จากกรณีเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกยิงเสียชีวิตในป่า ใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สูง (ห้วยน้ำดิบ) ตำบลป่างิ้ว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย หลังจากนั้น พ.ต.อ.ศิรพงศ์ เกิดคุณากร ผู้กำกับการ สภ.ศรีสัชนาลัย พร้อมกำลังชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีสัชนาลัย และกู้ภัยเทพนิมิตรศรีสัชนาลัย ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างชายสูงอายุถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในป่า ในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีขาวโชกไปด้วยเลือด กางเกงขายาวสีน้ำเงิน โดยนอนหงายในท่างอตัวแข็งทื่อ คาดว่าเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 31 ธ.ค.66 มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าอกจนเป็นรูพรุนหลายจุด ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายอนุพร อายุ 54 ปี นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธปืนลูกซองเดี่ยวชนิดยาววางพาดอยู่กับต้นไม้ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ทำการนำร่างผู้เสียชีวิตส่งเก็บรักษาที่โรงพยาบาลศรีสัชนาลัย เพื่อนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพุทธชินราชต่อไป
เมียยันไม่เคยมีศัตรูที่ไหน คาดคนร้ายอาจคิดว่าเป็นสัตว์ใหญ่
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านของนายอนุพร (ผู้ตาย) พบว่าขณะนี้ทางครอบครัวได้มีการจัดเตรียมงานบำเพ็ญกุศลศพไว้แล้ว ส่วนร่างของนายอนุพรคาดว่าจะมาถึงในช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้
จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางดาว อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย ได้เผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 14.00 น. ตนยังพูดคุยและนั่งทานข้าวกับสามีอยู่เลย หลังจากนั้นตนก็ได้ออกไปรับจ้างทำสวนกับลูกชาย ส่วนสามีก็ได้บอกว่าจะเข้าไปล่าสัตว์ในป่าเพื่อนำมาทำเป็นมื้อค่ำ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ก็ไร้วี่แววว่าสามีจะกลับบ้าน ตนจึงเอะใจและนำเรื่องนี้ไปแจ้งกับญาติ ๆ ให้ช่วยออกตามหานายอนุพร ซึ่งจุดแรกที่ตนออกตามหาคือบริเวณป่าข้างอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากสามีมักจะมาล่าสัตว์บริเวณนี้เป็นประจำ เมื่อเดินทางไปถึงตีนป่าก็พบกับรถจักรยานยนต์ของสามีจอดอยู่ จึงได้ระดมคนในครอบครัวมาช่วยตามหา จนกระทั่งเวลา 01.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.67 ทางญาติ ๆ ก็พบกับร่างของนายอนุพรที่นอนเสียชีวิตอยู่ภายในป่า
ส่วนสาเหตุในการเสียชีวิตของสามีนั้น ตนคิดว่าสามีถูกฆาตกรรม แต่ก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าคนร้ายคือใคร เนื่องจากที่ผ่านมานายอนุพร (ผู้ตาย) ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครเลย เขาเป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง ไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แต่อีกมุม ตนก็คิดว่าอาจเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด มือปืนที่ก่อเหตุอาจจะเป็นนายพรานที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าเช่นเดียวกับสามี ซึ่งคนก่อเหตุอาจเข้าใจผิดคิดว่าสามีของตนเป็นสัตว์ใหญ่หรือเปล่า