จากกรณี โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง อยู่ระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ภายในคลิปจะเห็นพระสงฆ์เดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ และมีการแวะรับประทานอาหาร และยืนถ่ายภาพอย่างสนุกสนาน ทำให้หลายคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น พร้อมตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสมต่างๆ นานา
โดยหนึ่งในพระสงฆ์ที่ร่วมคณะในครั้งนี้คือ หลวงพี่โจ ซึ่งเป็นพระประจำอยู่ในวัด จ.ตรัง เคยปรากฏเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อเดือน เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา คือเหตุการณ์ลงคลิปการนั่งเรือไปท่องเที่ยวและเล่นลงน้ำทะเลตามเกาะแก่งต่างๆ ปรากฏภาพมีการใส่เสื้อชูชีพ พร้อมพระภิกษุอีกหลายรูปที่เดินทางไปด้วยกัน ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมาก ต่างเข้าไปคอมเมนต์ถามถึงความไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมดังกล่าวมาแล้ว นั้น
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ คนสนิทหลวงพี่โจ ยอมรับ หลังเกิดเหตุ หลวงพี่โจ ได้เดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นหลายวันแล้ว โดย มีเจ้าอาวาสวัดเป็นคนไปรับ แต่ไม่ขอให้รายละเอียดเพิ่มว่า กลับมาเมื่อไร เวลาใด
ในส่วนประเด็นที่หลวงพี่โจไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั้น ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก รู้เพียงแต่ว่า หลังจากที่หลวงพี่โจเข้ารับปริญญาเสร็จ ท่านก็เดินทางไปทัศนศึกษาตามสถานที่ต่าง ๆ ตามความชื่อชอบของเขา เพราะท่านเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ จึงไม่แปลกที่จะออกเดินทางไปหาวิชาความรู้
สำหรับหลวงพี่โจ ท่านได้บวชเรียนเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ ตั้งแต่อายุประมาณ 8 ปีกว่า ก่อนจะย้ายไปอยู่โรงเรียนในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นก็ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ประมาณ 6 ปี ก่อนจะบวชเป็นพระ
จากการที่ตนรู้จักกับหลวงพี่โจตั้งแต่เด็ก ท่านเป็นคนที่นิสัยดี พูดเพราะ ใจเย็น เรียนเก่งได้ เกรด 4 ตลอด อีกทั้ง ยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งในระดับ ปริญญาตรีด้วย ในส่วนประเด็นที่หลวงพี่โจมีญาติโยมประชาชนมาร่วมทำบุญเยอะแยะมากมาย เพราะ หลวงพี่โจเป็นพระที่เทศน์เก่ง ชอบธรรมมะเป็นชีวิตจิตใจ หากถามว่าที่ผ่านมาหลวงพี่โจเป็นพระที่ใช้ของฟุ่มเฟือยหรือไม่นั้น ตนตอบได้เลยว่า ท่านไปพระที่ไม่เคยใช้ของฟุ่มเฟือยอะไรเลย
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง เรียกสอบพฤติกรรมหลวงพี่โจแล้ว หลังดราม่าโซเชียลทริปเที่ยวญี่ปุ่น อยู่ในระหว่างการรอผลข้อสรุปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
ในขณะที่ด้านนายสุขพิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง เผยว่า จากการประชุมเบื้องต้นนั้น ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรังได้มีการสอบสวน ข้อเท็จจริงว่า หลวงพี่โจได้เดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างไร โดยมีคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นเป็นผู้ร่วมสอบสวน ก่อนที่ทางคณะสงฆ์ทั้งหมดจะมีการทำสรุปรายงานไปถึงเจ้าคณะจังหวัด เพื่อจะพิจารณาตามหลักของพระวินัยต่อไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางคณะสงฆ์เองก็ไม่ได้มีการนิ่งนอนใจแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุก็ได้เชิญหลวงพี่โจมาสอบสวนทันทีในช่วงเมื่อวานที่ผ่าน หลังจากที่หลวงพี่โจได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย เพราะมีการว่ากล่าวตักเตือนหลวงพี่โจว่าหลังจากนี้ให้งดใช้สื่อต่างๆ ในเหตุการกระทำไม่เหมาะ ที่ไม่ควร ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอผลข้อสรุปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
จากการที่ตนสังเกต หลังจากที่หลวงพี่โจกลับมาที่ประเทศไทยนั้น ท่านก็ไม่ได้มีท่าทีที่รู้สึกเครียดอะไร อย่างยิ้มแย้มเป็นปกติดีทุกอย่าง สำหรับการประชุมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนั้น ส่วนตัวตนก็ไม่ทราบข้อมูล
ผู้ใหญ่บ้านเผยหลวงพี่โจมีข่าวดังในโซเชียลสองครั้งแล้ว ส่วนตัวและชาวบ้านไม่อยากยุ่งเรื่องในวัด เพราะลาออกจากกรรมการวัดมาหลายปีแล้ว เหตุไม่พอใจการบริหารเรื่องเงินในวัด
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายสุวรรณ อายุ 59 ปี ผญบ.หมู่8 ต.น้ำผุด เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งมาทราบเรื่อง ภายหลังเป็นข่าวว่า หลวงพี่โจได้ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยหรือตรวจสอบข้อมูลอะไรมากนัก ถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้หลวงพี่โจจะเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยแล้วก็ตาม
ที่ผ่านมาเท่าที่ตนทราบ สำหรับหลวงพี่โจนั้น ท่านก็เคยเป็นโด่งดัง เมื่อเดือน เม.ย. 2565 ทีคือเหตุการณ์ลงคลิปการนั่งเรือไปท่องเที่ยวและเล่นลงน้ำทะเลตามเกาะแก่งต่างๆ มีไปกันหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือเจ้าเอาวาดวัดด้วย ซึ่ง ณ ตอนนั้นตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก จึงไม่ได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่า อาจจะมีคิดบ้างว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร ในเรื่องของพระที่จะไปเที่ยวเช่นนี้
ก่อนหน้านี้ ตนยอมรับว่า เคยร่วมงานกับทางวัดอยู่บ้าง แต่ระยะหลัง ๆ ตนรู้สึกว่า การทำงานไม่เข้ากัน ทำให้ขอแยกตัวออกมา จึงไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่าเงินที่ทางวัดพาพระไปทัศนศึกษานั้นเป็นเงินมาจากที่ไหน / แต่สำหรับทริปที่ประเทศญี่ปุ่นล่าสุดนั้น ตนคิดว่า เป็นเงินส่วนตัวของหลวงพี่โจมากกว่า ไหนจะลูกศิษย์ แฟนคลับที่ชื่อชอบหลวงพี่โจมากมายอีก เพราะท่านเป็นพระที่เก่ง ไปอยู่ที่ไหนก็มีคนชื่นชอบ
ส่วนประวัติหลวงพี่โจจบการศึกษาระดับปริญญาโท ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นเด็กปั้นของเจ้าอาวาส ซึ่งล่าสุดเจ้าอาวาสแต่งตั้งหลวงพี่โจเป็นรองเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง มาสองปีแล้ว
นายสุวรรณ เผยต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น ตนมองว่า การที่หลวงพี่โจถ่ายรูป ถ่ายคลิป แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว นั้น ตนมองว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่หน้าที่ของพระ มันไม่สมควร ที่จะกระทำการเช่นนี้ / หลังเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าอาวาสมีการชี้แจงเรื่องดังกล่าวกับใคร หรือหน่วยงานใดหรือไม่ ซึ่งตนก็ขอไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว