เปิดภาพใหม่วันชมพู่หาย ลุงพลมีพยานในรถ

วันนี้ทีมเขาช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนางสาวนลิน หรือ ป้าถอน และนายม็อก สามี ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2563 เวลาประมาณ 11.00 น พวกตัวเองรวมถึงลุง ป้าแต๋น ได้ขับรถกระบะออกจากบ้าน (หน้าบ้านป้าถอน) เพื่อไปส่งครูบารัตน์ ที่อำเภอหนองสูง จ.มุกดาหาร ซึ่งขาไปลุงพลได้พาพวกตัวเองจอดที่อำเภอหนองสูง จ. มุกดาหาร เพื่อตรวจโควิด ใช้เวลาประมาณ 5 นาที และถึงวัดที่ส่งครูบารัตน์ประมาณ 12.00 น.



จากนั้น พวกตัวเองก็อยู่ที่วัดประมาณ 1 ชั่วโมง และออกจากวัดประมาณ 13.00 น. โดยขากลับลุงพลได้จอดแวะซื้อเงาะ 2 ถุง ที่อำเภอหนองสูง จากนั้นลุงพลก็ขับรถต่อมา และแวะที่ตลาดกุฉินารายณ์เพื่อซื้อกับข้าว จากนั้นลุงพลก็ขับมุ่งหน้าบ้านกกกอก มาถึงบ้านกกกอก และจอดหน้าบ้านป้าถอน ประมาณ 14.30 น. ซึ่งตอนที่ลุงพลขับรถกลับนั้น ก็ขับอยู่ที่ประมาณ 70 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



พอถึงบ้านตัวเอง หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ลุงพลก็ได้เดินขึ้นเขาเพื่อไปหาน้องชมพู่ สวมเสื้อพื้นเมือง ซึ่งไม่แน่ใจว่าไปเขาลูกไหน เพราะพวกตัวเองก็ไม่ได้เห็นลุงพล ตอนที่เขาไปค้นหา

กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ลุงพลได้เดินมาที่บ้านตัวเอง (บ้านป้าถอน) แล้วลุงพลก็พาตัวเอง (ป้าถอน) พร้อมกับป้าแต๋นไปที่บ้านมะนาว เพื่อไปสอบถามนายกริ้ง น้องของพ่ออนามัย ว่าได้พาตัวน้องชมพู่ไปหรือไม่ โดยพวกตัวเองไปอยู่ที่บ้านมะนาว ประมาณ 30 นาที ก่อนที่ลุงพลจะขับรถกลับมาส่งตัวเองที่บ้าน และพากินข้าวที่บ้านตัวเอง



ขณะที่ลุงพล ก็ขอชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า หลังจากปรากฏหลักฐานในกล้องวงจรปิดว่าลุงเดินทางกลับมาถึงกกกอกในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. และออกจากบ้านกกกอกเวลา 16.00 น. ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่ลงคนหายไป และลุงพลเองก็ไม่สามารถยืนยันสถานที่ที่ตัวเองอยู่ได้ชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นข้อถกเถียงที่เกี่ยวข้องกับการถูกพิพากษา

เรื่องนี้ลุงพลชี้แจงว่าช่วงเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีนั้นว่า หลังจากไปส่งครูบารัตน์ก็มาจอดรถที่บริเวณหน้าบ้านป้าถอน พอจอดรถเสร็จก็เดินขึ้นไปทางซอยบ้านแม่น้องชมพู่ เพื่อเดินขึ้นไปหาน้องชมพู่ในตอนแรกก็หาตามบ้านชาวบ้านก่อนแต่พอไม่เห็น ก็เดินตามสวนมันขึ้นไปและตอนนั้นก็ไม่มีใครเดินขึ้นไปบนเขา เพราะว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เค้าไปกันเป็นกลุ่ม แต่ลุงไปคนเดียว



ส่วนประเด็นเรื่องที่เจ๊บุญมาเห็นลุงนั้นลุงพลบอกว่าตัวเองนี่แหละเป็นคนอ้างว่าเห็นเจ๊บุญมาในช่วงเวลานั้น แต่ลุงพลบอกว่าตอนนี้เห็นเจ๊บุญมานั้น เหมือนเจ๊บุญมากำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ ลุงก็เลยเดินหาไปเรื่อย

