"จุรินทร์" ซัด "เศรษฐา" ไม่เป็นผู้ใหญ่ เปรียบตนกับ "ภูมิธรรม" เพิ่งมาทำงานแค่ 4 เดือน โวผลงานตนเด่นชัด เมินนายกฯสวมถุงเท้าสีชมพูมาล้อเลียน บอกถ้าเป็นรสนิยมไม่เป็นไร
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายงบปี 67 ของตนเอง ว่าไม่ได้ทำอะไรผิดข้อบังคับ และได้ทำการกติกาของรัฐสภา และก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ของตนครบถ้วนแล้ว ในฐานะที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล
ส่วนการพูดถึง "งบเป็ดง่อย" เป็นเพราะต้องการสะท้อนให้เห็นว่าเนื่องจากงบประมาณปีนี้ มันล่าช้ามากเหลือเวลาใช้เงินแค่ 5 เดือน คือ 40% ของระยะเวลาทั้งหมดบวกกับประสิทธิภาพการใช้เงิน โดยงบลงทุนที่มีผลสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ มันจะมีประสิทธิภาพได้ เบิกจ่ายร้อยละ 70 โดยเฉลี่ย 4-5 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขมันบอก เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพ 70% บวกกับเวลาเหลือแค่ 40% ทำให้งบ ปี 67 จะกลายเป็นงบเป็ดง่อย ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ตามที่รัฐบาลตั้งไว้ แต่ก็ไม่ได้ไปตำหนิใคร แต่สะท้อนตามเนื้อผ้าตามข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าสถานการณ์งบปี 67 มันเป็นอย่างไรและไม่ได้พาดพิงกระทรวงพาณิชย์เลยแม้แต่คำเดียว
"ผมว่าท่านนายก ท่านไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่นะครับ สำหรับประเด็นนี้ ที่จะให้ผมกับรัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ ไปทะเลาะกันโดยไม่จำเป็นและผมก็หลีกเลี่ยงอยู่แล้ว เพราะผมไม่มีอะไรไปวิจารณ์ รัฐมนตรีท่านใหม่ ของกระทรวงพาณิชย์ในขณะนี้" นายจุรินทร์ ระบุ
ส่วนเรื่องผลงานอยากขอเรียนว่า 4 ปี ที่ตนได้ทำหน้าที่มา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผลงานไม่น้อยหน้ากว่าใคร โดยเฉพาะที่ท่านนายกพูด เรื่อง FTA ส่วนตัวคิดว่ามันปรากฏเด่นชัด ตั้งแต่เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาร์เซ็ป ที่พยายามจะทำกันมาเป็น 10 ปี แต่สำเร็จตอนที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ตอนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์คราวที่แล้ว
ผมนั่งหัวโต๊ะประธาน ที่ประชุมรัฐมนตรี เศรษฐกิจอาร์เซ็ป มี 15 ประเทศร่วมประชุม หลายครั้งจนสุดท้ายสำเร็จทำให้มีผลบังคับใช้ได้วันนี้อาร์เซ็ป กลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนอกจากนั้นผมไปสหภาพยุโรปด้วยตัวเอง ไปเจรจากับรัฐมนตรีพาณิชย์หรือรัฐมนตรีเศรษฐกิจของสภาพยุโรป 20 ประเทศและได้ประกาศนับ 1 เป็นทางการว่าเราจะเริ่มเปิดการเจรจาทำรายละเอียดเรื่อง FTA ขณะนี้ก็มีความคืบหน้า
