เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนนอนเสียชีวิตที่ริมคลองคูเมืองร้อยเอ็ดก่อนถึงสะพานวัดบูรพาภิราม ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ภายหลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุอยู่ริมคลองคูเมือง พบหญิงอายุประมาณ 50 ปี นั่งเฝ้าศพสามีอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสอบถามจนทราบว่าผู้ตายชื่อนาย วินัย อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เสียชีวิตในสภาพนอนหงายไม่สวมกางเกง สวมเพียงเสื้อยืดตัวเดียว มีผ้าห่มคลุมตัวอยู่ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด



สอบสวนหญิงที่นั่งเฝ้าได้ให้การว่า ตนเองกับสามีเป็นคนเร่ร่อนไม่มีบ้าน อาชีพหาเก็บของเก่าขาย จนกระทั่งเมื่อวานสามีมีอาการป่วยท้องเสียอย่างหนักก่อนหมดสติไป ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้แต่นั่งเฝ้าเพราะไม่รู้จะติดต่อใคร และไม่มีโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งช่วงเช้ามีคนผ่านมาจึงบอกให้คนช่วยและก็พบว่าสามีเสียชีวิตไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามนางรัตติพร เจ้าของร้านสุขาวดีโลงศพ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ร่วมกันทำงานศพของนายวินัย ซึ่งได้เสียชีวิตไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเธอได้บอกว่า ปกติก็ร่วมกันทำกับเพื่อน ๆ อยู่แล้ว วันนี้ก็ได้นำอุปกรณ์ในการจัดงานศพไปให้และน้ำดื่มที่มีเพื่อน ๆ บริจาคไว้ ไปไว้ให้ที่วัดบูรพาภิราม ซึ่งที่นั่นก็ได้มีคุณฝนเป็นผู้ดูแลในเรื่องของโลงศพและการดูแลในการวางดอกไม้ จัดดอกไม้จัดทำรูป ที่วัดบูรพาฯ แล้วนั้น



ที่วัดบูรพาภิราม ศาลา 2 อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของนายวินัย ซึ่งได้เป็นการจัดเตรียมในเรื่องของสถานที่ จะมีการสวดพระอภิธรรมในวันนี้เป็นคืนแรก และจะฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 ที่เมรุวัดบูรพาภิราม
ซึ่งสถานที่ได้ความอนุเคราะห์จากที่วัดบูรพาภิราม โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไร แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการสวดอภิธรรมและค่าเตาเผา ค่าน้ำมัน ค่าบุคลากรของทางพิธีกรทางวัดและอาหารที่ต้องจ่าย



นางสายฝน เจ้าของกิจการ ฝนโลงทอง (ลูกเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ) ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนกับผู้ตายมีความคุ้นเคยกัน เพราะว่าตนเองคุ้นเคยกับผู้ตาย ซึ่งตนได้เปิดร้านฝนโลงทองและร้านส้มตำกับแม่อยู่ที่หน้าศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่สองผัวเมียจะชอบมานอนกันอยู่ตรงนี้ ซึ่งปกติแล้วเขาจะมีบ้านแต่ผู้ตายเป็นคนรักอิสระ หมายถึงค่ำไหนนอนนั่นก็ออกจากบ้านมานานพอสมควร พูดถึงเรื่องลูกว่ามี แต่ก็ไม่เคยได้เจอไปมาหาสู่กันสักเท่าไร

แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีน้องชายเขาได้มาฝากพี่ชายไว้ว่า ถ้ามีอะไรรบกวนช่วยเหลือแล้วก็ดูแลพี่ชายด้วย แล้วก็มีอะไรให้โทรหา แต่ตอนนี้ซึ่งมันนานแล้ว ตนก็หาเบอร์โทรไม่เจอ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายได้เข้าโรงพยาบาลในอาการปวดขา และออกจากโรงพยาบาลมาประมาณ 3 วันก็ได้มาเสียชีวิตในช่วงเช้าวันนี้

ทั้งนี้ ก็อยากจะฝากถึงญาติหรือผู้ที่มีจิตศรัทธาที่จะมาร่วมฟังสวดอภิธรรม หรือส่งสารในวันจันทร์ ฝากถึงญาติที่ได้ดูข่าวให้มาได้ที่ศาลา 2 ที่วัดบูรพาฯ หรือแม้มาไม่ทัน ตนก็จะเก็บรูปภาพและกระดูกไว้ให้รอญาติเอาไปประกอบพิธีทำบุญต่อไป

ความจนน่ากลัว! ยายนั่งเฝ้าร่างผัวยันสว่าง ไร้มือถือโทร. ตามคน ร้านโลงศพเปลี่ยนวิกฤตเป็นน้ำใจ