จากกรณีทวิตเตอร์ Red Skull เปิดเผยเรื่องราวน้องเป็นนักศึกษาปริญญาเอกวัย 27 ปี ตกจากเเมนชั่นแห่งหนึ่งใน กทม. โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา น้องที่เสียชีวิตเป็นนักศึกษาที่ย้ายมาอยู่แมนชั่นนี้โดยพักอยู่ชั้น 6 น้องเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่

ในวันเกิดเหตุจากน้องไปจอดรถมอเตอร์ไซค์ทับที่ประจำของผัวแม่บ้านแมนชั่นโดยไม่รู้ ส่วนผัวแม่บ้านเพิ่งกลับมาจากไหนไม่รู้ก็โวยวายอาละวาดแล้วถามหาเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทับที่ของเขา โดยถามจากเมีย เมียก็บอกว่ารถมอเตอร์ไซค์เป็นของน้องคนนี้พักอยู่ห้องนี้ชั้นนี้





ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณจะเกือบจะตีสี่ ผัวแม่บ้านขึ้นไปทุบประตูห้องตะโกนโวยวายให้น้องออกมาจากห้อง ซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงจากห้องข้าง ๆ ที่ตกใจตื่นแล้วอัดไว้ ตอนนี้อยู่ในมือตำรวจแล้ว

ด้วยความตกใจและความกลัวประกอบกับน้องมีอาการไข้กินยาแล้วหลับลึก น้องได้หนีออกไปทางระเบียงห้องพักของตัวเอง พร้อมทั้งโทร. ให้เพื่อนที่อยู่ชั้น 3 ของหอพักนี้ขึ้นมาช่วย เพื่อนเลยรีบวิ่งลงไปตาม รปภ. ที่อยู่ชั้นล่าง

แต่พอวิ่งลงไปถึงด้านล่างก็พบร่างน้องตกลงมาแล้วพร้อมทั้งข้อความสุดท้ายที่แชตส่งให้เพื่อนว่า "จะปีนแล้วนะ" ตอนเวลา 04.03 น. โดยน้องตกลงมาเวลา 04.08 น. ในแมนชั่นไม่มีกล้องวงจรปิด ตำรวจเรียกผัวแม่บ้านมาเปรียบเทียบปรับแล้วปล่อยกลับโดยให้เหตุผลว่าไม่ได้งัดห้อง แล้วน้องตกมาเอง



น้องเป็นนักศึกษาปริญญาเอก กำลังรอรับปริญญา กำลังจะได้ทำงานกระทรวงวิทย์ฯ เป็นนักวิทย์ แม่น้องคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางแมนชั่น เพราะแมนชั่นมีระบบคีย์การ์ด แต่ผัวแม่บ้านกลับบุกขึ้นไปทุบประตูห้องคุกคามลูกสาวเขาได้ จึงอยากให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงด้วย

ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไปยังแมนชั่นดังกล่าว ย่านลาดปลาเค้า พบว่าอาคารดังกล่าวมี 7 ชั้น มีการแบ่งเป็นพื้นที่เช่า และส่วนพักอาศัยในแมนชั่น โดยจะมีพื้นที่จอด จยย. อยู่หน้าหอพัก เท่าที่สังเกตมีช่องจอดเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้หน้าหอพักมีธูปปักอยู่ 5 ดอก ลักษณะคล้ายกับเพิ่งประกอบพิธีกรรมบางอย่างไป

ในระหว่างที่ทีมข่าวสังเกตการณ์อยู่หน้าตึกที่เกิดเหตุ มีแหล่งข่าวคนหนึ่งต่อสายโทรศัพท์ให้คุยกับนางสาวยา (นามสมมติ) คนดูแลตึก ที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตอนแรกไม่ยอมคุยกับทีมข่าว แต่ยอมให้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า กับเรื่องที่เกิดขึ้นเสียใจและกังวล เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด เราแสดงความเสียใจตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้ว่าเกิดความสูญเสีย ตอนนี้กำลังดำเนินการตามขั้นตอนของทางเจ้าของพื้นที่

ส่วนปมเหตุมาจากความเข้าใจผิดเรื่องที่จอดรถ ซึ่งไม่เกี่ยวกับคนตาย แต่คนก่อเหตุ เข้าใจผิดไปเองว่าคนตายมาจอดรถขวาง เลยไปตามหาที่ห้อง แต่มันผิดห้อง พอเกิดเรื่องขึ้นคนก่อเหตุก็ยอมรับ ส่วนตอนนี้คนก่อเหตุทางอาคารให้ออกนอกพื้นที่เพราะผู้กระทำผิด ทางผู้ดูแลตึกอยากจะไปร่วมงาน แต่ทางครอบครัวคนเสียชีวิตยังไม่อนุญาตให้ไป



