หลังจากเมื่อคืน “เบียร์ เดอะวอยซ์” ออกมาไลฟ์สดเปิดใจถึงเรื่องราวที่เจ้าตัวโดนโยงแอบแซ่บแฟนเพื่อน ซึ่งตัวละครที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้คือ ปลื้ม (ฝ่ายชาย) และ แอนนี่ (แฟนปลื้ม) และ เบียร์ ก็ได้เคลียร์ทุกปมดราม่าว่า ความสัมพันธ์นี้เธอไม่ผิด ยืนยันไม่มีอะไรเกินเลย ไม่ได้นอนกับฝ่ายชายตามที่เป็นข่าว พร้อมฝากวลีเด็ดทิ้งท้ายไว้ว่า "ต่อให้ไม่มีเบียร์ ผู้ชายเขาก็ไม่กลับไปเอา"
ล่าสุดวันนี้ (5 ม.ค. 2567) ทางปลื้มก็ได้ออกมาโพสต์ในไอจีสตอรี่แจ้งว่า "3 ทุ่มครึ่ง มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง" เพื่อชี้แจงเรื่องราวดังกล่าว ก่อนที่ต่อมาเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความชี้แจงมาในเฟซบุ๊กส่วนตัว ยอมรับว่าจูบ “เบียร์ เดอะวอยซ์” จริงเพราะเมา โดยรายละเอียดบางช่วงบอกว่า "ผมยอมรับผิดในเรื่องของการนอกใจ และการกระทำที่ไม่ควรเช่นนี้ ผมไม่มีหน้าจะขออภัยใคร ๆ ด้วยซ้ำ ไม่มีข้อแก้ตัว ผมทำให้หลาย ๆ คนที่อยู่รอบข้างต้องผิดหวังแหละเสียใจ ผมละอายต่อการกระทำผมอย่างยิ่ง เป็นบทเรียนราคาแพง และผมก็ต้องรับมันไป ผมเสียใจกับแอนอย่างยิ่ง ที่มันเป็นเช่นนี้ผมควรยุติความสัมพันธ์ระหว่างกัน ก่อนที่จะเริ่มมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ มีการจูบขึ้นจริง วันนั้นผมนั่งคุยกับเบียร์ ผมเมา และทำในสิ่งที่น่ารังเกียจนี้เอง
การมองแฟนเป็น ATM...ในมุมมองของผม การที่ผมได้รักใครสักคน ผมก็อยากจะ Support เขาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะการใช้หนี้ให้ การออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ผมให้ด้วยความเต็มใจ แต่ผมรู้สึกเหมือนส่วนเกินของเขา บ่อยครั้งที่ผมจะกินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ดูคอนเสิร์ตคนเดียว ผมเข้าใจว่าเวลางานของเขาเยอะจริง ไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่ในส่วนของการมีเวลาอยู่ร่วมกัน เขามักจะ Enjoy กับคนอื่น ๆ มากกว่าผม ผมรู้สึกน้อยใจในส่วนนี้ เขาบอกว่าเขาแสดงความรักไม่เก่ง และผมก็เข้าใจในส่วนนี้
ผมกับแอนนี่มีปัญหากัน และเคยบอกเลิกเมื่อ 3 ปีก่อน ปัญหาก็ยังมีอยู่บ้าง แต่ว่าตัวผมเองก็ไม่ได้เด็ดขาดพอที่จะทำให้มันจบจริง ๆ สักทีการจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ ผมกล้าพูดว่าผมทำหน้าที่แฟนได้ดีที่สุดแล้วในคืนที่เกิดเหตุ ระหว่างที่ผมเคลียร์กับแอน เบียร์มาขอคุยกับแอน เบียร์รู้สึกผิดจริง ๆ และจะไม่มายุ่งกับผมอีก วันรุ่งขึ้นเราก็ได้เคลียร์กันจนจบ และจบในวันนั้นไปแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายในคืนวันที่ 29 มี Fake News ออกมาว่า ผมกับเบียร์แอบมีอะไรกัน ทำให้เบียร์โกรธมาก ไม่ไว้ใจใครอีกเลย และมุ่งเป้าไปที่แอนนี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเห็นเขาเดือดดาลแบบนี้มาก่อน และผมรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุผมขอจบเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้"
