จากกรณีตำรวจนครบาลได้มีปฏิบัติการปิดเมืองล่า EP.1 กวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงน้องหยอด เด็กอุเทนถวาย และ ครูเจี๊ยบ เสียชีวิต ซึ่ง EP.1 สามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 9 คน และถูกดำเนินคดีโดยไม่มีใครได้รับการประกันตัว นั้น

เปิดภาพปฏิบัติการบุกจับ 13 คนร้าย ฆ่าครูเจี๊ยบ - น้องหยอด



ล่าสุดช่วงเช้ามืดวันนี้ (18 ธ.ค. 2566) ตำรวจสืบสวนนครบาล เปิดปฎิบัติการ “ปิดเมือง ล่ามือปืน ep.2” โดยเข้าตรวจค้นทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี รวม 14 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 12 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันสมคบตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือซ่องโจร”

ทั้งนี้ระหว่างตรวจค้นยังพบตัว นายนพวุฒิ ผู้ต้องหาตามหมายจับเดิมตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจับกุมตัวได้เพิ่มอีก 1 ราย (รวมเป็น 13 ราย) ซึ่งนายนพวุฒิเป็นผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในการทำหน้าที่ชี้เป้า ก่อนที่ 2 ผู้ต้องหาคือ นายอนาวิน และนายอับดุลเลาะ มือยิงและคนขี่รถจักรยานยนต์ จะก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด เสียชีวิต และยังไปรับ 2 ผู้ต้องหา ที่จุดนัดหมายเพื่อพาหลบหนีหลังเกิดเหตุ โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด



และกลุ่มผู้ต้องหาใน 12 รายที่จับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังพบว่า นายชนัญชิต หรือ เป๊ปซี่ เป็นบุคคลที่เคยไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นกลุ่มผู้ต้องหาล็อตแรก ในช่วงวันที่ 23 พ.ย. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และอ้างว่า ทุกคนที่ถูกตำรวจจับเป็นแพะรับบาป มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของนักศึกษาปทุมวันแน่นอน แต่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มคู่อริสถาบันอื่น ที่เคยมีเรื่องบาดหมางนักศึกษาอุเทนถวาย

ยืนยันว่าไม่ได้รวมตัวกันเป็นแก๊งก่ออาชญากรรมแต่รวมตัวกันเพื่อติวหนังสือ พร้อมกับท้าทายให้ไปเจอกันในชั้นศาล และนายชนัญชิต ยังเคยร่วมกันก่อเหตุยิงถล่มงานแต่งงานเมื่อกลางเดือน ส.ค. 2565 เหตุเกิดพื้นที่ สน.สุทธิสาร ซึ่งอัยการได้มีคำสั่งฟ้องและส่งตัวผู้ต้องหาไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.



คุมตัว 13 คนร้ายสอบปากคำ - ก๊วนผู้ต้องหาประทับฟันเฟืองเชิดชูผลงาน

ขณะที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมาทางตำรวจทยอยคุมตัวผู้ต้องหา นำตัวส่ง สน. ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งการสอบปากคำในครั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาสอบปากคำด้วยตนเอง เพื่อขยายผลและเร่งล่าตัว นายอนาวิน และนายอับดุลเลาะ 2 ผู้ต้องหามือยิงและขี่รถจักรยานยนต์ ที่ยังหลบหนีอยู่ด้วย โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาหลายคนแต่ก็ไม่มีใครปริปากใด ๆ



โดยผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัวทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย และเมื่อมาถึงที่ศูนย์สืบสวนนครบาล ตำรวจก็คุมตัวขึ้นไปทำการสอบปากคำทันที ทั้งนี้ยังพบด้วยว่า ผู้ต้องหาหลายคนที่ถูกคุมตัวมามีสัญลักษณ์ฟันเฟืองที่ต้นแขนซ้าย จำนวน 4 ปั๊มด้วย

โดยระหว่างการสอบปากคำ พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้สั่งสอนผู้ต้องหาทั้งหมด ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสิ่งที่ต้องถูกหมายจับ และถูกจับกุมตัวเป็นไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้หยุดและจบที่รุ่นเรา เมื่อสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรมแล้วต้องไปต่อในวันข้างหน้า ได้หรือไม่ได้ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดตอบว่า ‘ได้ครับ’



