ลูกโพสต์ร้องทนายดัง แม่ถูกเพื่อนพนักงานวางยาใส่น้ำให้กิน
จากกรณี มีเฟซบุ๊กชื่อว่า นิภาพร ได้โพสต์รูปของแม่ตัวเอง ซึ่งมีการแท็กไปยังเฟซบุ๊กของทนายปิยวัฒน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล โดยเล่าเรื่องราวที่แม่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล โดยตั้งคำถามในโพสต์ดังกล่าวว่า วันนี้พนักงานด้วยกันแอบเทน้ำยาล้างห้องน้กใส่ในกระติกส่วนตัว ให้แก่กินแม่เราอายุ57แล้ว แม่โทรมาบอกเราว่าคลื่นใส้อาเจียนโทหาน้องชายไปรับและส่งไปรพ.ทุ่งสงเพื่อตรวจดูอาการ เบื้องต้นเจอสารพิษจิงในกระเพาะอาหาร ส่วนเรื่องคดีความขอเอาเรื่องเฉพาะบุคคลให่ถึงที่สุดคะ ขอบคุณทางร้านที่ออกมารับผิดชอบคะ
#เรื่องนี้มอบให้ทนายความปิยะวัฒน์จัดการแล้วคะ
นอกจากนี้ คุณนิภาพร ยังโพสต์อัพเดทอาการของแม่ หลังเกิดเหตุ 1 วันว่า อาการของแม่ยังปวดหัว ท้องเสีย อาเจียน อยู่คะ ..!!! โดยลงรูปภาพของแม่ซึ่งนอนอยู่บนเตียงภายในโรงพยาบาล
จากนั้นได้มีการโพสต์ว่า ฉันรักครอบครัวฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครมาทำร้ายคนในครอบครัวฉัน
#ถ้าเห็นว่าโดนเอาเปรียบไม่มีความเป็นธรรมให้เตรียมรับผลกรรมที่ตามมาค่ะ
การกระทำสำคัญกว่าคำพูด ฉันเชื่อคำนี้
ซึ่งเมื่อวานนี้ในช่วงเย็น ก็ยังมีการถ่ายคลิป อาการของแม่ อัพเดทว่า ตื่นแล้วเจ๊ไก่บางพลี โดยในคลิปจะเห็นว่าแม่ที่ป่วยอยู่ยังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย และช่วงท้ายๆคลิปมีอาการดีขึ้น โดยตื่นและขยับตัวได้
ล่าสุดวันนี้ (25 ธ.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านของคนโพสต์ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และได้พบกับ น.ส.นิภาพร อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นคนโพสต์และเป็นลูกสาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม โดยหลังเกิดเหตุ ประมาณทุ่มกว่าๆ แม่ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านน้ำชาแห่งหนึ่งในอำเภอทุ่งสง ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า สงสัยจะถูกเพื่อนร่วมงานที่ไม่ถูกกัน นำน้ำยาล้างห้องน้ำมาใส่ในกระติกของแม่ ซึ่งแม่ยังบอกว่า หลังจากดื่มน้ำในกระติกเข้าไป มีอาการปวดท้องและเวียนหัว ด้วยความตกใจ ก็เลยโทรศัพท์ให้น้องรีบไปรับแม่ไปส่งโรงพยาบาล
ซึ่งพอแม่ไปถึงโรงพยาบาล ทางแพทย์จึงได้มีการพาแม่เข้าไปรักษาในห้องฉุกเฉิน เพื่อทำการเอกซเรย์ก่อนจะล้างท้องให้แม่ โดยเมื่อล้างท้องเสร็จ หมอก็ออกมาแจ้งกับตนว่า แม่ถูกวางยาด้วยสารพิษ แต่ไม่บอกว่าเป็นสารอะไร จากนั้นตำรวจก็มาขอน้ำในกระติกของแม่ไปส่งตรวจ
ส่วนประเด็นเรื่องที่แม่ สงสัยนางปลา(นามสมมติ) เพื่อนร่วมงานของแม่ที่ไม่ถูกกัน ยืนยันว่า ก่อนจะเกิดเหตุ แม่เคยโทรมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แต่ตนเองไม่ได้เอะใจว่าเขาจะคิดทำร้ายแม่ขนาดนี้ จึงได้แต่บอกให้แม่ อยู่ห่างๆต่างคนต่างทำงานไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ ยังไม่ได้ติดต่อไปคุยกับนางปลา ว่าทำแบบนี้กับแม่ทำไม ส่วนที่ตัดสินใจโพสต์และแท็กไปถึงทนายให้ช่วยเหลือ เป็นเพราะว่าโมโห และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่าแม่โดนแบบนี้ ส่วนเรื่องคดี จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งถ้าเขามาขอโทษ ก็ขึ้นอยู่กับแม่ว่าจะให้อภัยหรือไม่