เบียร์ไม่จบ โพสต์ถึงพิธีกรดัง ทักแชตหา
ด้าน เบียร์ เดอะวอยซ์ ล่าสุดได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงประเด็นคนดังทักแชตหา ส่งหัวใจให้เวลาแต่งตัวเซ็กซี่ แบบนี้เต๊าะไม่เต๊าะ บางคนเอาเรื่องงานมาอ้าง สุดท้ายก็ไม่เห็นว่าจะเกิดขึ้นจริง
โดยระบุว่า "โอเค วงการกดหัวใจสะเทือนสุด ๆไปเลย เบียร์ถามหน่อยนะ ว่าเวลามีผู้ชายมากดหัวใจให้ โดยเฉพาะ เวลาเราแต่งตัวเซกซี่ หรือใส่บิกินี หรือใด ๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายที่มีแฟนแล้ว หรือมีลูกมีเมียแล้ว ถามจริง ๆ ว่าต้องรู้สึกยังไง เราเป็นผู้หญิง เต๊าะไม่เต๊าะ เราดูออกอยู่แล้ว เอาแบบไม่โลกสวย แล้วยิ่งถ้าเราไม่เคยไปทักเขาก่อน เขาเป็นฝ่ายทักมาก่อนตลอดอย่างงี้ จะให้รู้สึกอย่างไรดี บางคนเอาเรื่องงานมาอ้าง สุดท้ายก็ไม่เห็นว่าจะเกิดขึ้นจริง อ่อ โพสต์แช9ก่อนหน้านี้ เบียร์ก็ไม่ทันได้เอ่ยนะว่าพูดถึงใคร คำว่า "น่ารักมาก" นี่คนก็ส่งให้เยอะ ใครจะร้อนอะไรก็เรื่องของเค้าค่ะ ให้เค้า protect ตัวเองไปให้พอ ก็ดีเหมือนกัน เพราะผู้ชายแบบนี้น่ารำคาญมาก ๆ ถ้าไม่มีธุระอะไรจริงจังไม่ต้องทักมาหรอก พี่น้องก็ไม่ใช่ บางคนมากดใจ มาชม สักพักผู้หญิง หรือแฟน หรือเมีย มาส่องตามอีก ทั้ง ๆ ที่เราก็อยู่เฉย ๆ เล่นโซเชียลของตัวเอง ผู้ชายทักมาหา สักพักเมียทั้งมาตาม มาโบ้ย มาโวยวายใส่อีก"
ขณะที่ นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายพัฒน์ ทนายความ พูดถึงกรณีที่เบียร์ เดอะวอยซ์ ออกมาบอกว่าตัวเองไม่ผิด กรณีดรามาความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น โดยมุมทนายความมองว่า สิทธิ์ในการคบหาไม่ว่าจะเป็นเพื่อน แฟน คนรัก ทุกคนสามารถทำได้ แต่หากเรารู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ยิ่งเขาจดทะเบียนสมรสกันเข้าข้อกฎหมายครอบครัว เมียหลวงเมียน้อย มีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายได้ ถ้าเป็นแฟนกันธรรมดา เอาผิดทางกฎหมายไม่ได้ แต่ต้องมองว่าผิดศีลธรรม ความเหมาะสม สมควรหรือไม่ที่ทำตัวแบบนี้ สังคมยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ไหนหรือไม่
ส่วนคำพูดวลีเด็ดในไลฟ์เมื่อวานนี้ ว่า "ต่อให้ไม่มีเบียร์ ผู้ชายเขาก็ไม่กลับไปเอา" นั้น ทนายบอกว่า ต้องการสื่ออดีตแฟนฝ่ายทำให้เจ็บปวด ซึ่งลักษณะคำพูดแบบนี้ ตนเคยทำคดีเมียหลวง เมียน้อยมา คนที่โดนตอกแบบนี้คือเมียหลวง ซึ่งคำพูดลักษณะนี้เป็นวาทะกรรมที่ทำร้ายบุคคลอื่น แต่ไม่ได้ผิดข้อกฎหมาย
