จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6 ได้แชร์เรื่องราวของการซื้อ-ขายหนังหน้ามนุษย์ หรือที่เรียกว่าหนังหน้าครู และยังมีชิ้นส่วนอื่น เช่น กระจุกผมที่ติดหนังศีรษะ กะโหลกศีรษะ เพื่อนำมาบูชานั้น

วันที่ 7 ม.ค. คุณจิลล์ นายจักรพงศ์ การสมพรต เจ้าของเรือนหนังหน้าครู เผยถึงการบูชาหนังหน้าครู ว่าหนังหน้าครูเป็นของโบราณตั้งแต่ 300 ปีแล้ว เป็นครูตามบ้านต่างๆ มีทุกอาชีพทุกแขนง เป็นการทำหนังหน้าขึ้นมาแทนภาพถ่ายในสมัยโบราณ เป็นการส่งต่อกันมาตามต้นตระกูล แต่พอรุ่นลูกหลานดูแลต่อไม่ได้ จึงยกมาให้ตนดูแล

หนังหน้าแต่ละหน้าเป็นครูบาชั้นสูงของแขนงนั้นๆ การจะเป็นหนังหน้าได้ต้องมีการยอมรับก่อน ขออนุญาตผู้เป็นเจ้าของหน้าก่อน เพื่อให้ลูกหลานได้เคารพบูชา ไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล เพื่อกอบกู้ตัวเองว่ามีครูบาอาจารย์ มีสำนัก มีกลุ่มก้อนที่ไหว้ประจำปี และจะไหว้ไม่ข้ามกัน ไม่ผิดครูกัน ตำราใครตำรามัน ที่นำมาตั้งในเรือนหนังหน้าครูคัดมาแทบทุกอาชีพ แม้แต่แม่เล้าก็มี ให้สำหรับผู้หญิง ผู้ชาย มาขอไหว้ตามความสำเร็จเรื่องเงินทอง และชื่อเสียง

ส่วนในเรื่องข้อกฎหมาย คุณจิลล์ เผยว่าตามกฎหมายที่เพิ่งมีการแก้ในปี 2562 คือห้ามขายซากและอวัยวะมนุษย์ แต่ที่ได้มาคือได้มาจากทางบ้าน ไม่ได้ซื้อขาย เป็นการสืบทอดต่อๆ กันมา ส่วนใหญ่ต้นตระกูลจะมาฝากไว้ ที่เรือนหน้าครูมีทั้งหมด 44 หน้า ที่บ้านอีก 61 หน้า รวมกันเป็น 105 หน้า หน้าที่เก่าแก่ที่สุดคาดว่าช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา

ในขณะที่ปัจจุบันมีการทำหนังหน้าครูออกมาใหม่นั้น คุณจิลล์ เผยว่า เป็นของใหม่ตามกระแส พอมีอะไรดังขึ้นมาก็จะเกิดการเลียนแบบแล้วเอามาใช้ในการหากิน ซึ่งสิ่งที่ทำขึ้นมาใหม่นั้นทำถูกต้องตามตำราหรือไม่ เพราะโบราณจะต้องมีฤกษ์ตามกำหนด ไม่ใช่ไปเลาะหน้าใครหรือขโมยใครมาก็ได้ ถือว่าผิดหลักศาตร์และศิลป์การบูชาครูบาอาจารย์ และหนังหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นเราก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังว่าหนังหน้าที่ได้มาเป็นใคร

คุณจิลล์ เผยอีกว่า การบูชาหนังหน้าครูเหล่านี้ไม่มีการจดบันทึกประวัติ เพราะเกิดขึ้นในกลุ่มราษฎร เนื่องจากการจดบันทึกจะจดในราชสำนักเท่านั้น

ในด้านกระแสตีกลับเรื่องดังกล่าว คุณจิลล์ เผยว่า ตนเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์หนังหน้าครู คนไม่ชอบหรือกลัวก็มี หรือจะบอกว่าอุปโลกน์ก็มี แต่สิ่งต่างๆ ที่ยังไม่ถูกจดบันทึก หรือไม่ถูกเอาออกมาอีกมากมายที่ไม่มีให้เห็น มันมีอยู่จริง ที่ผ่านมามีคนมากราบไหว้ก็ประสบผลสำเร็จ มีชีวิตดีขึ้น ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจ เป็นที่พึ่ง ส่วนคนที่กลัวก็ไม่เป็นไรยังมีอีกเยอะให้บูชา อะไรที่บูชาแล้วดี และสบายใจเกิดประโยชน์ก็บูชาไป แต่ที่บูชาแล้วไม่ดีก็เปลี่ยนไปบูชาอย่าง อยู่ที่ตัวเองจะเลือก