เปิดคลิปเสียงนาทีผัวแม่บ้านบุกทุบห้อง ฉุนจอดรถขวาง

ขณะที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้รับคลิปเสียง คืนวันเกิดเหตุ 13 ธันวาคม ช่วงเวลาที่มีผู้ชาย ชื่อ นายสมมาตร คนก่อเหตุมาโวยวายหน้าห้องของน้องเฟิร์น เสียงชายคนนี้โวยวายหาเรื่องด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย พยายามท้าทายให้คนในห้องออกมาคุย และมีเสียงทุบประตูโวยวาย

ลูกชายคนก่อเหตุเปิดใจ พ่อเคาะห้องผิด

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเปา (นามสมมติ) ลูกชายของคนที่ไปเคาะห้อง เป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องวัย 27 ปี พลัดตกจากห้องพักชั้น 6 เสียชีวิต โดยลูกชายบอกว่า เรื่องมาจากพ่อไปตามหาเจ้าของรถที่จอดขวางทางขึ้นตึก พ่อเลยจะไปหาเจ้าของ แต่ไปเคาะห้องคนตาย รอบแรกเขาไม่ตอบ ก็เลยทำให้โมโหรอบสองก็ขึ้นไปเคาะถาม แต่คนตายกระโดดลงมาแล้ว



ทางลูกชายบอกว่าเป็นการไปเคาะผิดห้อง โดยตอนนี้ทางครอบครัวเองรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนพ่อที่ไปเคาะห้องเขา และทำให้เกิดเรื่องขึ้นตอนนี้ไม่พร้อมพูดคุยกับใคร

ญาติร่ำไห้หน้าโลง พลัดตกตึกดับอนาคตดอกเตอร์

ในช่วงบ่ายวันนี้ทางครอบครัวของนางสาวอาภาพร ศรีชำนาญ หรือ น้องเฟิร์น อายุ 27 ปี ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี

บรรยากาศงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้าครอบครัว อาจารย์ เพื่อนสนิท ต่างมาร่วมงานส่งน้องเฟิร์นเป็นครั้งสุดท้าย โดยทางครอบครัวนำดอกไม้สีขาวประดับตกแต่งหน้าโลงศพ พร้อมตั้งรูปหน้าศพที่หน้าเมรุวัด รอช่วงประกอบพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 15.00 น.



โดยก่อนถึงเวลาเผาจริงเพื่อนเพื่อนเดินลงมากอดกันร้องไห้หน้าเมนด้วยความโศกเศร้าส่วนใหญ่ยังช็อกกับการจากไปของเพื่อน หลายคนยังคงทำใจไม่ได้ เพื่อน ๆ กอดคอกันร้องไห้กับการจากไปของน้องเฟิร์น

เปิดคำพูดสุดท้ายว่าที่ ดร. หนีคนทุบห้องทำตกตึก

ทีมข่าวช่อง 8 ได้รับแชตสุดท้ายที่น้องเฟิร์น ส่งหาเพื่อนคือน้องฟาน โดยในเวลา 03.59 น. น้องเฟิร์นโทร. หาเพื่อน 34 วินาที แล้ววางสาย ก่อนส่งข้อความก็บอกเพื่อนว่ามีคนเคาะประตูห้องดังมาก จากนั้นได้วิดีโอคอลหาเพื่อนเพื่อเรียกให้เพื่อนช่วย ทางเพื่อนก็บอกว่ามึงกูได้ยินแล้วให้รอในชั้นดังกล่าว



น้องส่งข้อความถามเพื่อนว่าทำไงไม่รู้ว่าใครมาโวยวายหน้าห้องแล้วน้องก็งงว่าคนที่ตะโกนโวยวายพูดถึงคำว่าล้างรถ ทางเพื่อนตอบว่ามันเมาแน่นอน น้องถามเพื่อนว่าให้ทำยังไง เพื่อนบอกว่าไม่ต้องเปิด

จากนั้นน้องส่งข้อความว่า เออมันเคาะห้องกูดังมาก เพื่อนคนนี้ยังตอบว่าเสียงดังจริง ๆ น้องเฟิร์นถามเพื่อนอีกครั้งว่าอยู่ไหน เพื่อนตอบว่าชั้น 4 โดยในแชตจะเห็นถ้อยคำที่น้องพิมพ์ว่ามันเคาะอยู่ทำยังไง และมีคำสำคัญคือ “กูจะปีนห้องละนะ” แล้วตามด้วยคำว่า “ห้องจะพังไหม” ทางเพื่อนยังตอบว่ากลัวมันมีอาวุธให้รอ ก่อนจะบอกว่าจะโทร. หาตำรวจ และให้โทร. หาคนชื่อสา ส่วนเพื่อนคนนี้น้องส่งข้อความหาจะลงไปหายามบอกให้น้องใจเย็น ๆ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจากน้อง