ส่วนการใช้คำพูดที่ไม่สุภาพระหว่างไลฟ์นั้น ทนายบอกไม่ได้ผิดเพียงแต่คำพูดสร้างความเสียหายให้แก่ตัวผู้พูดเอง ซึ่งการที่เบียร์ออกมาไลฟ์ชี้แจงเมื่อวานนี้ มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาไม่ได้ผิดอะไร แต่คนที่เข้าไปคอมเมนต์ต้องระวัง เพราะการที่คุณเข้าไปคอมเมนต์ให้บุคคลสาธารณะเสียหาย ใส่ข้อความ ลักษณะเช่น ด่าเขาเป็นเมียน้อย แย่งแฟนชาวบ้าน หรือเติมข้อมูลใส่ความเขาอันนี้เขาฟ้องได้ เพราะไม่ว่าจะจริงไม่จริงมันไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวเขา ส่วนข้อหาที่โดนคือ หมิ่นประมาท มีโทษ 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท
กรณีเบียร์เปิดประเด็นใหม่ ว่ามีพิธีกรมีเมียมีลูกแล้วทัก DM มา ทางทนายมองว่าต้องไปดูว่าถ้อยคำทีละถ้อยคำว่าเขาคุยอะไรกัน แล้วมีอะไรเสียหายตรงไหนไหม ถ้าไม่เสียหายมันก็เหมือนทักทายกันปกติ ซึ่งต้องดูหลายอย่างประกอบกัน แต่ถ้าอ้างทักมาจีบ ก็อาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้
ตอนนี้หลายคนก็ถามหาฝ่ายชายว่าหายไปไหน เพราะกลายเป็นปล่อยให้ผู้หญิงตีกันฝ่ายชายลอยตัว ตรงนี้ทนายมองอย่างไร ซึ่งทางทนายพัฒน์บอกว่า เวลามีเคสแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้หญิงกับผู้หญิงทะเลาะกัน แต่คนลอยนวลสบายคือผู้ชาย สะท้อนให้เห็นในสังคมว่าความรับผิดชอบของผู้ชายไม่ค่อยจะมี ที่จริง ฝ่ายชายควรรู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีแฟนอยู่แล้วและคนที่เข้ามาควรอยู่ในสถานะใด สมควรหรือไม่สมควร
ถามว่าทางทนายมีสิทธิ์แนะนำเบียร์จะให้ออกมาไลฟ์ชี้แจงหรือไม่ ทนายบอกว่า การออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเรานั้นสามารถทำได้ แต่ต้องระวังว่าการที่ออกมาพูด เป็นการเปิดประเด็นใหม่หรือไม่เพราะสุดท้ายทุกอย่างจะย้อนกลับมาที่ตัวเรา ส่วนจะดรามายาวหรือไม่ ทนายบอกให้สังคมตัดสินแล้วกัน
โดยวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ คุณดาวเรือง บูรณธนิต หรือ ครูหนิง ในประเด็นของ เบียร์ เดอะวอยซ์ ซึ่งได้ออกมาไลฟ์สดพูดถึงความสัมพันธ์ มือที่สาม ว่า ในกรณีดังกล่าว คุณปลื้ม และคุณแอนนี่นั้นอยู่กินกันมา ฉันท์สามีภรรยายาวนานถึง 4 ปี ถึงจะไม่ได้มีการจดทะเบียนกันก็ตาม แต่ว่าในมุมของคนไทยก็ไม่ควรมีมือที่สามเข้าไป สร้างความร้าวฉานให้คู่ของเขา ความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ ถึงจะมีการทะเลาะกันบ้าง แต่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้
