"สุรพงษ์" เผยผลตรวจสอบรถไฟฟ้าสายสีชมพู ชีทไพล์กระแทกรางคด ทำตัวยึดหลุดขณะรถวิ่ง

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 24 ธ.ค.66 ที่บริเวณปากซอยติวานนท์ 34 ถนนติวานนท์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีชมพู หลุดร่วงลงถนนทำรถยนต์เสียหาย 3 คัน เหตุเดิดเมื่อเวลา 04.47 น.

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ขบวนนี้ไม่ใช่ขบวนรถโดยสาร เป็นขบวนรถตรวจความพร้อม ที่จะออกทำการก่อนที่ขบวนรถโดยสารจริงจะวิ่ง อันนี้เป็นการเซฟตี้อย่างหนึ่งที่รถขบวนตรวจสอบล่วงหน้าตรวจสอบรางมาเจอก่อนที่รถรับผู้โดยสารจริงจะมา และจากการสังเกตที่เห็นรางจ่ายไฟฟ้าตกลงมาอันนี้ ก็ถือว่าเป็นระบบเซฟตี้ที่เราเลือก ตัวรถถ้าหากเกิดการกระทบกระเทือนตัวนี้จะเกิดปัญหาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นระบบเซฟตี้อันหนึ่ง

ส่วนสาเหตุเกิดจากเราเร่งคืนพื้นที่ผิวจราจร โดยมารื้อถอนในเวลากลางคืน ซึ่งดูจากร่องรอยแล้วสันนิษฐานว่าเกิดจากตัวนี้ เวลาถอนชีทไพล์ออกแล้วชีทไพล์มันยาวอาจไปกระแทก ซึ่งตอนที่รื้อถอนระบบรางจะไม่มีการจ่ายไฟฟ้า อาจจะมีการกระแทกแล้วไม่ได้แจ้งกับทาง operator ผู้ประกอบการรถไฟฟ้า แล้วพอเราจ่ายกระแสไฟฟ้าแล้วมีรถตรวจรางออกมาวิ่งตอนตีสี่กว่าก่อนจะมีรถโดยสารจริงวิ่ง คนขับรถตรวจรางก็เจอก่อนจึงแจ้งให้ทราบ

เดี๋ยวเราจะลงในเชิงลึกต่อไป แต่สาเหตุคงไม่มีไปจากประเด็นเรื่องการรื้อถอนพื้นผิวการจราจรแล้วไปกระแทกกับระบบรางจ่ายไฟแล้วไม่แจ้ง จนรถตรวจรางมาเจอ เมื่อถูกกระแทกก็ผิดรูปเมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าจึงเกิดการสปาร์ค จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น เราก็ตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้เหลือแค่ตรงจุดนี้และอีก 7 กิโลเมตรที่เราจะต้องแก้ไข ส่วนที่เหลือนั้นตรวจสอบแล้วจึงเดินรถได้ตามปกติ

ในช่วงเทศกาลเราจะให้พี่น้องประชาชนเดินทางได้โดยสะดวกที่สุด พยายามจะทำให้เร็วที่สุดน่าจะไม่เกิน 7 วัน แล้วเราไม่ได้คำนึงถึงเรื่องผลประโยชน์ เพราะเราเดินรถให้นั่งฟรีอยู่แล้ว แต่วันนี้เราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้ง operator ทั้งของกรมราง ที่คุมเรื่อง regulator ทั้งหมด เดี๋ยวเราจะร่วมกันตรวจสอบตามหลักการวิศวกรหลักการเดินรถ ถ้าติดตั้งเสร็จแก้ไขเสร็จรู้สึกว่าเราพร้อมสำหรับผู้โดยสาร ก็จะทำการเปิดทันที คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะไม่เกิน 7 วัน เพราะว่าอะไหล่บางตัวถ้าไม่มีเราก็ต้องรีบนำเข้ามาโดยเร่งด่วน เพื่อให้สามารถรองรับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่

ที่เห็นอยู่นี่คือระบบสร้างความเชื่อมั่น เพราะรถที่มาเจอก็เป็นรถตรวจการณ์ ก่อนรถโดยสารจริงจะวิ่ง ถ้าเป็นรถโดยสารจริงถ้ามาวิ่งเขาก็จะเจอประมาณนี้ แต่นี่รถตรวจการณ์มาเจอก่อนนี่คือเซฟตี้ที่ 1 เซฟตี้ที่ 2 คือพอเกิดเหตุการณ์สิ่งที่หลุดออกมาก่อนคือรางจ่ายไฟรถจะอยู่ที่เดิม

ล่าสุด 15.30 น.ถนนติวานนท์ ฝั่งขาเข้า จากหน้ากรมชลประทานปากเกร็ด เปิดการจราจรปกติแล้ว 2 ช่องทาง โดยช่องทางขวาสุดมีการติดตั้งวางกรวยยางและแท่งแบริเออร์ ปิดกั้นพื้นที่ด้านล่างที่ตรงกับรางจ่ายกระแสไฟฟ้าที่หลุดอยู่บนผิวจราจร คาดคืนนี้ทีมช่างและวิศวกรจะเข้าดำเนินการถอดและแก้ไขต่อไป