วันที่ 28 ธ.ค. 2566 มีรายงานว่า พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “มือปราบหูดำ” เดินทางมาที่กรมสรรพากร เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีของ ลุงพล-ป้าแต๋น และกลุ่มยูทูบเบอร์
โดยทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ ผู้การแต้ม เผยว่า วันนี้เดินทางมายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบรายได้ของลุงพล ป้าแต๋น และยูทูบเบอร์ที่ติดตามทั้งคู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความในคดีอาญา ที่ สน.ดอนเมือง ที่มีการออกมาด่าตน และท่านเรวัช อาจารย์ปรเมศวร์ และรายการโหนกระแส พร้อมกับทนายแก้ว
ทั้งนี้ ตนว่าคำที่เขาด่าว่านั้นมันทำให้เกิดเสียหายก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี ตอนนี้การแจ้งความดำเนินคดี ต้องแจ้งทั้งทางอาญาและแพ่งเพราะมันของคู่กัน และถ้ามีการชนะคดีทางแพ่ง ตนจะขอนำเงินไปมอบให้เด็กและคนพิการ
และส่วนหนึ่งถ้าการกระทำความผิดนั้นไม่เกี่ยวข้องที่มีโทษทางอาญาหรือกระทำผิดที่ผิดกฎหมาย อย่างเช่น รายได้จากคุณเป็นยูทูบเบอร์นั้นได้เสียภาษีกับรัฐหรือเปล่า เพราะการที่คุณได้ประโยชน์จากการกระทำของคุณมันอยู่ในความโศกเศร้าของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาทุกข์ทรมาน แต่คุณได้ประโยชน์ คุณต้องเอาประโยชน์ตรงนั้นให้กับรัฐมาเยียวยาสังคมเช่นเดียวกัน
เพราะก่อนหน้านี้ มีการเปิดรายได้ของลุงพลถึง 30,000,000 หรือ 50,000,000 บาท ถ้าได้เงินเยอะขนาดนี้ แสดงว่าได้เงินเยอะเสียภาษีหรือเปล่า เพราะขนาดตนไม่มีรายได้ยังต้องยื่นเลย
และถ้าปรากฏว่าคุณไม่เคยยื่นนั้นอาจจะมีการโดนยึดทรัพย์ ซึ่งในการเดินทางมายื่นครั้งนี้ ไม่ได้โกรธส่วนตัวแต่เป็นการที่ตนมองว่า ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร เวลาเขาวิจารณ์ พูดถึงคนอื่นไม่ดี แต่คุณบอกคุณเป็นคนดี เวลาคุณไลฟ์ คุณได้ประโยชน์
ส่วนตัวตนไม่เคยรู้จักเขา ไม่เคยอ่านข่าวเขา และตนไม่เคยให้ค่าราคาของไอ้คนพวกนี้ไม่เคยเลย แต่ที่ตนออกมาเพราะเขาดันมาว่าคนอื่นชั่ว เมื่อคุณเป็นคนดี คุณก็ต้องทำความดีคุณต้องไปตรวจสอบได้เป็นบุคคลสามารถตรวจสอบได้ เพราะเราเป็นคนและการตรวจสอบคือกระจกเงาของเรา แต่คุณไม่ได้มีสิทธิ์มาด่า แล้วตนคือคนตรง เฉียบขาด ไม่ต้องมาเสียเวลา ไม่ต้องหาใครมาหาตน ท่านเรวัชก็เหมือนกัน อโหสิกรรมในเรื่องบวชแต่เรื่องคดีความก็ดำเนินต่อไป
สุดท้ายตนไม่มีอะไรจะฝากถึงลุงพล แต่ขอฝากถึงยูทูบเบอร์ว่าการที่จะลงข่าวหรือทำอะไรก็แล้วแต่ให้อยู่พื้นฐานของความถูกต้องเพราะสังคมมันจะบิดเบี้ยว อย่าเอาคนไม่ดีมาเป็นฮีโร่ มันจะเป็นเยี่ยงอย่างให้กับสังคม สังคมจะบิดเบี้ยวและจะเสียหาย ดังนั้นบ้านเมืองสงบมันต้องจบด้วยกฎหมาย
