จากกรณีวันที่ 7 ม.ค. 2567 พ.ต.ต.ชินวุธ ศิลปะเสวตร สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งพบศพถูกห่อทิ้งไว้ในป่า ริมถนนชลประทาน คลองหัววัง-พนังตัก แก้มลิงหนองใหญ่ หมู่ 8 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะ ห่างจากถนนเลียบคลองชลประทานประมาณ 30 เมตร และห่างจากประตูระบายน้ำประมาณ 400 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้พื้นที่สาธารณะแก้มลิงหนองใหญ่ พบศพเพศชาย อายุประมาณ 30-40 ปี ถูกห่อด้วยเสื่อแล้วใช้เชือกไนล่อนมัดหัวมัดท้าย ขา 2 ข้างโผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย ซึ่งมือถูกมัดไขว้หลังโดยมีโซ่มัดและมีลูกกุญแจเหมือนกุญแจล็อคบ้านล็อกไว้ด้วย



นอกจากนั้นที่ศรีษะมีเสื้อแขนยาวคอปกสีกรมท่าเข้ม ด้านหลังเสื้อมีอักษรปักด้วยด้ายสีเหลืองข้อความว่า “วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี” ลักษณะเสื้อคลุมไว้ที่หัวผู้ตาย และที่ลำคอถูกมัดด้วยสายไฟสีขาวยาวประมาณ 2 เมตร โดยสายไฟยังมีปลั๊ก 3 ตา ติดอยู่ที่ด้วย สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงกีฬาผ้าร่มขาสั้นสีเหลือง และบริเวณใบหน้าพบมีรอยแผลเหมือนถูกของมีคมกรีด

ทีมข่าวตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดพบศพจะเห็นว่า เมื่อเวลา 16.29 น. ของวันที่ 7 ม.ค. กล้องวงจรปิดจะสามารถจับภาพ นายสุนันท์ ชาวบ้านผู้พบศพได้เดินมาปล่อยวัวกินหญ้าอยู่ตรงหน้าที่เกิดเหตุริมคลองชลประทาน ก่อนที่นายสุนันท์จะเดินเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แล้วพบศพของผู้ตายจากนั้นจึงถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงเดินออกจากจุดเกิดเหตุแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบอย่างที่เกิดเหตุ

จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. จะเห็นแสงไฟ รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อทำการชันสูตรศพเบื้องต้นของผู้เสียชีวิต

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (8 ม.ค. 2567) เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดเพื่อเก็บวัตถุพยาน ดีเอ็นเอ จากการตรวจสอบล่าสุดพบทรายอยู่ที่ศพของผู้เสียชีวิตด้วย ชุดสืบจังหวัดชุมพร ได้ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ โดยเบื้องต้นไม่ทราบรายละเอียดแห่งการตาย และไม่ทราบชื่อสกุลศพ จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมพรฯ นำไปเก็บรักษาไว้ชั่วคราว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณริมคลองชลประทานหนองใหญ่ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2.4 กิโลเมตร พบเต็นท์สนามลายพรางสีเขียว ถูกค้นกระจัดกระจายฉีกขาดถูกกรีดด้วยของมีคม มีพัดลมสีดำวางทับอยู่ที่ตัวเต็นท์ นอกจากนี้ยังพบผ้าห่มสีม่วง หมอนข้างสีเทาลายการ์ตูนถูกของมีคมกฤษฉีกขาดจนไส้ผ้าหลุดออกมา

อีกทั้งยังพบเสื้อผ้ากางเกง และเสื่ออีก 1 ผืน อยู่บนพื้นหญ้าริมคลองชลประทาน โดยมีเสื้อตัวหนึ่งสีฟ้าบริเวณหน้าอกข้างซ้ายถูกสกรีน โลโก้ทีมงานนเรศวรอินเตอร์กรุ๊ป นอกจากนี้ยังพบปลั๊กไฟตัวผู้ที่ตัวสายไฟถูกตัดขาดอยู่บนพื้นหญ้า ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่าสายไฟของเต็นท์ตัวผู้ที่ถูกตัดไปนั้นจะตรงกันกับสายไฟที่ใช้รัดขาของผู้เสียชีวิตหรือไม่



นอกจากนี้ยังพบเอกสารนัดเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพังงา ทราบชื่อคือ นายคมคาย อายุ 36 ปี การวินิจฉัยโรคพบแผลที่หน้าผาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบว่า เอกสารที่พบของคนที่มาพักที่เต็นท์แห่งนี้ ตรงกันกับศพที่พบตรงจุดเกิดเหตุหรือไม่

ทีมข่าวสอบถามนายบุญยัง อายุ 51 ปี รปภ. โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ซึ่งเป็นคนดูแลใยพื้นที่ตรงจุดที่เต็นท์ตั้งอยู่ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เต็นท์ลายพรางทหารนี้ตนเห็นมาตั้งอยู่ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566 ก่อนจะจัดงานกาชาดในวันที่ 16 ธันวาคม 2566 โดยเต็นท์ก็ตั้งมาตั้งแต่ช่วงนั้น แต่ตนไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของเต็นท์ เพราะตนไม่เคยเห็นเลย แต่ก่อนหน้านี้ตอนช่วงแรกที่มาตั้งจะมีเต็นท์ตั้งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย โดยเจ้าของเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ตนเคยเห็นเขานั่งทำกับข้าว แต่เต็นท์ลายทหารตนไม่เคยเห็นเจ้าของเต็นท์เลย

