จากกรณีนายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้ถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา หลังจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ. ขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ 16 ธันวาคม 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังอำเภอหนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้พูดคุยกับนางสาวแบม อายุ 17 ปี เพื่อนสนิทของสาววัย 17 และเป็นหนึ่งคนที่ไปเที่ยวผับในวันเกิดเหตุ กับผู้เสียหายนั้น



นางสาวแบม นามสมมติ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าก่อนเกิดเหตุ พวกตัวเองเดินทางไปสอบที่ จ.ขอนแก่น และมีการเปิดห้องที่หอพักแห่งหนึ่ง โดยนอนห้องละ 2 คน (3ห้อง) ส่วนตัวเองนอนห้องเดียวกันกับนางสาวฝน (เด็ก 17) กระทั่งช่วงประมาณ 3 ทุ่ม วันที่ 9 ธันวาคม พวกตัวเองได้ไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนอยู่ในผับระหว่างพากันไปเข้าห้องน้ำ ก็ได้ไปเจอกับนายสมรักษ์ พวกตัวเองจึงพากันถ่ายรูปกับนายสมรักษ์ แล้วตัวเองกับเพื่อนอีก 2 คนก็เดินกลับโต๊ะมีแค่นางสาวฝนที่นั่งดื่มต่อที่โต๊ะนายสมรักษ์ เพียงแค่คนเดียว ซึ่งนางสาวฝนได้นั่งโต๊ะเดียวกันกับนายสมรักษ์ไปสักพัก ก่อนที่เขาจะกลับมาที่โต๊ะของพวกตัวเอง แล้วก็กลับไปที่โต๊ะของนายสมรักษ์อีกครั้ง



จนเวลาประมาณตีสามกว่า หลังจากผับปิดพวกตัวเองได้พากันกลับบ้าน เพราะพวกตัวเองเริ่มเมากันแล้ว และมีเพื่อนในกลุ่มถามนางสาวฝนว่า “จะซ้อนสามกลับด้วยกันมั้ย” แต่นางสาวฝนก็ชักสีหน้าใส่พวกตัวเอง แล้วเดินไปรถของนายสมรักษ์

จากนั้นก็มีเพื่อนในกลุ่มไปถามนางสาวฝนย้ำว่า “จะไปจริง ๆใช่มั้ย คิดดีแล้วหรอ” แต่นางสาวฝนก็ขึ้นรถไปกับนายสมรักษ์ ตามกล้องวงจรปิดของผับเลย กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ตัวเองจึงมารู้ข่าวกับเพื่อนอีกคนว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับนางสาวฝน



หลังจากเกิดเหตุนางสาวฝน ได้ทักแชตมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องทีีเกิดเหตุให้ตัวเองฟังว่า คืนเกิดเหตุพี่สมรักษ์เมา พยายามจะมีเพศสัมพันธ์กับฝน แต่ทำไม่ได้ นายสมรักษ์ก็เลยช่วยเหลือตัวเองแทน แล้วนางสาวฝนก็เข้าไปล้างตรงนั้นอยู่ในห้องน้ำ

ทีมข่าวก็ถามต่อว่า แล้วนายสมรักษ์ช่วยเหลือตัวเองสำเร็จไหม นางสาวแบม ก็ตอบว่า ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันเนื่องจากนางสาวฝนเล่าให้ตัวเองฟังแค่นั้น

ตัวเองก็ถามเขาไปต่อว่าได้ขัดขืนไหม นางสาวฝนก็ตอบว่าไม่กล้าขัดขืน เพราะนายสมรักษ์เป็นนักมวย นางสาวฝนเขาจึงกลัว ส่วนแชตที่นางสาวฝนทักมาเล่าเหตุการณ์ในห้องให้ตัวเองฟังนั้น ตัวเองลบไปแล้ว



ทีมข่าวสอบถามนางสาวแบมว่า ที่ผ่านมานางสาวฝนเคยมีประวัติลักษณะนี้ เพื่อหวังเงินหรือไม่ นางสาวแบม บอกกับทีมข่าวว่า เท่าที่ตัวเองเป็นเพื่อนสนิทของแบม ตั้งแต่ ม.ต้น ตัวเองก็ไม่เคยเห็นว่าฝนไปก่อเหตุเรียกรับเงินมาก่อน ที่ผ่านมาเวลาตัวเองไปเที่ยวกับนางสาวฝน เขาก็จะกลับบ้านกับพวกตัวเองตลอด ไม่เคยไปกับผู้ชายแบบนี้ ครั้งนี้ตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงเป็นแบบนั้น

แต่ที่ตัวเองและเพื่อนคนอื่น ๆ ออกมาให้ข่าว เพราะว่ามีกระแสโตมตีพวกตัวเอง ว่าพวกตัวเองทิ้งเพื่อน พวกตัวเองจึงออกมาปกป้องตัวเอง ว่าพวกตุวเองไม่ได้ทิ้งเพื่อน



ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังบ้านของนายสิทธิเดช หรือ ริว หนึ่งในเพื่อนชายที่ไปรับนางสาวฝนหลังเกิดเหตุ เมื่อมาถึงบ้านของนายริว ทีมข่าวไม่เจอตัวนายริวแต่อย่างใด แต่ทีมข่าวได้เจอกับย่าของนายริว ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากเกิดเหตุ เมื่อกลางดึกวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา นางสาวฝน ได้ทักแชตมาขอความช่วยเหลือนายริวหลานชายตัวเอง จากนั้นหลานชายและเพื่อนชายอีก 1 คน ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรับนางสาวฝนที่โรงแรม แล้วพาไปแจ้งความ

ซึ่งพอรับนางสาวฝนมาถึงหอพัก นางสาวฝนก็ได้ร้องไห้หลานชายจึงถามไปว่า “ร้องไห้ทำไม” นางสาวฝนก็ตอบว่า “โดนข่มขืนมา” จึงเป็นที่มาให้หลานชายพาไปแจ้งความ



สำหรับนายริวหลานชายตัวเองนั้น เรียนห้องเดียวกันกับนางสาวฝน ก่อนจะเกิดเหตุ หลานชายและนายชีระวิทย์ ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์จากบ้านไปตัวเมืองจังหวัดขอนแก่น เพื่อจะไปสอบ แล้วก็ไปเที่ยวงานไหมขอนแก่น แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปเที่ยวผับพร้อมกันกับนางสาวฝนหรือไม่ เพราะหลานชายเล่าให้ตัวเองฟังเท่านี้

และที่มีข่าวว่าเพื่อนชาย 2 คนที่ไปรับนางสาวฝน ช่วยเหลือนางสาวฝนในการล่อลวงนายสมรักษ์นั้น ตัวเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง หลานชายตัวเองไม่ได้ร่วมวางแผนเพื่อล่อลวงใคร หลานชายแค่จะไปสอบแล้วนางสาวฝนก็ทักมาขอความช่วยเหลือว่า “ซ่อยแหน่” (ช่วยหน่อย) เท่านั้น

ประเด็นนี้ทำให้หลานตัวเองเสียหายมาก ๆ หลานชายไม่ได้ช่วยวางแผนกับนางสาวฝนเลย มีแต่นางสาวฝนแหละที่เลือกไปกับนายสมรักษ์เอง ตัวเองยังบ่นกับหลานชายเลยว่า “นางสาวฝนไม่รู้จักกับนายสมรักษ์ เป็นการส่วนตัว ทำไมเขากล้าไปกับนายสมรักษ์ ผู้หญิงแบบนี้เหมือนผู้หญิงหากิน”



ผับซวยผลกระทบสาว 17 ลูกค้าลดฮวบ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูบรรยากาศที่ร้านสุขสันต์ขอนแก่น ริมถนนประชาสำราญ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าบรรยากาศเงียบเหงากว่าช่วงสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีข่าวของอดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกกับเด็กหญิง 17 ปี โดยภายหลังจากที่มีข่าวดังกล่าว รายได้ของทางร้านเฉลี่ยลดลงเหลือเพียงวันละ 1,000 บาทเท่านั้น โดยบรรยากาศล่าสุดตอนนี้เรียกได้ว่า บางตาเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ นายปรเมษฐ์ ผู้จัดการร้านสุขสันต์ขอนแก่น บอกว่า ภายหลังจากมีหนังสือของทางจังหวัด ให้ยื่นพยานหลักฐานโต้แย้ง เกี่ยวกับกรณีที่มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ภายใน 7 วัน ซึ่งขณะนี้ทางร้านอยู่ระหว่างการร่างข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ อย่างละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์ และจะเข้ายื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นทันที ภายหลังจากรวบรวมข้อมูลหลักฐานในการโต้แย้งเสร็จ



ตั้นแต่เกิดเรื่องมาลูกค้าหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ร้านอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้กันก็ได้รับผลกระทบหมด ซึ่งตอนนี้ทางร้านก็ทำได้แค่รอเวลาให้คดีมันเงียบลง ในส่วนของพนักงานตอนนี้ร้านก็ได้ให้พนักงานหยุดวันเว้นวันและทางร้านก็ยังเปิดให้บริการทุกวันเหมือนเดิม สุดท้ายอยากฝากถึงลูกค้าว่าถึงลูกค้าจะไม่มาใช้บริการ แต่ทางร้านยังรอลูกค้าคอยปรับปรุงร้านเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สรุปในส่วนของคดีดังกล่าวนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งสองรายแล้ว ซึ่งทั้งสองรายให้การปฏิเสธ และขอเวลา 15 วันเพื่อเตรียมคำให้การ ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อทำการสอบปากคำเข้าสู่สำนวนก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น และในส่วนของผู้ต้องหาทั้งสองรายนั้น ดุลยพินิจของทางพนักงานสอบสวน บอกว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราวภายหลังจากทำการสอบปากคำเสร็จ ในส่วนของพยานหลักฐานต่าง ๆ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้อง ทางตำรวจได้รวบรวมเป็นพยานหลักฐานในสำนวน ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเหลือเพียงทางนายสมรักษ์ เดินทางมาให้ปากคำตามขั้นตอนต่อไป

ส่อคดีพลิก! เพื่อนสาว 17 เปิดปาก สมรักษ์รู้อายุยังขืนใจจนเสร็จกิจ กลัวตัวใหญ่จึงจำยอม