นอกจากนั้น ตนเองยังได้ไปที่ไอซ์แลนด์ ไปลงนามกับรัฐมนตรี 4 คนกับอีก 4 ประเทศ อีกทั้งยังเดินทางไป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ซึ่งเป็นหน้าด่านสำคัญ ที่จะทำให้การค้ากระจายไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งก็ได้ไปเจรจาด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีศรีลังกา ที่ยังทำต่อเนื่องกัน กำลังจะมาจบในรัฐบาลนี้ ที่สำคัญ มินิ FTA ถือว่าเป็นนวัตกรรมทางการค้าใหม่ที่ ตนต้องการลงลึก ไปทำสัญญาพิเศษในระดับมณฑล หลายมณฑลของจีน เช่น ไห่หนาน ,เฉินเจิ่น , รวมทั้งประเทศเกาหลี ญีปุ่น ซึ่งตนเองได้เตรียมไว้หลายฉบับ เป็นสิ่งที่ปรากฏเด่นชัด แต่ว่าทั้งหมดนี้ไม่ต้องการไปพูดเปรียบเทียบ กับรัฐมนตรีท่านใหม่ เพราะรัฐมนตรีพาณิชย์ท่านใหม่ก็เพิ่งเข้ามา ได้ 3-4เดือน ก็ต้องให้เวลาท่านไม่ประสงค์ที่จะไปมีปัญหาอะไรกับใคร แต่ว่าท่านนายกเอามาชนกันมันเสียผู้ใหญ่เปล่าๆ
ส่วนกรณีที่พูดถึงเรื่องถุงเท้า ตนมองว่า "นายกฯพูดถูก ถุงเท้าสีอะไรก็ทำงานได้ แต่ประเด็นก็คือทำงานอะไร ถ้าเป็นรสนิยมส่วนตัว ถ้าทำงานส่วนตัว ไม่เป็นไรครับแต่ถ้าปฏิบัติราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการไปเจรจาความกับผู้นำต่างประเทศอันนี้ ท่านนายกก็ต้องตระหนักด้วย มันแบกหน้าคนไทย ทั้งประเทศติดตัวไปด้วย เพราะฉะนั้นคนไทยก็มีสิทธิ์ที่จะมีความรู้สึก คนไทยก็มีสิทธิ์ที่จะมีความเห็นได้ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่ผมก็ไม่เคยไปวิจารณ์ท่านนายกโดยตรงแค่เปรียบเทียบ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้นแต่เมื่อ ท่านนายกพูด แล้วก็เอามือชี้ไปที่ถุงเท้า ผมก็ขอพูดสักครั้งหนึ่ง เผื่อบางทีท่านอาจ จะได้ตระหนักด้วย ขออภัยด้วยถ้าท่านไม่ถูกใจ แต่ว่าต้องพูดเพราะว่าฟังเสียงมาพอสมควร ว่าคนไทยก็รู้สึกเรื่องนี้ไม่น้อยทีเดียว แต่ก็อยู่ที่ท่านครับ ตนเองไม่ไปก้าวล่วง ว่าท่านต้องแต่งตัวยังไง อันนั้นก็เป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัว"
เมื่อถูกถามถึงส่วนกรณีที่ตนเองได้อภิปราย เปรียบรัฐบาลชุดนี้เป็นนักกู้ถุงเท้าสีชมพูกระทั่งเมื่อวานนี้นายกได้สวมถุงเท้าสีชมพูมาเลย มองว่าเป็นการล้อเลียนหรือไม่อย่างไร
นายจุรินทร์ ระบุสั้นๆว่า "ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่เป็นไรหรอกครับผมก็ให้เกียรติท่านครับ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีเนี่ย เราก็ต้องให้เกียรติ เพียงแต่ว่าท่านก็ต้องให้เกียรติผมด้วย เพราะว่าผมก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล เราก็ต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราก็ทำหน้าที่ของเราผมไม่ มีอะไรส่วนตัวมีแต่เรื่องการทำหน้าที่ เราเป็นรัฐบาล เราก็สนับสนุนรัฐบาล เราเป็นฝ่ายค้านเราก็ต้องตรวจสอบ ถ้าเราไม่ตรวจสอบแล้วประชาชนจะพึ่งใครได้เราก็ต้องทำหน้าที่ อันนี้หลักของผม"