จากกรณีเพจ social hunter reborn V3 ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัยนักเพาะกายรายหนึ่งมีภรรยาแล้ว พักอาศัยอยู่ในจังหวัดชลบุรี มีพฤติกรรมหลอกสาวหลายราย ด้วยการหลอกให้รัก หลอกให้หลง แล้วกรรโชกทรัพย์

โดยระบุว่า สาวบางรายถ้าคบหากัน ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ด้วย จะถูกถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์เก็บไว้ จากนั้นก็จะถูกนักเพาะกายรายนี้นำคลิปมาแบล็กเมล์ในภายหลัง พร้อมกับข่มขู่ให้นำเงินมาจ่ายจำนวนหลักแสน หากไม่นำมาจ่ายก็ขู่จะปล่อยคลิปทันที



สาวบางรายนอกจากจะถูกกรรโชกทรัพย์แล้ว ยังถูกภรรยาของนักเพาะกายรายนี้ ตามมาทำร้ายทำลายทรัพย์สิน ทุบรถ และถูกฟ้องในข้อหาเป็นชู้อีกเรียกเงินถึง 300,000 บาทอีกด้วย

สาวแฉ หนุ่มเพาะกายหลอกรัก ช้ำถูกหลวงฟ้องชู้

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปพบกับนางสาวเปรี้ยว (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเริ่มรู้จักกับนายหนุ่ม (นามสมมุติ) หนุ่มเพาะกายรูปหล่อ ดีกรีลูกชายคนโตเสี่ยโรงเหล็ก เมืองสัตหีบ ตั้งแต่มิถุนายน ปี 2565 โดยรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กซึ่งฝ่ายชายเป็นคนทักแชตมาหาก่อน พร้อมกับพิมพ์คำหวาน มาทำความรู้จักและขอจีบ

จากนั้นผ่านไปประมาณ 2-3 เดือน ตนเองกับนายหนุ่มเริ่มคุยกันถูกคอมากขึ้น และนายหนุ่มเริ่มนัดเจอตนเอง พาตนเองไปกินข้าว กันบ่อยขึ้น จนกระทั่งนายหนุ่มได้ชวนตนเองพากันไปเปิดโรงแรม และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกัน ยืนยันระหว่างคบหากับนายหนุ่ม นายหนุ่มจะบอกตลอดว่าตัวเองโสด ไม่มีเมีย และต้องการครองรักกับตนเองไปจนแก่เฒ่า และอยากจะมีลูกสร้างครอบครัวกับตนเองด้วยกัน

ทำให้ตอนนั้นระหว่างคบหากัน ตนเองรักนายหนุ่มมาก นายหนุ่มเป็นนักเพาะกายเดินสายลงประกวด ตนเองใช้เงินเปย์นายหนุ่มอยู่ตลอด ค่าฟิตเนส ที่นายหนุ่มต้องเข้ายิมออกกำลังกาย เดือนละ 1,200 บาท ตนเองก็จ่ายให้ตลอดเวลาที่คบหากัน



นายหนุ่มไปประกวดเพาะกายตนเองก็ไปเชียร์ นายหนุ่มเอ่ยปากขอเงินค่ายาชูกำลัง ค่ายาฉีดร่างกายให้ฟิตปึ๋งปั๋ง กล้ามจะได้ใหญ่ ๆ สวย ๆ เพื่อประกวด ตนเองก็โอนเงินให้ โดยเธอได้ส่งภาพสลิปเงิน 10,000 บาท ให้กับทีมข่าวดู พร้อมกับภาพถ่ายภาพรูปคู่ด้วยกันสุดหวาน

ทว่า เมื่อเวลาผ่านไปกระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม ตนเองเริ่มสืบไปจนพบว่าแท้จริงแล้ว นายหนุ่มนั้น ไม่ได้คบหากับตนเองเพียงคนเดียว และมารู้ว่านายหนุ่มแท้จริงแล้วมีเมียอยู่แล้ว และคบอยู่กินกับเมียมากว่า 15 ปีแล้ว ตอนนั้นตนเองตกใจมากและพยายามจะตีตัวออกห่างจากนายหนุ่ม