สังเกตุตรงช่องข้อความที่น้องพิมพ์ยังไม่ได้ส่งหาเพื่อนประโยคสุดท้ายบอกเพื่อนว่าเร็ว น่าจะสื่อความหมายให้เพื่อนรีบมาช่วยก่อนที่น้องจะพลัดตกจากชั้นหกเสียชีวิต



ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในเพื่อนสนิทชื่อว่า นายฟาน (นามสมมติ) เพื่อนของน้องเฟิร์นที่เรียนด้วยกันมา 10 ปี และที่เป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับน้องเฟิร์น เล่าว่า เฟิร์นพักอยู่ที่นี่มา 2-3 ปี ปกติที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุ แต่วันเกิดเรื่องเฟิร์นอยู่ชั้น 6 โทร. มาบอกตนซึ่งอยู่ชั้น 4 ว่ามีคนโทร. มาโวยวายหน้าห้องแล้วสายก็ตัดไป เหมือนเฟิร์นกลัวเลยเปลี่ยนเป็นแชตส่งข้อความให้ตนว่ามีคนมาเคาะห้องทำยังไงดี ซึ่งพอเพื่อนส่งข้อความมาแบบนั้น ตนเลยพยายามลงไปตามยาม แต่จังหวะที่ลงไปหายามเพื่อนตกลงจากชั้น 6 มาแล้ว

ถามว่าติดใจการเสียชีวิตของน้องเฟิร์นหรือไม่ เพื่อนคนนี้บอกติดใจเพราะไม่เชื่อเรื่องฆ่าตัวตาย ที่ผ่านมาเพื่อนเป็นคนขยันทำงานหาเงิน ตั้งใจเรียน ป.เอก ไม่มีเรื่องกับใครแน่นอน และไม่รู้จักกับคนก่อเหตุ ส่วนเรื่องจอดรถขวางนั้น เพื่อนคนนี้บอกว่าเฟิร์นมีช่องจอดรถ จยย. ไม่ได้จอดขวางคนอื่นแน่นอน

ตอนนี้เพื่อนพยายามบอกตัวเองว่า เฟิร์นไปสบายแล้วไม่ต้องมาเหนื่อยไม่ต้องมานั่งสอบ ไม่ต้องมานั่งหาเงิน เฟิร์นตั้งใจทำงานหาเงินส่งให้ที่บ้านก่อนเสมอ ส่วนเงินที่ใช้จ่ายของตัวเองเป็นลำดับรอง ซึ่งเงินที่หาได้ก็แทบไม่ค่อยใช้ อย่างหอพักที่อยู่เฟิร์นก็เลือกห้อง พัดลม ค่าใช้จ่าย ค่าหอ (รวมน้ำ-ไฟ) อยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน



แม่คาใจลูกตกตึกดับ จี้เจ้าของอาคารเปิดความจริง

ด้านนางอารีย์ แม่ผู้ตาย ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่วงที่รู้เรื่องการเสียชีวิตของลูกสาวตอนตี 4 เศษ ๆ ของวันที่ 13 ธันวาคม โดยเพื่อนของลูกสาวเป็นคนโทร. มาหาแม่บอกว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับลูกสาวแม่ยังได้ให้เพื่อนส่งโทรศัพท์ให้ลูกสาวพูดเพราะคิดว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ก่อนที่จะร้องเรียกชื่อลูกสาวน้องเฟิร์น บอกให้ตื่น สู้สิลูก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ได้ยินเสียงกู้ภัยพูดว่าน้องไปแล้ว แม่ช็อกเพราะน้องคือเสาหลักเป็นทุกอย่างของครอบครัว ผ่อนบ้านให้แม่ ดูแลน้อง ส่งหลานเรียนแล้วมาเกิดเรื่องกับลูกสาวแบบนี้ แม่จะอยู่ยังไง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคุยกับลูกสาวอยู่ว่าให้แม่ตายก่อนนะ ถ้าลูกตายก่อนแม่อยู่ไม่ได้ ตอนนั้นยังหัวเราะกันอยู่เลย

ตอนที่แม่ได้เข้าไปเก็บของในห้องลูกสาวก็มีแม่บ้านและคนก่อเหตุมาไหว้กราบขอโทษแม่ เข้าใจผิดคิดว่ารถที่มาจอดขวางเป็นรถ จยย. น้อง เลยบอกเลขห้องเลขห้องผิดไป ทำให้คนก่อเหตุไปทุบห้องน้องเฟิร์น ท้าทายทุกอย่าง ลูกแม่กลัวเลยโทร. หาเพื่อน เพื่อนจะไปแจ้งตำรวจก่อนรีบวิ่งลงไปหา รปภ. แต่ลูกแม่กระโดดหนีเขาแล้ว แม่บอกไม่ให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุเจ้าของอาคารก็ยังไม่ติดต่อเข้ามาพูดคุยเพื่อรับผิดชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นแม่ไม่รับคำขอโทษและไม่ให้อภัย

