ทีมนักวิจัย มช. ค้นพบเห็ด 2 ชนิดใหม่ของโลก ในพื้นที่มหาวิทยาลัย มีกลิ่นหอมเฉพาะ มีฤทธิ์ทางยา รับประทานได้

วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ดร.นครินทร์ สุวรรณราช นักวิจัยศูนย์ความเป็นเลิศด้านความหลากหลายของจุลินทรีย์ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยของศูนย์ฯ ประสบความสำเร็จในการค้นพบเห็ด 2 ชนิดใหม่ของโลก ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่ เห็ดหล่มหลังขาว (เห็ดหล่มหลังขาว) “Russula pseudomodesta” ที่พบใน มช. ฝั่งสวนสัก และเห็ดหล่มหลังเขียว (เห็ดหล่มหลังเขียว) “Russula sribuabanensis” ที่พบในพื้นที่ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และตั้งชื่อเห็ดชนิดใหม่ตามสถานที่พบคือตำบลศรีบัวบาน

เห็ดทั้ง 2 ชนิด เป็นเห็ดที่รับประทานได้และเป็นที่นิยม เนื่องจากมีกลิ่นหอมเฉพาะและมีฤทธิ์ทางยา ซึ่งในช่วงฤดูฝนที่เห็ดออก ชาวบ้านในพื้นที่จะเก็บมาปรุงอาหารและนำไปขายมาอย่างยาวนานแล้ว โดยมีการตั้งราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 150-200 บาท ซึ่งถือว่าสร้างรายได้ให้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่มีระบุชื่อเรียกและชนิดทางวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้อง โดยการพบเห็ดทั้ง 2 ชนิดอยู่ในพื้นที่นั้น ถือเป็นการสะท้อนบ่งบอกว่าพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศเป็นอย่างดี และสมควรที่จะต้องดูแลรักษาไว้ ส่วนการต่อยอดจากการค้นพบนั้น ทางทีมวิจัยเตรียมศึกษาหาวิธีการแพร่ขยายพันธุ์เห็ดให้ได้ในพื้นที่บ้านหรือชุมชนเพื่อเป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเก็บในป่า



สำหรับการค้นพบดังกล่าว เป็นผลงานของทีมนักวิจัยศูนย์ความเป็นเลิศด้านความหลากหลายของจุลินทรีย์ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกอบด้วย ดร.นครินทร์ สุวรรณราช ดร.จตุรงค์ คำหล้า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สายสมร ลำยอง และ Dr. Soumitra Paloi นักวิจัยหลังปริญญาเอก ร่วมกับ Prof. Dr. Samantha C. Karunarathna นักวิจัยจาก Qujing Normal University ประเทศจีน ร่วมกันศึกษาวิจัยในหัวข้อ Taxonomic and phylogenetic evidence reveal two new Russula species (Russulaceae Russulales) from northern Thailand

ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้ศึกษาเห็ดสกุล Russula ที่เป็นเห็ดเอกโตไมคอร์ไรซากับพืชวงศ์ยาง ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และพื้นที่ปกปักทรัพยากรโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” ตำบลศรีบัวบาน จังหวัดลำพูน) ทีมวิจัยได้มีความสนใจศึกษาตัวอย่างเห็ดด้วยหลักอนุกรมวิธานสมัยใหม่ โดยการศึกษาสัณฐานวิทยาอย่างละเอียดระดับเซลล์ ด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง และภาพวาดโครงสร้างเซลล์เพื่ออธิบายประกอบ ร่วมกับการใช้เทคนิคทางอณูชีววิทยาด้วยดีเอ็นเอ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีนในส่วนของ RNA polymerase II gene (RPB2) และลำดับยีน internal transcribed spacer (ITS) รวมถึง large subunit (LSU) เพื่อใช้ศึกษาแผนภูมิวิวัฒนาการของเห็ดสกุล Russula

จากข้อมูลสัณฐานวิทยา และข้อมูลชีววิทยาระดับโมเลกุลดีเอ็นเอด้วยการวิเคราะห์สร้างเป็นแผนภูมิวิวัฒนาการ พบว่าเห็ดทั้ง 2 ตัวอย่างที่ศึกษาเป็นเห็ดชนิดใหม่ของโลก ที่พบในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถยืนยันสมมติฐานการใช้หลักอนุกรมวิธานสมัยใหม่ที่มีความถูกต้องและแม่นยำมากกว่าอนุกรมวิธานสมัยเก่าด้วยการเทียบเฉพาะรูปวิธาน อีกทั้งยังเป็นข้อมูลฐานชีวภาพของเห็ดประเทศไทย และแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ศึกษา รวมถึงการนำเห็ดชนิดนี้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนจากป่า และสร้างรายได้จากเห็ดป่าสองชนิดนี้ที่มีราคากิโลกรัมละ 150 – 200 บาท ในฤดูฝน ของคนในชุมชนรอบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

งานวิจัยนี้สอดคล้องกับ SDG 1 เห็ดป่าสร้างรายได้ขจัดความยากจน SDG 2 การใช้ประโยชน์เห็ดเป็นอาหาร พื้นที่ป่ามีความมั่นคงทางอาหาร มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ SDG 15 สนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืนโดยไม่ทำลายแหล่งกำเนิดเห็ดป่า จัดการป่าไม้อย่างครบวงจร เนื่องจากเป็นเห็ดเอกโตไมคอร์ไรซาไม้วงศ์ยางในป่าเต็งรัง ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่สมบูรณ์ของพื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่