ครั้งแรก! “ลุงพล-ป้าแต๋นเปิดใจหลังรู้ผลตัดสินศาล

 

รายการลุยชนข่าว ช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับลุงพล - ป้าแต๋น หลังศาลตัดสิน โดยลุงพลได้เปยความรู้สึกว่าลึกๆก็ยังคิดถึงคำที่ผู้พิพากษาอ่านว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้าง เพราะคำพิพากษาน่าจะมีเป็นร้อยแผ่น ส่วนตัวตอนนี้เบลอ ก็ยังคิดอยู่ว่ายกฟ้อง ส่วนเรื่องที่คนมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เกี่ยวข้องกับคำสาบาน ตนมองว่าไม่เกี่ยว ทั้งเรื่องสาบานหรือการปักธูป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสำนวน

 

ส่วนเรื่องเส้นผมน้องชมพู่ที่พบบนรถของตน ตนอธิบายไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าเส้นผมมาตกที่รถของตนได้อย่างไร

 

ส่วนเรื่องที่บอกให้ 1 ในพยาน (พ่อแบม) บอกตำรวจว่าไม่ได้เจอตนในเวลาเกิดเหตุ แต่เจอตนเองในตอน 07.00 น. นั้น ตนขอชี้แจงว่า ไม่เคยบอกให้เปลี่ยนเวลาที่เจอตน ตนสาบานได้

 

ส่วนเรื่องที่ยืนยันตัวตนไม่ได้ ตนขออธิบายว่า จะมีคำพิพากษาอยู่ 2 ช่วง ช่วง 9 โมงตนตอบไม่ได้ว่าตนอยู่ตรงไหนกับใคร กับหลัง บ่าย 2 โมงเป็นต้นไป ตนก็อธิบายไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหนกับใคร ตนขอชี้แจงว่า ช่วง 09.00 – 09.30 น. ตนอยู่กับแม่น้องชมพู่และป้าแต๋น ที่สวนยาง ซึ่งหากจากหมู่บ้านหลายกิโล ส่วนช่วง 14.00 น. ตนกลับมาจาก อ.หนองสูง กลับมาที่บ้าน จอดรถ ทำธุระเสร็จ ก็เดินขึ้นไปหาน้องชมพู่ โดยมีชาวบ้านแถวนั้นเป็นพยาน ประมาณ 3 คน โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่สอบสวนไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ได้สอบพยานโดยถามถึงคนละสถานที่ ทำให้สำนวนเพี้ยน

 

ในวันเกิดเหตุ มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวอยู่กับป้าแต๋น ตนยืนยันไม่รู้เรื่องว่าน้องชมพู่หายตัวไป และไม่ได้คุยกับพระด้วยประโยคที่ปรากฏในคำพิพากษา

 

ด้านป้าแต๋นเองก็เผยความรู้สึกว่า เหตุการณ์วันนี้ตนไม่ได้อธิบายอะไรกับลูกๆมาก เพราะลูกน่าจะติดตามข่าวสารจากโซเชียลอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องคดีก็พร้อมสู้ และพร้อมให้กำลังใจลุงพล รู้และมั่นใจว่าลุงพลไม่ได้ทำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ตนก็น้อมรับคำตัดสินของศาล และพร้อมอุทธรณ์

 

ลุงพลยังทิ้งท้ายว่า ยืนยันคำเดิม ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขา แต่ในชั้นสอบสวนมีคนเห็นว่าตนไปยืนเหม่อ ไม่คุยกับใครและไม่ทักใคร

ที่เดียว! ลุงพลเปิดปากแฉคนปรักปรำทำติดคุกโต้ขู่พยาน เคลียร์ทำไมรู้อนาคต