แม่ติดใจตรงที่ถึงเป็นเรื่องเข้าใจผิดต้องทำถึงขนาดนั้นหรือไม่ ที่ไปทุบห้องคนอื่นแบบนั้น เอาจริง ๆ น้องเป็นคนขี้ตกใจ ถ้าเจอคนมาเคาะห้องรัว ๆ แบบนั้นลูกตกใจคงจะต้องหาทางหนีแน่ ๆ แม่คิดว่าแม่รู้จักลูกดี

พอถามว่าอยากจะบอกอะไรน้องไหม แม่พูดไม่ออกและร้องไห้ออกมา พร้อมกับฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยดูคดีเนื่องจากมีการตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุ 3 ข้อหาแต่ยังไม่จับตัวแม่จึงเกิดความกังวลว่าคดีจะไม่คืบหน้า



เปิดประวัติว่าที่ ดร. อนาคตไกล เรียนดี

นางสาวอาภาพร สีชำนาญ น้องเฟิร์น เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2539 มีพี่น้อง 3 คน ปี 2558 ศึกษาระดับปริญญาตรีที่ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จบปริญญาตรีด้วยเกรดเฉลี่ย 3.19

ปี 2562 ได้ศึกษาในระดับปริญญาโท ที่ภาควิชาฟิสิกส์คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษาของทุนสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   จนจบการศึกษาในระดับปริญญาโท ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.50

ปี 2564 ได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ที่ภาควิชาฟิสิกส์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษาในโครงการพัฒนาบัณฑิตและวิจัยคุณภาพสูง  ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ยังมีภาพจากเฟซบุ๊ก น้องเฟิร์นได้เดินทางไปนำเสนอผลงานวิจัยที่ไต้หวัน และได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยแบบโปสเตอร์ในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติที่ไต้หวัน ใน 7-9 พฤศจิกายน 2566 และกำลังจะจบการศึกษาในระดับปริญญาเอกในปี 2567

เมื่อย้อนดูประวัติใน Facebook เมื่อปี 2564 น้องโพสต์เล่าเรื่องความสำเร็จ ทั้งจบปริญญาโท และสมัครเรียน ป.เอก และได้ทุน พร้อมใบเกรดที่เรียนจบเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า น้องมีความมุ่งมั่นและขยันเรียนเป็นอย่างมาก



ที่ปรึกษาช็อก คนขาดสติดับฝันอนาคตของชาติ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ผศ. ดร.วีรพัฒน์ พลอัน อาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งวันนี้มางานศพของลูกศิษย์ที่ จ.ลพบุรี เล่าว่า ตอนรู้ข่าวการเสียชีวิตของลูกศิษย์รู้สึกช็อกมาก ความสูญเสีย ครั้งนี้ตื้อไปหมดพูดอะไรไม่ออก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากการขาดสติของคน ๆ หนึ่ง ทำให้เด็กที่เป็นอนาคตของชาติต้องจากไปโดยไม่มีวันกลับ เป็นคนที่มีคุณภาพของประเทศ

ตอนนี้น้องได้รับทุนศึกษาสำหรับผู้มีศักยภาพสูงทางด้านวิทยาศาสตร์ กำลังศึกษาในระดับ ป.เอก ในสาขาฟิสิกส์ในเชิงการแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นสาขาที่ขาดแคลนบุคลากร ลูกศิษย์คนนี้เป็นคนที่ขยันเรียน ตั้งใจสูงมาก ยิ่งพอทำวิจัยน้องเป็นคนที่ละเอียดมากจะเก็บกลุ่มตัวอย่างอย่างละเอียดจนถึงดึกดื่น อาจารย์ชมว่าการทำวิจัยของน้องมีความละเอียดทุกขั้นตอน นี่คือคุณสมบัติที่ดีของนักวิทยาศาสตร์ และปีหน้ากำลังจะจบปริญญาเอก โดยที่น้องตั้งใจว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์อยู่ที่จังหวัดลพบุรีบ้านเกิด สิ่งที่อาจารย์อยากบอกคือน้องได้ทำหน้าที่ของน้องอย่างดีที่สุดแล้ว อาจารย์จะสานต่องานทางฟิสิกส์ที่น้องได้ทำไว้

 

ช็อก! ว่าที่ด็อกเตอร์ดับปริศนา ยามบุกทุบห้องกลางดึกแฉแชต "ช่วยด้วย" แม่ถีบหน้าห้ามขมา