพยานหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น สารคัดหลั่งต่างๆ ที่บ่งชี้ชัดเจนว่า เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง และเด็กยังยืนยันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง ทั้งที่ตนขัดขืนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบสารคัดหลั่ง จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะใช้ประกอบพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป
“พิเชษฐ์” รุ่นน้องนายสมรักษ์ ยืนยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังถูกแจ้งข้อหา
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถาม นายพิเชษฐ์ ยอมรับเพิ่งทราบว่าถูกออกหมายเรียก โดยหากเมื่อใดที่ได้รับหมายเรียกแล้ว ยืนยันจะเดินทางไปรับทราบข้อหา ตามกระบวนการยุติธรรมแน่นอน แต่ตอนนี้ติดภารกิจอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดทางคดี ยังไม่ขอให้ข้อมูล เพราะเกรงกระทบต่อรูปคดี
นายพิเชษฐ์ ยังบอกว่า ไม่มีความกังวล เนื่องจากเรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว ขณะนี้ทำได้เพียงแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้น และมั่นใจความบริสุทธิ์ พร้อมจะสู้คดีเต็มที่