แต่เมื่อตนเองพยายามตีตัวออกห่าง นายหนุ่มกลับไม่ยอม และพยายามจะง้อขอคบกับตนเองต่อ โดยขู่ว่า หากตนเองตีตัวออกห่างจะทำร้ายร่างกาย บางครั้งขู่โดยเอาปืนมาจ่อที่คาง ร้องไห้ อ้อนวอนหวังจะยิงตัวตาย แต่ตนเองจับโป๊ะได้ว่าปืนที่จ่อจะยิงตัวเองกลับไม่ใส่แม็กกาซีน ซึ่งตนเองก็จำใจอยู่ในสถานะคนในความลับมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม

จนกระทั่งสุดท้ายเรื่องของตนเองกับนายหนุ่มมาถึงจุดแตกหัก 23 กันยายน 2565 นายหนุ่มได้โทรศัพท์มาขอเงิน 7,000 บาท จากตนเพื่อเอาไปซื้อยาฉีดกล้าม โดยนั่งรออยู่ที่บ้าน สุดท้ายตนเองไม่โอนเงินให้ จึงทำนายหนุ่มออกจากบ้านช้า และเมื่อไปถึงร้านฟิตเนส ตนเองมารู้ภายหลังว่า นางสาวก้อย ภรรยาของนายหนุ่ม ได้เห็นพิรุธที่นายหนุ่มไปฟิตเนสช้า จึงสะกดรอยตามไปที่หน้าร้านฟิตเนส และเมื่อไปถึงนางสาวก้อยได้ย่องไปที่ด้านหลังของนายหนุ่ม ซึ่งนายหนุ่มกำลังนั่งตอบแชทตนอยู่ โดยนางสาวก้อยได้ใช้โทรศัพท์มือถือตัวเองซูม จนรู้ว่านายหนุ่มแอบคุยแชตกับตนเอง และทำให้ความลับทั้งหมดถูกเปิดเผย



ซึ่งในวันนั้นหลังจากนางสาวก้อย ภรรยาของนายหนุ่มจับได้ว่า นายหนุ่มแอบคุยกับตนเอง นายหนุ่มโกรธมาก และพาลโทรศัพท์มาต่อว่าตน ว่าตนแอบเอาเรื่องไปบอกนางสาวก้อยเพราะอยากจะเลิกลาตีตัวออกห่าง และนายหนุ่มพยายามนัดตนเองมาเคลียร์ใจ ซึ่งตนไม่ได้เดินทางไปหา แต่ระหว่างที่ตนเองกำลังจะขับรถเก๋งกลับบ้าน ได้บังเอิญเจอนายหนุ่มพอดี บริเวณแยกไฟแดง ทำให้นายหนุ่มมาจอดรถขวางและเข้ามาทุบรถของตนเองด้วยความโกรธแค้น

ระหว่างเคลียร์ใจ นางสาวก้อยได้โทรศัพท์มาหาตนเองพอดี ตนจึงถือค้างสายไว้ตลอดการเคลียร์ใจกับนายหนุ่ม และไม่นานนางสาวก้อยก็ได้เดินทางมาเคลียร์ใจด้วย โดยทั้งหมดตกลงจะจบเรื่องนี้ ซึ่งเข้าทางตนที่อยากจะเลิกกับนายหนุ่มอยู่แล้ว จึงได้จังหวะบอกเมียนายหนุ่ม จากนั้นตนเองก็ไม่ได้ติดต่อนายหนุ่มอีกเลย

