ห้ามพลาดรายการของคนข่าวตัวจริง รับชมเนื้อหาได้จาก #ลุยชนข่าว

ติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/@Luichonkhao

Facebook : https://bit.ly/LuiChonKhao

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 กรุงเทพ พยาบาล รพ.รัฐแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี  พาแม่เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดหลังจากพาแม่ไปผ่าตัดต้อกระจกแต่หมอทำการรักษาผิดพลาดเกิดการติดเชื้อรุนแรง จนต้องควักลูกตาทิ้ง ทำให้แม่ตาบอดข้างซ้าย

 

ด้าน นาง รุ่งทิพย์ อายุ  51 อาชีพพยาบาลใน ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.ราชบุรี กล่าวว่า นาง มัก แม่ของตนนั้น มีอาการตาฟางตามองเห็นไม่ชัดจึงได้พาไปตรวจที่คลินิกแห่งนึ่งใน จ.ราชบุรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ตรวจที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งในจ.ราชบุรี ว่าเป็นต้อกระจกที่ตาซ้าย จึงได้เสนอแพ็คเกจการผ่าตัดต่างๆซึ่งตนและแม่มีความไม่สะดวกบางอย่างในแพ็คเกจเหล่านนี้ เช่นไม่สะดวกไปช่วงเวลาในการผ่าตัดนั้นๆ ตนถึงเลือกที่จะจ่ายเงิน 25,000 บาท ซึ่งสามารถวัดเลนส์ได้วันนั้นเลยและสามารถไปผ่าตัดได้ที่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของจ.ราชบุรีได้เลยในวันที่ 15 พฤษภาคม

 

แต่ภายหลังจากการผ่าตัดนั้นตนได้ สังเกตุตาของแม่ในขณะที่มีการนัดดูตาหลังผ่าตัดที่คลินิกดังกล่าวพบว่าดวงตาข้างที่ผ่าตัดมานั้น มีรอยแดงคล้ายเลือดออกในตา แต่หมอคนที่รักษาได้บอกกับตนว่าเพิ่งผ่าตัดมาดวงตาอาจจะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีสีเเดงในตาอยู่บ้าง แต่ปรากฏว่าหลังจากมีการนัดดูตาขึ้นอีก7วันหลังจากนั้น ก็ได้มีการแจ้งจากแพทย์ที่รักษาคนดังกล่าวว่าตาของแม่นั้นมีการติดเชื้อ ต้องมีการไปรักษาตัวด่วนที่ ถึงได้มีการนัดจากแพทย์คนดังกล่าวว่าให้ไปรับยาฆ่าเชื้อในวันที่ 23 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลที่ตนทำงานอยู่ เพราะตนและแพทย์คนดังกล่าวนั้นทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน แต่พอไปถึงกลับไม่ได้ให้ยาดังกล่าวมีเเต่การเขียนใบบันทึกข้อความและบอกให้ตนนั้นรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว พอตนและแม่ได้ไปถึงโรงพยาบาลดังกล่าวก็ได้ผ่าตัดในวันนั้นเลย

 

โดยภายหลังการผ่าตัดตาอีกรอบในวันรุ่งขึ้น ตาสองข้างนั้นแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะการอักเสบนั้นบวมไม่สามารถไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งแพทย์ได้ส่งสัญญามาให้ตนแล้วว่าการอักเสบในครั้งนี้นั้นอาจจะต้องมีการควักลูกตาออก ซึ่งแพทย์ผู้รักษานั้นได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว

 

แล้วก็ควักลูกตาออกเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตอนนี้ตาข้างซ้ายของแม่ไม่มี ลูกตาเป็นลูกตาปลอม หลังเกิดเหตุแพทย์เป็นคนที่ทราบคนแรกว่าติดเชื้อ แต่ทางแพทย์ไม่ได้แจ้งโรงพยาบาลว่ามีการติดเชื้อ ตนมีข้อสงสัยเพราะว่า การติดเชื้อมันเป็นการติดเชื้อภายใน 7 วันหลังการผ่าตัด จึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ดำรงธรรมส่งเรื่องไปให้สาธารณสุขจังหวัด พบข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่สรุปว่า ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน โดยแพทย์ไม่เคยโทรศัพท์มาสอบถามอาการของคนไข้เลย อ้างว่าไม่สามารถหาเบอร์ของโทรศัพท์ของตนได้ ทั้งที่ตนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์เช่นเดียวกัน

