โรงพยาบาล เยียวยา 30,000 บาท ช่วยเหลือครอบครัว เด็ก 1 ขวบ อาการสาหัส หลังเภสัชจ่ายยาผิด อาการล่าสุดดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ แต่ทีมแพทย์ยังต้องให้ยานอนหลับ ที่คอยังมีแผลสด
จากกรณีแม่พาลูกวัย 1 ขวบ ลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ ส่งโรงพยาบาล แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ โดยเบื้องต้นแพทย์ ส่งไปสแกนสมองที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ระหว่างเดินทางพยาบาลที่นั่งไปด้วยให้น้องกินยานอนหลับ เพื่อให้ไม่ดิ้นตอนเข้าเครื่องสแกนสมอง แต่ปรากฏว่ายาใช้ไม่ใช่ยานอนหลับ แต่กลายเป็นตัวยาที่ มีชื่อว่า TCA (กรดไตรคลอโรอะเซติก) ซึ่ง ใช้ในการจี้-รักษาหูดหงอนไก่ เป็นยาใช้ภายนอก ทำให้เด็กบาดเจ็บสาหัส ต้องถูกส่งรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลรามาธิบดี
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "เป็นหนึ่ง" รายงานความคืบหน้า ของอาการน้องอายุ 1 ขวบ ที่โรงพยาบาลจ่ายยาผิด ว่าทางโรงพยาบาลต้นทาง รับผิดชอบมอบค่าใช้จ่ายส่วนต่างเบื้องต้น ที่พ่อและแม่น้องต้องใช้จ่ายในระหว่างที่น้องเข้ารับการรักษา (ค่าเดินทาง , ค่ากินอยู่ , ค่าจิปาถะ) เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท
ขณะที่ อาการของน้อง คุณหมอพาเข้าห้องผ่าตัดเพื่อส่องกล้องตรวจภายในช่องคอ และหลอดลม หลอดอาหาร หมอแจ้งว่าระหว่างที่ส่องอยู่ต้องหยุดการส่องกล้องกลางคัน เพราะคอน้อง ยังมีแผลและยังเป็นแผลสดอยู่ แต่แผลฟื้นฟูขึ้นมาดี ในระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้ หมอยังต้องให้ใส่ท่อช่วยหายใจให้น้องอยู่ และให้ยานอนหลับเหมือนเดิม หลังจากนี้ จะสังเกตอาการน้องต่อไปอีก 1 สัปดาห์แล้วค่อยกลับมาส่องกล้องตรวจภายในกันอีกครั้ง ตอนนี้ อาการน้องดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ หน้าตาสดใสขึ้น ปากจากที่ดำเริ่มมีน้ำมีนวลสีดีขึ้น ที่คอน้องแผลเริ่มตกสะเก็ดลอกออกแล้ว ระหว่างนั้นคุณหมอทายาให้และดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด ตอนนี้ น้องตื่นบ่อยขึ้น จะมองตามแม่ตลอดกลัวแม่หายเวลาออกจากห้องทีไรน้องจะร้องตาม ถือว่ามีการตอบสนองกับสิ่งรอบข้างได้ดีขึ้นอย่างน่าพอใจ
หมอแจ้งว่า ความจริงไม่อยากจะให้ยานอนหลับน้องเยอะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าน้องดิ้นจะมีผลต่อท่อช่วยหายใจของน้อง แต่ตอนที่น้องอยู่กับแม่แล้วไม่ดิ้นสงบเขาจะให้น้องนอนเล่นโดยไม่ได้ให้ยานอนหลับตลอดเหมือนวันแรกๆแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่แม่กลับน้องจะดิ้นและร้องตามคุณแม่ หมอจึงต้องให้ยานอนหลับน้องต่อ
ขณะที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงจำนวนเงินที่ ชดเชยกับครอบครัว ของเด็กว่า มันน้อยเกิดไป บางคนถึงขนาดบอกว่า "ตลกมาก 3 หมื่น ต้องเยียวยาเป็นล้าน ชีวิตคน แล้วยึดใบประกอบวิชาชีพเท่านั้น" / " 3 ล้านยังน้อยไปเลย กว่าพ่อแม่เขาจะเลี้ยงโตมาแต่ละวัน แต่ตัวเองหยิบยาไม่ถึงเสี้ยววินาทีทำให้ชีวิตเด็กคนหนึ่งเปลี่ยนไปได้ตลอดชีวิต คิดกันไม่ได้เลยมั้ง" บางข้อความเรียกร้องให้โรงพยาบาล และ คนที่จัดยาผิดให้ออกมาขอโทษ บอกว่า " 3 หมื่นเอาคืนไป แล้วลองกินเองดูบ้างจะได้ รู้สึก ใช้เงินแก้ปัญหาแต่ไม่ออกมาขอโทษ" และสิ่งที่ครอบครัวของน้องต้องได้ นอกจากค่ารักษาน้องแล้วพ่อกับแม่ควรได้รับเงินค่าขาดรายได้ระหว่างที่ลูกต้องรักษาตัวตลอดไปจนหายเป็นปกติเพราะพ่อแม่ก็ต้องหยุดงานหรือขาดรายได้ เพราะไม่ได้ทำงานต้องมาดูแลน้อง