ขณะที่นายนรินทร์ หลาบโพธิ์ หรือ น้าแต ได้อัดคลิปเผยสงสารลุงพล-ป้าแต๋น ช่องยูทูบหาย ไม่มีช่องทางทำกิน เชื่อเป็นกรรม ซึ่งมุมมองคนที่อยู่ตรงกลางยังไงทั้งคู่ก็น่าสงสาร ช่องยูทูบหายไปตั้ง 2-3 ช่อง ขายของก็ไม่ได้ จะหาเงินที่ไหน โดนปิดช่องทางหาเงินแล้ว จะบอกว่าเป็นเวรเป็นกรรมหรือเปล่าก็ใช่
ด้านเพจ Drama-addict ยังคงเกาะติดเรื่องราวของลุง โดยเฉพาะประเด็นช่องยูทูบของลุงพล และบรรดาเหล่าเอฟซียูทูบเบอร์ ที่ถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงหลักของกลุ่มคนเหล่านี้ โดยได้มีการเปิดข้อมูลสถิติยอดวิวช่องยูทูบของลุงพล และช่องยูทูบของเอฟซี ที่รวกันแล้วมียอดวิวมหาศาลเกือบ 1 พันล้านวิว โดยระบุว่า "สถิติแชนเนลลุงพล และแชนเนลของบรรดา FC อันนี้รวมเฉพาะตัวท็อป ๆ ที่ยอดวิวสูง ยังมีแชนเนลยิบย่อยที่ยอดวิวหลักล้านอีกเยอะ เอาเฉพาะที่รวมมาในภาพก็ได้ 900 ล้านวิวแล้ว เยอะจริง ๆ ว่าแต่ไม่เคยดูแชนเนลพวกนี้ ใครเคยดูบอกหน่อย เขาดูอะไรกัน"
ขณะที่ป้าแต๋น ล่าสุดได้เปิดช่องยูทูบใหม่หลังปลิวไปแล้ว 3 ช่อง ซึ่งช่องใหม่ล่าสุดชื่อว่า "ป้าแต๋น ชาแนล" มีผู้ติดตามจำนวน 28K โดยมีการลงคลิปแล้ว 2 คลิป ซึ่งคลิปแรกโพสต์เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. มียอดวิว 48,872 วิว ส่วนอีกคลิปมียอดวิว 39,284 วิว
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางสาวขวัญดาว อายุ 59 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตัวเองก็เดินทางมาไหว้พญานาคที่บ้านลุงพล เพื่อขอพรตามความเชื่อ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่ตัวเองมาขอพรที่นี่
สำหรับตัวเองติดตามช่อง YouTube ลุงพลอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ติดตลอด ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจ ที่ช่อง YouTube ของลุงพลโดนปิด เพราะลุงพลเป็นคนดี ช่วยเหลือคนมาเยอะ จึงอยากให้ลุงพลป้าแต๋นเปิดช่อง YouTube ใหม่ขึ้นมาอีก ตัวเองจะได้กดติดตาม
ด้านนายยศกร อายุ 40 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตัวเองเดินทางมาจากจังหวัดบึงกาฬและมาไหว้องค์ปู่ปาริจิต ที่บ้านลุงพลเพื่อขอพรและอยากจะมาเจอลุงพล ป้าแต๋น แต่วันนี้ตัวเองก็ไม่เจอลุงพลกับป้าแต๋น เพราะเขาไม่อยู่บ้าน
ส่วนช่อง YouTube ของลุงพลที่โดนปิดไปหลายช่องนั้น ส่วนตัวก็รู้สึกเฉย ๆ เพราะตัวเองก็ไม่ค่อยได้ติดตามช่อง YouTube ของลุงพลป้าแต๋นเท่าไหร่ แค่ดูผ่าน ๆ