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 66 ตนได้พบกับแพทย์ผู้รับทำการผ่าตัดโดยมีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล และหัวหน้าแผนกศูนย์คุณภาพ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า จะแสดงความรับผิดชอบ ดำเนินการให้แม่ได้โดยใส่ตาปลอม ขอระยะเวลา 6 เดือนแต่พอครบ 6 เดือนแต่กลับไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ เหมือนเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนจึงได้ประสานกับพยาบาลที่ตนรู้จักผู้เป็นคนประสานได้แจ้งว่าได้คุยกับแพทย์ผู้ผ่าตัดหลายครั้ง ได้คำตอบว่า ให้รอประกันสรุป ทำให้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนคิดว่าฝ่ายแพทย์คงไม่ดำเนินการตามข้อตกลงแน่ๆ สุดท้ายเรื่องเงียบ จึงมาขอร้องความเป็นธรรมกับทางเพจสายไหมต้องรอด แต่กรณีนี้ตนยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด อยากกล่าวถึงแพทย์สภาว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังแพทยสภาถึงมาตรฐานการรักษาคุณธรรมจริยธรรมของแพทย์ท่านนี้ ขอให้ท่านตัดสินและชี้ขาดตามกระบวนการยุติธรรมให้มีความเป็นธรรมแก่ครอบครัวด้วย

 

ด้านนายเอกภพกล่าวว่า เอกสารของผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ขอฝากถึงแพทย์สภา สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ให้ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งนี้อาม่าผู้เป็นฝ่ายสูญเสียดวงตาควรได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผล เพราะตนเข้าใจความรู้สึกดีว่า ลูกสาวเป็นห่วงคุณแม่นำไปผ่าต้อกระจกสุดท้ายต้องควักดวงตาของคุณแม่ไป และชีวิตของคุณแม่ไม่เหมือนเดิม ขนาดแค่หั่นฝรั่งยังเอามีดเฉือนเนื้อตัวเองด้วยความที่ไม่เคยชิน เมื่อเหลือดวงตาเพียงข้างเดียว ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่า เป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่

 

 

ห้ามพลาดรายการของคนข่าวตัวจริง รับชมเนื้อหาได้จาก #ลุยชนข่าว

ติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/@Luichonkhao

Facebook : https://bit.ly/LuiChonKhao

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 กรุงเทพ พยาบาล รพ.รัฐแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี  พาแม่เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดหลังจากพาแม่ไปผ่าตัดต้อกระจกแต่หมอทำการรักษาผิดพลาดเกิดการติดเชื้อรุนแรง จนต้องควักลูกตาทิ้ง ทำให้แม่ตาบอดข้างซ้าย

 

ด้าน นาง รุ่งทิพย์ อายุ  51 อาชีพพยาบาลใน ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.ราชบุรี กล่าวว่า นาง มัก แม่ของตนนั้น มีอาการตาฟางตามองเห็นไม่ชัดจึงได้พาไปตรวจที่คลินิกแห่งนึ่งใน จ.ราชบุรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ตรวจที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งในจ.ราชบุรี ว่าเป็นต้อกระจกที่ตาซ้าย จึงได้เสนอแพ็คเกจการผ่าตัดต่างๆซึ่งตนและแม่มีความไม่สะดวกบางอย่างในแพ็คเกจเหล่านนี้ เช่นไม่สะดวกไปช่วงเวลาในการผ่าตัดนั้นๆ ตนถึงเลือกที่จะจ่ายเงิน 25,000 บาท ซึ่งสามารถวัดเลนส์ได้วันนั้นเลยและสามารถไปผ่าตัดได้ที่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของจ.ราชบุรีได้เลยในวันที่ 15 พฤษภาคม

 

