วันที่ 24 ธันวาคม 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์ จากการเรียกช่างจากศูนย์บริการของเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์หนึ่ง ให้เข้ามาซ่อมตู้เย็นที่บ้าน แต่สุดท้ายช่างกลับทำให้เกิดระเบิดจนสภาพภายในบ้านพังเละ ได้รับความเสียหายหนัก โดยช่างพยายามอ้างว่าสาเหตุเป็นเพราะมีก๊าซจากระบบถังแซคที่บ้าน ทั้งที่มาจากการทำงานของช่างเอง ขณะที่ทางบริษัทยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ แถมยังพยายามจะหาทางนำตู้เย็นที่เกิดเหตุกลับไปด้วย

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เข้าพูดคุยกับนายรัทพล อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย โดยเปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า วันที่ 1 ธันวาคม 66 ตนได้เรียกช่างซ่อมตู้เย็นจากศูนย์บริการแห่งหนึ่งที่เป็นแบรนด์ของตู้เย็น มาซ่อมตู้เย็นที่บ้าน ช่างมาถึงบ้านแจ้งว่าต้องซ่อมโดยการเชื่อมด้านหลังตู้เย็น จึงมีการนำอุปกรณ์การเชื่อม, ถังแก้สและน้ำยาต่างๆเข้ามาในบ้าน และเริ่มทำการซ่อม ตนจึงได้ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน โดยก่อนออกไปได้เปิดประตูห้องครัวเพื่อเข้าไปคุยกับช่างก่อนออกไปทำงานอีกครั้ง หลังจากการพูดคุยกับช่างตนก็ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปทำงานหลังจากตนออกมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง แฟนตนก็โทรมาบอกผมด้วยเสียงร้องไห้และตกใจมาก ว่าให้รีบกลับบ้าน ช่างทำอะไรไม่รู้แล้วระเบิดที่บ้านพังหมดเลย ตนจึงรีบมาที่บ้านก็พบ-กระจกห้องครัวแตก และกรอบประตูลอยกระเด็นมาฟาดกระจกประตูบ้านแตก-หลังคาในส่วนครัวแตกหัก-ฝ้าในห้องครัวแตกร้าว-เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ต่างๆเสียหาย-โต๊ะกินข้าวขาหัก-ฝ้าในห้องนอนแตกร้าว-ฝ้าชั้นสองแตกร้าว-รถยนต์เสียหายตนจึงได้สอบถามช่างระหว่างที่รอตำรวจ ช่างซ่อมตู้เย็นบอกว่า ไฟมันลุกขึ้นมาจากฝาถังแซค ช่างได้พยายามให้เหตุผลว่า ไฟลุกและระเบิดจากการมีก๊าซไข่เน่าออกมาจากระบบถังแซคของบ้าน ตนได้ตอบกลับว่า บ้านตนไม่มีแก๊ซอยู่ในบ้านเลยอยู่มา 3 ปี ถ้ามันจะเกิดระเบิดเพราะระบบถังแซคในบ้านตน ช่างเข้ามาเริ่มจุดไฟเชื่อมมันก็ระเบิดไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่นี่ช่างนั่งทำงานในห้องครัวมาเป็นชั่วโมงแล้ว สาเหตุที่ระเบิดมันมาจากการทำงานของช่าง

หลังจากเกิดเหตุทางตัวแทนของแบรนด์ก็ได้แจ้งตนว่า จะนำเครื่องใหม่รุ่นใกล้เคียงกันมาเปลี่ยนให้ แต่จะต้องให้ตนคืนตู้เย็นอันเก่ามาก่อน ตนก็ไม่ได้เข้าใจว่าทำไม่ต้องให้ตนคืนก่อน เพราะตู้เย็นอันเก่าจะต้องส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเขาตรวจก่อนตนจึงได้เข้าไปติดต่อกับบริษัท ที่สำนักงานที่ตั้งอยู่ที่ ถ.เพชรบุรี ทางเจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องการเปลี่ยนตู้เย็น โดยแจ้งว่าจะติดต่อกลับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาวันศุกร์ 8 ธ.ค. 66 โดยแจ้งตนว่าจะนำตู้เย็นใหม่มาเปลี่ยนให้ โดยขอรับเครื่องเก่ากลับไปด้วย ตนจึงตอบกลับไปว่า ขอให้สิ้นสุดการสอบสวนหรือเสร็จเรื่องคดีก่อนแล้วค่อยมารับกลับไป เพราะอาจจะต้องตรวจหลักฐานอะไรเพิ่มเติม แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ต้องรับเครื่องกลับเลยเท่านั้น ถึงจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ ด้วยความรู้สึกไม่พอใจผมจึงตอบไปว่า ทาง บ.ไม่ได้แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับตน เหมือนว่าต้องการปกปิดอะไรสักอย่าง ตนจึงปฏิเสธการเปลี่ยนตู้เย็นไปหลังจาก็กนั้นทางแบรนด์ก็โทรมาติดต่อตนมาอีก โดยแจ้งเหมือนเดิมว่าต้องนำเครื่องเก่ากลับไปด้วยเท่านั้น ถึงจะนำเครื่องใหม่มาเปลี่ยนให้ ตนจึงถามไปว่า ทำไมถึงต้องรีบนำเครื่องเก่ากลับทันที ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า หากตนสงสัยเรื่องนี้ให้ติดต่อกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สอบสวนเรื่องนี้ ตนก็งงว่าทำไมเขาถึงไม่บอกตนเอง ทำไมจะต้องให้ถามตำรวจทั้งที่มันเป็นการรับผิดชอบจากทางแบรนด์ที่ต้องให้ลูกค้า

จนมาถึงตอนนี้ ตนก็ยังไม่รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือใดๆจากทางแบรนด์นี้ ส่วนเรื่องของคดีก็จะต้องรอผลตรวจจากพฐ.ก่อน ซึ่งทางตำรวจแจ้งตนว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนถึงจะรู้ผลได้