แต่เมื่อถึง 24 ตุลาคม 2565 ผ่านไป 1 เดือน นายหนุ่มไม่ยอมจบ และทักแชตมาง้อ และขู่จะไม่ปล่อยให้ตนเองหนีไปไหน มีภาพแชตที่เธอส่งให้ทีมข่าว และนายหนุ่มได้บุกมาหาตนเองที่บ้าน พร้อมกับทำร้ายร่างกาย กระชากสร้อยคอทองคำจนขาด ทุบกระถางต้นไม้ที่บ้าน ซึ่งตนเองกลัวความไม่ปลอดภัยจึงไปแจ้งความเพิ่ม และหลังจากนั้นตนเองได้บล็อกไลน์และเฟซบุ๊กหนีนายหนุ่มและไม่ได้ติดต่อกันอีก

ตอนแรกตนเองคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ล่าสุดเมื่อ 30 มิถุนายน 2566 ตนเองเพิ่งมาทราบว่านางสาวก้อย ภรรยาของนายหนุ่มได้แจ้งความและฟ้องชู้กับศาล พร้อมกับเรียกเงินจำนวน 300,000 บาท ให้ตนเองจ่ายเป็นค่าเสียหายที่ไปเป็นชู้กับสามีของเธอ ซึ่งตนยืนยันว่าตนไม่ได้อยากเป็นชู้ แต่สามีของนางสาวก้อยเองที่เป็นฝ่ายมาโกหก มาหลอก และมาทำร้ายตนเอง ซึ่งตนอยากมาเรียกร้องกับสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองด้วย

นอกจากนี้ นางสาวเปรี้ยว ยังบอกว่า ไม่ใช่มีแค่ตนเองที่ถูกนางสาวก้อย ภรรยาของนายหนุ่มฟ้องเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท แต่ยังมีผู้หญิงอีก 1-2 คน ที่ถูกภรรยาของนางสาวก้อย ฟ้องชู้เรียกค่าเสียหายเช่นเดียวกัน ซึ่งตนเองอยากให้ทีมข่าวตรวจสอบว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ทำเป็นขบวนการเพื่อเรียกเงินหรือไม่



เมียนักเพาะกาย แจง ฟ้องสาวสนิทผัว รู้แต่มายุ่ง

ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับนางสาวก้อย (นามสมมุติ) ภรรยาของนายหนุ่ม ซึ่งจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย โดยเธอบอกว่าได้คบหากับนายหนุ่มมากกว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งเธอยืนยันกับทีมข่าวว่า นางสาวเปรี้ยวนั้นรู้อยู่เต็มอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ว่าสามีของตนมีตนเป็นภรรยา เนื่องจากที่ผ่านมาสามีถึงแม้จะเป็นนักเพาะกายเดินสายประกวด แต่ก็มาช่วยงานตนเองขายไข่ไก่อยู่ตลอด และนางสาวเปรี้ยวก็เป็นคนในพื้นที่เคยแวะมาซื้อของที่ร้าน และรู้จักกับพรรคพวกของตนเอง จะไม่รู้ได้อย่างไรว่านายหนุ่มมีภรรยาเป็นตนเอง

ส่วนที่ตนเองให้ทนายฟ้องชู้นางสาวเปรี้ยว เรียกถึง 3 แสน ตนเองเตือนนางสาวเปรี้ยวบอกให้เลิกยุ่งกับสามีตนเองมา 3-4 รอบแล้ว แต่นางสาวเปรี้ยวไม่ฟัง แถมยังแอบไปทักแชตสามีตนเอง หลังจับได้อีกหลายรอบ และส่งรูปโป๊เปลือยให้สามีหลายสิบรูปให้ดู ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเดือนสิงหาคมที่นางสาวเปรี้ยวสัญญาว่า จะเลิกยุ่งกับสามีตนเอง

