จากกรณีผู้ใช้ติ๊กตอก “ปอน จักรกฤษณ์“ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมธารสะพานบุญ และ โครงการส่งผู้เสียชีวิตฟรีทั่วประเทศ มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ได้บันทึกคลิปเดินทางไปช่วยเหลือสาวท้องแก่คนหนึ่ง โดยระบุแคปชั่นไว้ว่า “เงิน 4,500 บาท คุณใช้ได้กี่วัน?“
ภายในคลิปจะเห็นหญิงสาวท้องแก่ ได้ตัดพ้อถึงความยากลำบากของตัวเอง ที่ต้องใช้เงินจำนวนเพียง 4,500 บาทให้อยู่รอดในระยะเวลาประมาณ 5-6 เดือน บางช่วงตอนของคลิป เธอได้เล่าถึงความยากลำบากจนถึงขั้นคิดอยาดฆ่าตัวตาย เพราะท้องลูก ไม่มีกิน ต้องออกจากงานเพราะแพ้ท้องหนัก แถมสามีทิ้ง ต้องหาทางขอข้าวเปล่าจากร้านข้าว นำไปผสมกับน้ำตาล และนมข้นหวานกิน กินประทังชีวิต เพื่อเลี้ยงลูกในท้อง ซึ่งเธอกัดฟันสู้มาเกือบครึ่งปี ด้วยเงินเพียง 4,500 บาท ก่อนที่คุณปอน จักรกฤษณ์จะให้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือเธอและลูกในท้อง หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีผู้ชมเข้ามาแสดงความเห็น และนับถือใจของหญิงสาวคนนี้ที่ลำบาก แต่อดทนสู้ไม่คิดฆ่าตัวตาย
ต่อมาทีมข่าวได้วิดีโอคอลพูดคุยกับสาวท้องรายนี้ เธอเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นสาวโรงงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ส่วนบ้านเกิดอยู่จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทำงานเป็นสาวโรงงานตนเองได้มีแฟนหนุ่ม ชื่อนายกล้า (นามสมมุติ) โดยคบหากันมากว่า 7 ปี ต่อมาตนเองได้ตั้งท้องมีลูกชายคนแรกกับนายกล้า อายุ 2 ขวบ ช่วงนั้นเมื่อ 2 ปีก่อน ก็ไปได้ดี แต่เมื่อตนเองได้ตั้งท้องลูกคนที่ 2 ซึ่งเป็นการตั้งท้องแบบไม่ได้ตั้งใจและไม่พร้อม ตนเองได้เก็บเรื่องไว้ยังไม่ได้บอกแฟนหนุ่ม
กระทั่งผ่านไป 3 เดือน ตนเองจึงตัดสินใจบอกกับแฟนหนุ่มว่าตั้งท้อง ทันทีที่แฟนหนุ่มรู้ว่าตนเองตั้งท้อง ได้ขนข้าวของออกจากห้องพักและตีจากตนเองไปทันที ติดต่อไม่ได้ โทรไปไม่รับสาย เฟซบุ๊ก ไลน์ถูกบล็อกทั้งหมด
ทำให้ระยะเวลาหลังจากนั้นตนเองต้องอุ้มท้องเลี้ยงดูลูกในท้องเพียงคนเดียว ส่วนลูกชายอีก 1 คนที่ตนเองมีกับนายกล้า ก็ได้ฝากพ่อแม่ที่อยู่ จ.กาญจนบุรีเลี้ยงดูแทน
ตนเองหลังจากตั้งท้อง ได้แพ้ท้องหนักมาก จนไม่สามารถไปทำงานได้ และจำเป็นต้องออกจากงาน โดยเหลือเงินก้อนสุดท้ายจากการทำงานจำนวน 4,500 บาท ตอนนั้นตนเองจึงคิดทันทีว่าจะทำอย่างไรให้อยู่รอดจนลูกคลอด
ตนเองได้นำเงินบางส่วน นำไปซื้อข้าวสาร น้ำตาล นมข้นหวาน เพื่อเตรียมสำหรับกินประทังชีวิต ซึ่งตลอด 5-6 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเองอุ้มท้อง ตนเองได้กินแต่ข้าวผสมน้ำคลุกกับน้ำตาล บางมื้อเบื่อน้ำตาล ก็จะไปซื้อนมข้นหวานจากร้านขายปลาท่องโก๋ใกล้บ้าน นำมาคลุกข้าวแทนกิน ทำแบบนี้สลับกันไปทุกวัน มีบางวันที่อยากกินอาหารตามสั่ง แต่ต้องประหยัด จึงให้รางวัลตัวเองให้กินอาการตามสั่งได้ เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น ผ่านไป 6 เดือน ตนเองได้กินอาหารตามสั่ง 6 ครั้งเท่านั้น นอกนั้นกินข้าวเปล่าคลุกน้ำตาล นมข้นหวานตลอด
