อาจารย์อ๊อด อธิบายชัดคดีน้องชมพู่ เส้นผม-สัญญาณมือถือ หลักฐานสำคัญมัดตัว ลุงพล ส่วนคำให้การก็ขัดแย้งกัน

20 ธ.ค. 66 รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อาจารย์อ๊อด กล่าวถึง คดีน้องชมพู่ หลังศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาว่า นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี, ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี และยกฟ้องนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น

โดย อ.อ๊อด ระบุว่า โทรศัพท์ ลุงพลไม่สามารถยืนยันฐานที่อยู่ได้แน่ชัดในเวลาที่ผู้ตายหายตัวไป และ เส้นผม 16 เส้น และวัตถุพยานอื่น โดยผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ประกอบกับคำเบิกความของพยานผู้เชี่ยวชาญปรากฏว่า เส้นผม 1 เส้น ที่ตกอยู่ในรถยนต์จำเลยที่ 3 มีองศาของรอยตัด หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้างตรงกันกับเส้นผมผู้ตาย 2 เส้น ซึ่งตรวจเก็บได้จากบริเวณที่พบศพผู้ตาย เส้นผมทั้ง 3 เส้น ดังกล่าว จึงถูกตัดในคราวเดียวกันด้วยวัตถุของแข็งมีคมชนิดเดียวกัน เชื่อว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้ของแข็งมีคมตัดเส้นผมผู้ตาย แต่ด้วยเหตุที่เส้นผมมีขนาดเล็กมาก จำเลยที่ 1 จึงไม่สังเกตว่ามีเส้นผมผู้ตายเส้นหนึ่งตกอยู่ในรถยนต์ของตน

เรื่องนี้ขาดพยานหลักฐานว่า "ฆ่า" ด้วยวิธีการอย่างไร ศาลจึงลงโทษฐานฆ่าคนตายไม่ได้ แต่ความผิดฐานฆ่าคนตายที่อัยการฟ้อง ถือว่ารวมความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้คนตายด้วยศาลจึงลงโทษฐานประมาทเป็นเหตุให้คนตายได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคสาม

โทรศัพท์ ลุงพล(จำเลยที่1) ไม่สามารถยืนยันฐานที่อยู่ได้แน่ชัดในเวลาที่ผู้ตายหายตัวไป การให้การของลุงพลว่าตัวเองอยู่สถานที่แห่งหนึ่ง แต่เบสโทรศัพท์ไปอยู่อีกที่หนึ่งจึงขัดแย้งกัน การเช็คเบสโทรศัพท์เป็น digital forensic นิติวิทยาศาสตร์ทางด้านดิจิตอล