การไลฟ์สดของ “เบียร์ เดอะวอยซ์” เมื่อคืนยอมรับว่า ในประโยคที่พูดออกมา ไม่ว่าจะเป็น “ถึงไม่มีเขา ผู้ชายก็ไม่เลิกอยู่ดี” หรือ “เขามองผู้ชายเป็นธนาคาร และที่นอน” เป็นใครก็จุกได้เหมือนกัน ตนมองว่า มันเป็นประโยคของ ผู้ชายหมดรัก จะพูดอะไรก็ได้ และยิ่งในกรณีนี้คนที่น่าสงสารที่สุด คือ คุณแอนนี่ เพราะเป็นผู้ถูกกระทำ และไม่ได้มีหลักประกันอะไรในชีวิต ทะเบียนสมรสมก็ไม่มี ยังมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
และฝ่ายชายคุณปลื้มก็ไม่ออกมาพูดหรือทำอะไร ปล่อยให้ผู้หญิง 2 คน ออกมาทะเลาะกันเอง มันไม่แฟร์ที่จะทำแบบนี้ ควรออกมาเคลียร์เพราะคุณคือตัวต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
สำหรับ “เบียร์ เดอะวอยซ์” จากที่ฟังการไลฟ์สด ด้วยเขายังเด็กอาจพูดอะไรไม่ตรองให้ดี หรือไม่มีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำ มันเลยเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงที่เกิดขึ้น เขาควรหยุดพูด ตั้งสติ หรือปรึกษาผู้ใหญ่ เพราะตอนนี้มีผลกระทบ การโดนปลดจากงาน กระแสสังคมที่โจมตีเขา มันเป็นบทเรียนที่ราคาแพงมาก เขาเป็นคนสวย น่ารัก ยังต้องทำงานในวงการ ไม่ควรพูดอะไรที่ดูไม่สมควร เพราะไม่ว่าคู่รักเขาจะทะเลาะกันยังไง ก็ไม่ควรเข้าไปเป็นตัวทำให้เขาแตกกัน หรือแม้กระทั้ง กรณีคลิปเสียงที่บอกว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้แล้ว เขาจะคบกับผู้ชาย หรือไม่คบก็ไม่ต่างกันนั้น พอฟังยิ่งไม่เข้าใจ ว่าเขาคิดอะไร มันตอบยากมากจริง ๆ
ต่อมาถึงกรณี การอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ไม่ว่าจะมีทะเบียนสมรสหรือไม่ แต่มีครอบครัวรับรู้รับทราบ ในเรื่องค่าใช้จ่าย มันเป็นปกติอยู่แล้วที่ฝั่ง ผู้ชายจะเป็นคนดูแลออกให้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ก็ต้องซื้อให้ เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้แปลกอะไรเลย
สุดท้ายในเรื่องนี้ อยากฝากบอกว่า ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายที่ตกลงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และรักกัน ควรดูแลกันและกัน ไตร่ตรองให้ดี การจะอยู่ด้วยกัน และต้องไม่ให้ใครเข้ามาเป็นมือที่สามได้
ขณะที่ล่าสุด พบว่าทางด้านเชฟปลื้มได้ออกมาไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยปลื้มบอกว่า ยอมรับความจริง ขอโทษที่ไม่ได้เลิกกับแอนก่อนที่จะมีความสัมพันธ์ใหม่กับเบียร์ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ขอโทษแอนนี่ ขอโทษฝั่งเบียร์ ขอโทษครอบครัวที่ทำให้เป็นห่วง ขอโทษพี่น้องคริสเตียนที่มีคนเอาพระเจ้ามาเกี่ยว ยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างอื่น นอกจากจูบ ไม่มีอะไรที่จะแก้ตัว