นอกจากนี้เธอยังสาธิตการกินข้าวผสมน้ำคลุกน้ำตาลให้ทีมดูด้วย โดยจะเห็นว่า ขณะนี้ภายในห้องของเธอก็ยังมีกระป๋องเอาไว้ใส่น้ำตาลและข้าวสารตั้งอยู่
แม่ค้าร้านข้าวเผย สาวท้องแก่มากินที่ร้านเป็นประจำ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.หยง แม่ค้าร้านข้าวมันไก่ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกับ น.ส.หวาน เล่าว่า ปกติ น.ส.หวานจะมากินข้าวที่ร้านเป็นประจำ โดยจะมาพร้อมกับแฟนหนุ่ม แทบจะวันเว้นวัน ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน ยังมากินข้าวที่ร้านพร้อมกับแฟนหนุ่ม และจ่ายเงินด้วยธนบัตรใบละ 1,000 บาทด้วย
ขณะที่ น.ส.บุษบา แม่ค้าร้านปลาหมึกย่าง เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า น.ส.หวาน เคยมาซื้อของร้านข้างๆ ร้านของเธอ แต่สแกนจ่ายเงินไม่ได้ จึงกลับไป จากนั้นวันถัดมา ก็มาซื้อข้าวร้านข้าวมันไก่ แต่ก็สแกนจ่ายไม่ได้อีก โดยสาวท้องแก่อ้างว่าต้องสแกนใบหน้าของแฟนหนุ่ม แต่แฟนติดงานอยู่ จากนั้นก็โอนเงินจ่ายในวันถัดมา ยืนยันว่าเห็นสาวท้องแก่รายนี้มาซื้อของทุกวัน โดยมากับผู้ชายคนหนึ่ง คาดว่าเป็นแฟน
ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ สาวท้องแก่อาจจะไม่ค่อยมีเงินมาซื้อของ และมักจะอ้างว่าต้องสแกนหน้าแฟนหนุ่มเพื่อใช้จ่ายเงิน แต่ระยะหลังๆ ก็มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อจะเข้าไปซื้อของบ่อยๆ
ล่าสุด นายจักรกฤษณ์ หรือปอนด์ อัดคลิปลงติ๊กต็อก ที่กำลังสนทนาอยู่กับ น.ส.หวานสาวท้องแก่หลังจับได้ว่าโกหก โดยในคลิป สาวท้องบอกว่า เขาโกหกแค่เรื่องเดียว ส่วนที่มีเงินเข้าเซเว่นนั้น เธอยอมรับว่าเข้าจริง แต่เงินไปยืมเพื่อนมา ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้โกหกอะไรเลย และขอโทษพี่ปอนด์ด้วย เธอรู้สึกผิดที่ไม่พูดความจริงกับพี่ปอนด์ทั้งหมด ขอโทษจริงๆ ตอนนี้เสียใจข่าวออกสังคมว่าหนู และยืนยันไม่ได้คดโกงใคร
ขณะที่ปอนด์ ก็บอกว่า ไม่รู้จะใช้คำพูดอะไร พอมาได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกแขยง รู้สึกบั่นทอน หลังจากวันนี้เป็นต้นไปเวลามีคนมาขอให้ช่วย อะไรจะฉุกคิดแล้วว่าคนที่ไปช่วยเดือดร้อนจริงไหม ส่วนเรื่องแฟนหนุ่มของคนท้อง ปอนด์บอกว่า รู้แล้วว่ามีแฟนเพราะหลังจากไปช่วย 3 วันก็มีคนมาบอกความจริงให้ฟัง ทั้งนี้อยากจะให้สาวท้องออกมาพูดความจริงกับสังคมว่า เรื่องที่เข้าไปช่วยเหลือเป็นเรื่องโกหก และยอมรับว่าผลกระทบที่เกิดเกิดจากเธอไม่พูดความจริง
ทั้งนี้ปอนด์บอกว่าในคลิปอีกว่า ช่วยศพ ศพไม่เคยหลอก ผีไม่เคยหลอก แต่พอช่วยคนคนกลับมาหลอก และปอนด์เตือนสติ ไปว่า ตอนนี้สิ่งที่ทำกำลังคดโกงคนอื่นอยู่ เพราะไม่พูดความจริงอยากให้เลิกทำแบบนี้