จับเพิ่ม 1 ก๊วนโยงฆ่าเคยโวยถูกจับแพะ

ในจำนวนนี้คือ นายชนัญชิต แสงจันทร์ (แป๊ปซี่) ซึ่งนายชนัญชิต เป็นคนที่ไปเยี่ยมเพื่อนที่ถูกจับชุดแรกและได้กล่าวหาว่า “ตำรวจจับแพะ” และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ปรากฏภาพในคลิปขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมโวยวายว่าให้ตำรวจยิงเลย



โดยระหว่างที่นายชนัญชิตถูกนำตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม ว่า วันนี้ยังบอกว่าเป็นการจับแพะอยู่หรือไม่ แต่ "เป๊ปซี่" กลับไม่ตอบคำถามใด ๆ แต่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “ผมมีอะไรจะพูดอย่างหนึ่งครับ ผมชอบแมนยูครับ” ก่อนที่จะเดินขึ้นรถไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีอาการเครียดใด ๆ

ค้นรังโจรอึ้ง ซื้อบ้านใหม่ ซุกหลักฐานฆ่า ครูเจี๊ยบ - น้องหยอด

ขณะที่ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกำลัง ตรวจค้นบ้านภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง ซึ่งเป็นบ้านของนายนพวุฒิ เรืองศรี หนึ่งในผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดนักศึษาอุเทนถวาย เสียชีวิต



โดยตำรวจได้นำตัว นายนพวุฒิ มาร่วมตรวจค้นด้วย เพราะก่อนหน้านี้สามารถจับกุมตัวนายนพวัฒิได้ที่บ้านอีกหลัง และจากการเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว ไม่มีผู้อาศัย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีเพียงรถยนต์ สีบรอนทอง จอดอยู่ 1 คัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ ตรวจค้นภายในรถพบกระเป๋าเป้สีเทา 1 ใบ เมื่อตรวจพบภายในกระเป๋าพบกล่องสีดำล็อกกุญแจไว้ ภายในบรรจุอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด .45 พร้อมกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 36 นัด 1 และ ขนาด .38 จำนวน 3 นัด รวมถึงแม็กกาซีน 2 อัน เป็นขนาดสั้นและยาว ที่มีการดัดแปลงและพบว่ามีถุงมือ 1 ข้าง เสื้อผ้า 1 ชุด

ซึ่งจากการซักถาม นายนพวุฒิ ยืนยันว่า ตนเป็นเจ้าของปืน แต่อ้างว่าปกติไม่ได้พกติดตัว ปืนจะเก็บไว้อยู่ที่บ้าน โดยมีการซื้อผ่านทางออนไลน์ ในราคาประมาณ 4-50,000 บาท ซื้อมาพร้อมกระสุนปืนและแม็กกาซีนแบบสั้นและแบบยาว ขนาด 15 นัด 1 อัน และ 7 นัด1 อัน โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ถึงบ้าน ซึ่งปืนดังกล่าวเป็นปืนไม่มีทะเบียน



นอกจากนี้ จากการตรวจยังพบถังสีดำสำหรับบรรจุน้ำมัน 1 แกลลอน ขนาด 10 ลิตร โดยนายนพวุฒิ อ้างว่า ตนเองชอบเดินป่าจึงได้มีการซื้อน้ำมันติดรถไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าเป็นการหลบเลี่ยง กล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน น่าจะเตรียมไว้ทำภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง

ภายหลังเข้าตรวจค้นนานกว่า 1 ชั่วโมง ตำรวจคุมตัวนายนพวุฒิกลับไปสอบปากคำที่ กองบังคับการส่บสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายนพวุฒิ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมวาวแผนก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบ น้องหยอดหรือไม่ เป็นคนจัดหาอาวุธให้ไปก่อเหตุหรือไม่ อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างไรหรือไม่ ซื้อปืนมาไว้ทำไม เป็นเจ้าของปืนหรือไม่ แต่นายนพวุฒิ ไม่ตอบคำถามใด ๆ

ห้าวจนหยดสุดท้าย! เป๊ปซี่กร้าวจับกูทำไม ตอกหน้านักข่าว "รักแมนยูฯ" เซโนยิงอุเทน