จึงได้ยิงใส่สามีของตน ถ้าเป็นเช่นนั้นตนก็พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ที่ตนไม่เข้าใจก็คือทำไมถึงไม่เรียกรถพยาบาลหรือตามให้คนมาช่วย ทำไมถึงปล่อยให้สามีตนนอนสิ้นใจอยู่อย่างโดดเดี่ยวในป่า ถ้ามีโอกาสเจอหน้าคนก่อเหตุ ตนก็อยากจะถาม อยากจะฟังคำตอบ และอยากให้เขาเข้ามากราบขอขมากับนายอนุพร (ผู้ตาย) ตอนนี้ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ และรับมือไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าสามีจะด่วนจากไปแบบนี้ จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนก่อเหตุให้ได้ไว ๆ เพื่อให้สามีของตนได้รับความเป็นธรรม
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางเข้าไปในป่าที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.อ.ไสว ครุธผาสุข รองผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนภาค 6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งจุดที่เกิดเหตุนั้นไม่สามารถนำรถเข้าไปได้ จึงต้องอาศัยการเดินเท้าเข้าไป โดยการเดินเข้าไปในที่เกิดเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการเชิญตัวนายโจนและนายพรเข้าไปชี้จุดที่พบศพ เนื่องจากนายโจนและนายพรคือ 2 ใน 3 ของคนที่เข้าไปพบศพนายอนุพร (ผู้ตาย) โดยจุดแรกที่นายโจนพาไปดูเป็นจุดที่พบว่ารถมอเตอร์ไซค์ของผู้ตายจอดอยู่ ซึ่งห่างออกไปจากจุดที่พบรถประมาณ 500 เมตร ก็จะเป็นจุดที่พบศพของนายอนุพร ระหว่างทางที่กำลังเดินไปตามจุดต่าง ๆ ทางด้านของ พ.ต.อ.ไสว ก็ได้มีการซักถามนายโจนในทุกประเด็น ทางนายโจนก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินสำรวจพร้อมกับซักถามนายโจนและนายพรร่วมกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยบางช่วงบางตอน ทางด้าน พ.ต.อ.ไสว ก็คล้ายกับมีการส่งสัญญาณไปยังนายโจน โดยพูดเป็นนัย ๆ ว่า “บ้านเมืองมีกฎหมาย เข้าใจว่าอาจจะมองผิดคิดว่าเพื่อนเป็นสัตว์ใหญ่ แต่ยังไงคนทำก็ต้องยอมรับผิด ถ้ายิ่งปิดบังก็จะยิ่งมีโทษหนัก ตัวละครก็มีแค่ไม่กี่ตัวหรอก”
จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นายโจน อายุ 56 ปี โดยทีมข่าวก็ได้สอบถามถึงไทม์ไลน์ในวันที่เกิดเหตุว่าใครอยู่ไหนและทำอะไรอยู่ ทางด้านของนายโจนก็เล่าว่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. ตนก็ได้เจอกับนายอนุพร (ผู้ตาย) และเพื่อนคนอื่น ๆ อีก 3-4 คน หลังจากที่นั่งทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำไร่ทำสวนตามปกติ ส่วนตนก็เข้าไปวางเบ็ดตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ เพราะตนนั้นมีขนำอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ทางด้านของนายรอยก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาหาตน แล้วนายรอยก็พูดว่า “เมื่อกี๊ได้ยินเสียงปืนดัง เห็นรถไอ้เทยจอดอยู่ สงสัยจะมายิงกระรอก” ตนได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไร เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการหาปลา จนเวลาล่วงเลยไป 20.00 น. นายรอยก็ได้ชวนให้ตนไปหานายตุ้มที่ขนำ ซึ่งอย่างห่างออกไปไม่ไกลนัก ระหว่างนั้นทั้งตน นายรอย นายตุ้ม ก็ได้นั่งดื่มสุรากันพอหอมปากหอมคอ ตนจึงขอแยกย้ายกลับบ้าน