แต่ภายหลังจากการผ่าตัดนั้นตนได้ สังเกตุตาของแม่ในขณะที่มีการนัดดูตาหลังผ่าตัดที่คลินิกดังกล่าวพบว่าดวงตาข้างที่ผ่าตัดมานั้น มีรอยแดงคล้ายเลือดออกในตา แต่หมอคนที่รักษาได้บอกกับตนว่าเพิ่งผ่าตัดมาดวงตาอาจจะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีสีเเดงในตาอยู่บ้าง แต่ปรากฏว่าหลังจากมีการนัดดูตาขึ้นอีก7วันหลังจากนั้น ก็ได้มีการแจ้งจากแพทย์ที่รักษาคนดังกล่าวว่าตาของแม่นั้นมีการติดเชื้อ ต้องมีการไปรักษาตัวด่วนที่ ถึงได้มีการนัดจากแพทย์คนดังกล่าวว่าให้ไปรับยาฆ่าเชื้อในวันที่ 23 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลที่ตนทำงานอยู่ เพราะตนและแพทย์คนดังกล่าวนั้นทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน แต่พอไปถึงกลับไม่ได้ให้ยาดังกล่าวมีเเต่การเขียนใบบันทึกข้อความและบอกให้ตนนั้นรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว พอตนและแม่ได้ไปถึงโรงพยาบาลดังกล่าวก็ได้ผ่าตัดในวันนั้นเลย

 

โดยภายหลังการผ่าตัดตาอีกรอบในวันรุ่งขึ้น ตาสองข้างนั้นแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะการอักเสบนั้นบวมไม่สามารถไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งแพทย์ได้ส่งสัญญามาให้ตนแล้วว่าการอักเสบในครั้งนี้นั้นอาจจะต้องมีการควักลูกตาออก ซึ่งแพทย์ผู้รักษานั้นได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว

 

แล้วก็ควักลูกตาออกเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตอนนี้ตาข้างซ้ายของแม่ไม่มี ลูกตาเป็นลูกตาปลอม หลังเกิดเหตุแพทย์เป็นคนที่ทราบคนแรกว่าติดเชื้อ แต่ทางแพทย์ไม่ได้แจ้งโรงพยาบาลว่ามีการติดเชื้อ ตนมีข้อสงสัยเพราะว่า การติดเชื้อมันเป็นการติดเชื้อภายใน 7 วันหลังการผ่าตัด จึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ดำรงธรรมส่งเรื่องไปให้สาธารณสุขจังหวัด พบข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่สรุปว่า ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน โดยแพทย์ไม่เคยโทรศัพท์มาสอบถามอาการของคนไข้เลย อ้างว่าไม่สามารถหาเบอร์ของโทรศัพท์ของตนได้ ทั้งที่ตนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์เช่นเดียวกัน

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 66 ตนได้พบกับแพทย์ผู้รับทำการผ่าตัดโดยมีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล และหัวหน้าแผนกศูนย์คุณภาพ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า จะแสดงความรับผิดชอบ ดำเนินการให้แม่ได้โดยใส่ตาปลอม ขอระยะเวลา 6 เดือนแต่พอครบ 6 เดือนแต่กลับไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ เหมือนเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนจึงได้ประสานกับพยาบาลที่ตนรู้จักผู้เป็นคนประสานได้แจ้งว่าได้คุยกับแพทย์ผู้ผ่าตัดหลายครั้ง ได้คำตอบว่า ให้รอประกันสรุป ทำให้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนคิดว่าฝ่ายแพทย์คงไม่ดำเนินการตามข้อตกลงแน่ๆ สุดท้ายเรื่องเงียบ จึงมาขอร้องความเป็นธรรมกับทางเพจสายไหมต้องรอด แต่กรณีนี้ตนยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด อยากกล่าวถึงแพทย์สภาว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังแพทยสภาถึงมาตรฐานการรักษาคุณธรรมจริยธรรมของแพทย์ท่านนี้ ขอให้ท่านตัดสินและชี้ขาดตามกระบวนการยุติธรรมให้มีความเป็นธรรมแก่ครอบครัวด้วย

 

ด้านนายเอกภพกล่าวว่า เอกสารของผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ขอฝากถึงแพทย์สภา สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ให้ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งนี้อาม่าผู้เป็นฝ่ายสูญเสียดวงตาควรได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผล เพราะตนเข้าใจความรู้สึกดีว่า ลูกสาวเป็นห่วงคุณแม่นำไปผ่าต้อกระจกสุดท้ายต้องควักดวงตาของคุณแม่ไป และชีวิตของคุณแม่ไม่เหมือนเดิม ขนาดแค่หั่นฝรั่งยังเอามีดเฉือนเนื้อตัวเองด้วยความที่ไม่เคยชิน เมื่อเหลือดวงตาเพียงข้างเดียว ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่า เป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่