ขณะเดียวกัน วันนี้หลังจากอาการของผู้เสียหายดีขึ้น ทางลูกสาวจึงได้รับกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน ซึ่งวันนี้ ทีมข่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับนางออด๊าช (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกวางยา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปกติตนทำงานเจอกับเพื่อนร่วมงานรายนี้ทุกวัน ซึ่งตนเอง ทำหน้าที่เป็นพนักงานล้างแก้วอยู่หลังร้าน ส่วนคู่กรณีจะอยู่แผนกขายข้าวมันข้าวหมกไก่ที่หน้าร้าน ที่ผ่านมาเคยมีปัญหากันเรื่องของกินภายในร้าน มีการทะเลาะด่าว่ากันแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงทำร้ายร่างกาย ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านไปแล้วตนไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากคู่กรณีรุ่นเดียวกันกับลูก
จนกระทั่งมาเกิดเรื่องเมื่อวานนี้ ซึ่งพนักงานในร้านทุกคนรักตนเอง มีแต่เพื่อนร่วมงานคนนี้เพียงคนเดียวที่ไม่ค่อยลงรอยกันกับเพื่อนร่วมงาน และชอบแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว ซึ่งวันเกิดเหตุเมื่อไปถึงร้านตนก็เอาน้ำแข็งใส่กระติกกินตามปกติทุกวัน แต่ไม่ได้ปิดฝาไว้ แล้วตั้งเอาไว้หลังร้าน โดยตอนที่ดื่มเข้าไปก็ไม่ได้สังเกตุและดื่มเข้าไปเลย ซึ่งตนดื่มน้ำไป2 ครั้ง กระทั่งจะดื่มครั้งที่3 รู้สึกว่ามันมีกลิ่นเปรี้ยว หลังจากนั้นจึงเอาไปให้พนักงานล้างจานดูพนักงานล้างจานจึงถามว่ากินเข้าไปได้ยังไงนี่มัน มีน้ำยาล้างห้องน้ำอยู่ในกระติก ซึ่งน้ำที่กินเข้าไปจะออกสีม่วงๆนิดๆ
หลังจากที่ทราบว่าตัวเองดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำไปแล้วตนเองก็ไปยืนบ่นหน้าร้านว่าใครทำกับตนแบบนี้ ขอให้สิ่งที่ทำมาเข้าตัวมัน แต่คู่กรณีที่เคยมีปัญหากันก็ยืนนิ่งและไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้แสดงตัวออกมาว่าเป็นคนทำ หลังจากนั้นตนก็เริ่มเจ็บคอและเริ่มเวียนหัว จากนั้นจึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว
เบื้องต้นทางร้านได้ไล่คู่กรณีที่คาดว่าน่าจะน่าจะเป็นคนแอบใส่น้ำยาล้างห้องน้ำในกระติกออกไปจากร้านน้ำชาแล้ว แต่ทางคู่กรณีก็ยังไม่ได้ยอมรับกับทางเจ้าของร้านว่าเป็นคนทำจริงหรือไม่ เพราะทางเจ้าของร้านสอบถามแล้วแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมพูด
ซึ่งตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว เหลือเพียงอาการเวียนหัวนิดๆเท่านั้น ท้องก็ไม่ปวดแล้ว จริงๆไม่อยากจะเอาความ แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะมาทำกับเรารุนแรงถึงขนาดนี้ ส่วนตัวรับไม่ได้ที่เค้ามาทำร้ายเราลับหลังแบบนี้จากนี้ไปคงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่ยอมรับคำขอโทษจากคู่กรณี ถ้านางปลา คู่กรณีฟังอยู่ ก็อยากจะบอกว่า ตบตีกันดีกว่ามาเล่นลับหลังแบบนี้