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดชุมพร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง โดยในจุดพบศพยังคงหลงเหลือผ้าห่ม และเสื่อที่ใช้ห่อหุ้มศพอยู่ และยังเหลือคราบเลือดและน้ำหนองอยู่เต็มไปหมด พร้อมทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งในบริเวณ

โดยทีมข่าวพูดคุยกับ นายสุนันท์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ที่มาพบศพคนแรก เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ทุกวันจะนำวัวไปหากินหญ้าบริเวณที่เกิดเหตุและสองฝั่งคลองขุดทุกวัน และเมื่อวาน ตนเองก็ไม่พบสิ่งอื่นใดที่แปลกปลอมหรือผิดสังเกตเกิดขึ้น แม้กระทั่งช่วงเช้าก็ตาม จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นใกล้ค่ำ ตนเองได้จูงวัวเพื่อนำไปเข้าคอก ก็พบว่ามีอะไรไม่รู้ ถูกห่อมัดด้วยเสื่อที่ใช้รองนั่งหรือนอน และมีผ้าคล้ายผ้าห่ม หลุดล่อออกมา เป็นก้อนห่อมัดขนาดใหญ่ จึงเดินเข้าไปดู แต่ยังไม่ถึงก็มีกลิ่นโชยเหม็นออกมา และมีแมลงวันบินตอมเต็มไปหมด ตนไม่กล้าเปิดดูจึงได้ถ่ายรูปไว้ และนำออกมาแจ้งอาสาที่เดินเก็บขยะอยู่แถวนั้น เอารูปให้เขาดู และพาเขามาดูก็คิดว่าน่าจะเป็นศพ อาสาจึงได้รีบแจ้งตำรวจมาตรวจ ก็รู้ว่าภายในห่อก็คือศพคนจริง ๆ โดยตนก็ไม่รู้ว่าศพเป็นใคร ดูลักษณะไม่เหมือนคนในหมู่บ้านตนเลย และสภาพศพค่อนข้างเริ่มดูไม่ได้แล้ว



วันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปยังวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสอบถามถึงเสื้อที่มีชื่อของวิทยาลัยดังกล่าว ถูกพบนำมาคลุมที่ศีรษะของผู้ตาย ซึ่งจากการสอบถาม นางสาวภคพร อาจารย์ประจำวิทยาลัยดังกล่าว ทราบว่า เสื้อที่เห็นในข่าว ซึ่งนโยบายของ วท. เด็กแต่ละรุ่นเมื่อเข้ามาศึกษาที่วิทยาลัย จะทำเป็นเสื้อรุ่นให้เป็นเสื้อวอร์ม ซึ่งแต่ละรุ่นแบบเสื้อจะไม่เหมือนกัน สำหรับเสื้อที่พบในที่เกิดเหตุเป็นรุ่นปี 2560 มีนักเรียนชายเข้าเรียนประมาณ 5-6 คน หลังรู้ข่าวมีอาจารย์และเพื่อน ๆ ของนักเรียนรุ่นนี้ได้โทร. สอบถามกันแล้วแต่ยังไม่มีใครถูกแจ้งเป็นคนหาย

ขณะที่เจ้าหน้าที่หลังลงตรวจสอบที่เกิดเหตุและพบ บัตรนัดพบแพทย์ของโรงพยาบาลพังงา ระบุชื่อนายคมคายนั้น จากการสืบทราบภายหลังพบว่า นายคมคาย เป็นลูกจ้างในคาราวานขายของเร่ตามเทศกาลต่าง ๆ และได้มาในงานเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพร ซึ่งก่อนจะหายไป ได้ไปอยู่พวกบ้านลม (โป่งสวรรค์) เป็นลูกจ้างรับจ้างรายวันต่อในงานไฟล้านดวง และได้หายตัวไปในวันที่ 3 ม.ค. ก่อนที่จะจบงานเพียงวันเดียว



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติของนายคมคาย เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น จากนั้นญาติได้นำตัวไปเลี้ยงดู ที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบอยู่ทางภาคใต้หลายคดี ทั้งลักทรัพย์ พกพาอาวุธปืน ค้ายาเสพติด ข่มขู่ผู้อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรวจสอบว่านายคมคายนั้นใช่ผู้ตายที่พบเป็นศพหรือไม่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของศพที่ถูกพบหรือไม่

โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้เดินทางเข้ามายังมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บร่างของผู้ตายที่ยังไม่รู้ตัวตน เพื่อเข้าตรวจสอบลอยสักที่ร่างของผู้ตายว่าตรงกับนายคมคายหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากสภาพร่างของผู้ตายเปื่อยยุ่ยแล้ว