ระหว่างทางจะกลับเวลา 20.30 น. ตนก็เห็นว่ารถของนายเทยหรือนายอนุพร (ผู้ตาย) จอดอยู่พร้อมกับกุญแจ ตนจึงไปสตาร์ทรถก็เห็นว่ารถสตาร์ทไม่ติด เลยคิดว่ารถคงเสียและนายอนุพรคงจะเดินเท้ากลับบ้านไป แต่ตนก็รู้สึกสังหรณ์ใจจึงโทรศัพท์ไปหาเมียของนายอนุพร ก็ได้คำตอบมาว่านายอนุพรยังไม่กลับบ้าน ตนจึงชวนนายรอยไปตามหานายอนุพรเป็นรอบที่ 1 เพราะเกรงว่านายอนุพรจะเป็นลมอยู่ในป่า ซึ่งหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ รอบที่ 2 ตนจึงออกตามหานายอนุพรที่ห้วยอื่น แต่ก็ยังไร้วี่แวว รอบที่ 3 นายโจนจึงไปตามนายพรให้มาช่วยหา เพราะคิดว่าจะได้หาตัวเพื่อนเจอไว ๆ ซึ่งรอบที่ 3 นี้ก็ได้ย้อนกลับไปหาในจุดเดิม จุดที่รถจักรยานยนต์จอดอยู่ แต่ปรากฏว่าทั้งสามคนได้หลงป่าอยู่นาน กว่าจะหาทางออกมาได้ก็เที่ยงคืน และรอบที่ 4 รอบสุดท้าย เวลาประมาณ 01.00 น. นายโจนก็ได้ชวนนายรอยและนายพรอีกครั้ง โดยบอกให้ไปหาที่จุดเดิม ให้ตั้งต้นจากจุดที่พบรถ และเมื่อเดินเข้าไปประมาณ 500 เมตร นายโจนก็สังเกตเห็นความผิดปกติ เพราะมีร่องรอยต้นไม้ที่หักอยู่ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบกับนายอนุพรนอนคว่ำหน้าอยู่ นายพรจึงรีบเข้าไปพลิกตัวนายอนุพรเพราะคิดว่าเป็นลม แต่เมื่อจับดูนายอนุพรก็ตัวแข็งแล้ว
ทางด้านนายรอยจึงอาสาออกจากป่าไปแจ้งตำรวจ ส่วนนายโจนและนายพรก็ได้นั่งเฝ้าศพของนายอนุพร เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจพิสูจน์ในเช้าวันที่ 1 มกราคม 2567 นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ถามนายโจนเพิ่มเติมอีกว่า มองยังไงกับเรื่องนี้ คิดว่าคนก่อเหตุใจร้ายใจดำไหม หากเป็นการเข้าใจผิดคิดว่านายอนุพรเป็นสัตว์ใหญ่ ทำไมเขาถึงไม่เรียกให้คนไปช่วย ทำไมปล่อยให้นายอนุพรนอนเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ทางด้านนายโจนก็ปาดน้ำตา พร้อมกับพูดว่า “นั่นนะสิ ทำไมถึงไม่เรียกคนมาช่วย ทำไมปล่อยไว้แบบนั้น”
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายรอย อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นคนที่ได้ยินเสียงปืนในวันที่เกิดเหตุ โดยนายรอยเล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 ธ.ค.66 ตนนั้นเข้าไปรดน้ำต้นไม้ภายในป่าดังกล่าว เพราะตนมีสวนเล็ก ๆ อยู่ภายในป่า จากนั้นตนก็ได้ยิงเสียงปืนดัง 1 นัด เมื่อออกมาดูก็พบกับรถจักรยานยนต์ของนายอนุพรจอดอยู่ ก็คิดว่านายอนุพรคงจะมายิงกระรอก จากนั้นตนก็ขี่รถ จยย. เข้าไปหานายโจนที่ขนำ แล้วก็มีการชวนไปนั่งดื่มเหล้า จนช่วงค่ำตนเห็นว่ารถของนายอนุพรยังอยู่ ตนจึงยืมโทรศัพท์ชาวบ้านโทรไปหานางดาว (เมียผู้ตาย) และได้ถามว่านายอนุพรกลับบ้านหรือยัง จึงได้ความว่านายอนุพรยังไม่กลับบ้าน ตนจึงชวนนายโจนไปตามหา แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนท้ายที่สุดตนจึงได้เอ่ยปากชวนนายพรไปช่วยหาเพิ่มอีกแรง เพราะคิดว่ายิ่งคนเยอะจะได้หาเจอไว ๆ จนเวลาเกือบตี 2 ก็ไปเจอกับร่างของนายอนุพร ในตอนแรกตนคิดว่านายอนุพรน่าจะตกต้นไม้ลงมาเสียชีวิต แต่ก็เพิ่งจะมาทราบว่านายอนุพรนั้นถูกยิงหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปนำร่างออกจากป่า ส่วนใครจะเป็นคนยิงหรือเกิดอะไรขึ้นนั้น ตนก็ไม่ทราบจริง ๆ
วงจรปิดนาทีอนุพรขี่ จยย. ออกจากบ้านครั้งสุดท้าย
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 15.46 น. จะเห็นว่านายอนุพร (ผู้ตาย) ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพียงคนเดียว โดยที่สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชุดเดียวกับที่พบว่าเป็นศพเสียชีวิตอยู่ภายในป่า