เธอยังได้ส่งภาพแชตระหว่าง นางสาวเปรี้ยวกับสามีที่พูดคุยกันช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเห็นว่า นางสาวเปรี้ยวยังทักแชตมายุ่งกับสามีไม่เลิก ไม่ว่าจะเป็นนางสาวเปรี้ยวทักแชตถามสามีว่า “จะ...ที่ไหนก่อน” , “คือจะให้ไปรับที่ยิม 6 โมง?” , “ทับที่ใครเปล่า?” หรือจะเป็นที่สามีถามเปรี้ยว “กะทืบในฐานะอะไร” นาวสาวเปรี้ยวตอบ “เมียมึงนี่แหละ”

นอกจากนี้ เธอยังให้ตนเองดูรูปอีก 2 รูป ที่บอกว่าจริง ๆ แล้ว นางสาวเปรี้ยวก็มีสามีและลูกชายอยู่แล้ว และมีผู้ชายหลายคนด้วย แต่ก็ยังจะมาคบกับสามีเหมือนกัน



หนุ่มเพาะกาย รับเจ้าชู้ ยันไม่เคยหลอกไถทรัพย์

ล่าสุดทีมข่าวได้เปิดใจพูดคุยกับนายหนุ่ม นักเพาะกายทางโทรศัพท์ โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพกับทีมข่าวว่าทั้งน้ำตา บอกว่า ตนเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้จริงและยอมรับว่า ที่ผ่านมาตนเองคุยกับผู้หญิงรายคน 7-8 คน ทำให้ภรรยาของตนเองหนักใจมาตลอด แต่ตอนนี้ตนเองได้กลับใจเลิกทุกความสัมพันธ์แล้ว

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนางสาวเปรี้ยว ยืนยันว่า ในตอนนั้นมีการแอบพูดคุยไม่ให้ภรรยารู้จริง ซึ่งนางสาวเปรี้ยวก็รู้อยู่แล้วว่าตนเองมีภรรยา ตนเองก็รู้อยู่แล้วว่านางสาวเปรี้ยวมีสามี ซึ่งต่างคนรู้กันอยู่

ส่วนที่ตนเองจะไปเป็นขบวนการร่วมกับภรรยา เพื่อหลอกฟันสาว และให้ภรรยาฟ้องชู้เรียกเงิน ยืนยันไม่มีการทำแบบนั้นแน่นอน เพราะหากทำจริงตนเองคงรวยไปนานแล้ว

ยอมรับว่าเคยส่งข้อความข่มขู่หญิงสาวว่าจะปล่อยคลิปจริง แต่เป็นการพูดคุยหยอกล้อกันเท่านั้น และเรื่องก็จบไปนานแล้วซึ่งเป็นหญิงสาวอีกคน ไม่ใช่นางสาวเปรี้ยว

ตนเองไม่เข้าใจว่านางสาวเปรี้ยวซึ่งเป็นหญิงสาวอีกคนที่ตนเองมีความสัมพันธ์ด้วย ทำไมถึงมาโจมตีตนเองตอนนี้ ตนเองทุบกระจกรถ ทำร้ายร่างกาย นางสาวเปรี้ยวก็ไปแจ้งความเอาผิดตนเองตอนนั้นไปเลย ทำไมถึงขุดเรื่องนี้มาใหม่ทั้งที่ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว ตนเองจบความสัมพันธ์กับเปรี้ยวไปแล้ว

ตอนนี้ตนเองเสียใจมาก เครียดมาก หลังเป็นข่าวถูกโจมตีก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปเจอใคร และความฝันที่ตนเองอยากเดินสายประกวดนักเพาะกายได้ดับลงทันที เพราะบาปกรรมที่ตนเองได้เคยทำมา ซึ่งตนเองรู้สึกผิดไปแล้ว ทุกวันนี้ตนเองรักภรรยาตัวเองมาก และอยากให้สังคมให้โอกาสตนเองได้เริ่มใหม่ด้วย

สาวแฉนักเพาะกายหล่อลวงกินตับ เจอเมียหลวงแหก "แชตจ้ำจี้" หนุ่มสำนึกมีโลก 7 ใบ