ส่วนที่เจ๊บุญมาให้สัมภาษณ์ บอกว่าตอนนั้นเจอลุงพลแล้วดูมีพิรุธเนื่องจากพยามเรียกลุงพลแต่ลุงพลไม่หัน ลุงพลยืนยันว่าตอนนั้นเจ๊บุญมาไม่ได้เรียก ต่างคนต่างเดินกันไปมา แล้วก็ไม่ได้มีพิรุธอะไรทั้งสิ้น หลังจากนั้นลุงพลก็เดินกลับมาที่บ้านป้าถอนเจอกับป้าแต๋นแล้วชวนกันไปบ้านกกตูมและมุ่งหน้าไปสู่บ้านมะนาว

ส่วนประเด็นเรื่องที่ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณจุดตรวจโควิดที่เหมือนลุงพลลงไปแสดงตัวเพื่อพยายามยืนยันถิ่นที่อยู่ตัวเอง ลุงพลยืนยันว่าเป็นด่านโควิดที่ยังไงทุกคนก็ต้องลงไปอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติไม่ได้มีความพยายามอย่างที่ถูกกล่าวหา



ไขปริศนาวันชมพู่หาย สืบพยานคนเห็นลุงพล

ต่อมาทีมข่าวได้มาพูดคุนกับนายกริ้ง (นามสมมติ) น้องชายของนายอนามัย (พ่อของน้องชมพู่) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 พ.ค. 2566 ลุงพล ได้ขับรถกระบะมาพร้อมกับป้าแต๋น และป้าอีกหนึ่งคน (ป้าถอน) แต่ตัวเองจำชื่อไม่ได้ มาเจอตัวเองระหว่างทางบ้านมะนาว อ.กกตูม จ.มุกดาหาร จากนั้นลุงพลก็ลงมาถามตัวเองว่า “ได้พาตัวน้องเจ้าไปไหม” ตัวเองก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เอาไป ซึ่งก็คุยกันไม่นาน จากนั้นนพพลก็ขับรถกระบะออกไป บอกว่าจะออกไปตามหาน้องชมพู่ต่อ ถามว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกกับลุงพลอย่างไร ที่เขาโดนศาลตัดสินแบบนั้น ตัวเองก็รู้สึกเฉย ๆ คิดว่าใครทำอะไรไว้ ก็ต้องได้รับผลกรรมอย่างนั้น



ป้าแต๋น แจงลุงพลไม่หาย แต่ช่วยตามหาชมพู่

ป้าแต๋นเองก็ออกมาชี้แจงยืนยันว่า ภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในสื่อทั้งสองภาพนั้นมีป้าแต๋นอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย ซึ่งหลังจากกลับมาที่บ้านกกกอกแล้วป้าแต๋นยอมรับว่าช่วงเวลา 14.30 น. ลุงพลจอดรถบริเวณด้านหน้าบ้านป้าถอนแล้วแยกจากลุง เพราะลุงเดินขึ้นไปทางซอยบ้าน แม่น้องชมพู่เพื่อขึ้นไปหาน้องชมพู่ ส่วนป้าเองก็อยู่แถวนั้นแล้วกลับมาเจอลุงอีกทีคือช่วงเวลาหลังบ่ายสามที่ขับรถออกไปจากบ้านกกกอกเพื่อไปบ้านมะนาวตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ป้าแต๋น ยืนยันว่า ช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีพิรุธอะไรเลย ก็เป็นการใช้ชีวิตปกติและช่วยกันตามหาน้อง



ไม้เด็ดทีมทนายลุงพล ใช้ต่อสู้ชั้นอุทธรณ์

นายสุรชัย ชินชัย ทนายความลุงพล เผยว่า ตำรวจไม่ได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดเวลาเข้าออกหมู่บ้านกกกอกของลุงพลใส่ในสำนวน ประเด็นเรื่องหลักฐานวงจรปิดที่เห็นว่าหลังจากลุงพลรับพระไปส่งระหว่างทาง ลุงพลได้จอดรถซื้อของซื้ออัฏฐะบริขารซึ่งกล้องจับภาพได้ ส่วนเรื่องที่อยากทราบว่าช่วงบ่าย 2 ตอนเข้ากับออกหมู่บ้านกกกอกนั้น ในสำนวนไม่ปรากฏ แต่ว่าลุงพลอธิบายเบิกความต่อศาลว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไปทำธุระที่ไหน ไปพบใคร ไปกับใครละเอียดชัดเจน รวมทั้งเราก็นำพยานบุคคลที่ลุงพลพูดถึงมาเบิกความหลายคน ยืนยันช่วงเวลานี้ว่ามีลุงพลทำกิจกรรมตามที่ได้เบิกความจริง

หลุดอีก! ภาพลุงพลขับรถพ้นบ้านขณะชมพู่หาย แต๋นผนึกสหาย โต้มีสิทธิ์คดีพลิก