จากกรณีที่ พบศพหญิงสาวถูกฝังอยู่บริเวณ ป่าท้ายหมู่บ้านหนองโพด หมู่ 5 อ.เมือง จ.มหาสารคาม จึงได้ระดมกำลังขุดหลุมดินดังกล่าวขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ พบน.ส.ดาราพร (แพร) อายุ 30 ปี ในลักษณะร่างถูกพันด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพูอ่อน เปิดผ้าที่พันรอบบริเวณลำตัวพบร่างผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดสีแดง สวมกางเกงขาสั้น นอนคว่ำหน้าอยู่ในหลุมดิน

 

เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภาพสุดท้ายผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์กลับจากที่ทำงานมาที่บ้าน โดยได้สวมใส่เสื้อชุดเดียวกันกับวันที่เกิดเหตุ

 

ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่ง เวลา 16.36 น.ของวันที่ 7 ม.ค. 67 สามารถบันทึกภาพของน.ส.ดาราพร (แพร) อายุ 30 ปี สวมใส่เสื้อสีแดง (เสื้อตัวเดียวกันกับวันเกิดเหตุ) และสวมเสื้อคลุมกันหนาวสีดำทับ สวมกางเกงขายาว ใส่หมวกกันน็อก ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ดำ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากที่ทำงาน มุ่งหน้ากลับบ้าน

 

ไทม์ไลน์นางสาวแพร ก่อนจะพบว่าถูกฆ่าฝังดิน

 

พบว่าเมื่อวันที่ 7 มค. นางสาวแพร ไปทำงานเข้าเวร ที่อบต. โดยได้เข้าเวรตั้งแต่เวลา 08.00 จนถึงเวลา 16.00น.

 

จากนั้นเวลาประมาณ 16.30น. นางสาวแพรขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบ้าน ก่อนจะพาลูกชายคนเล็กไปชื้อถุงเท้า

 

จากนั้นเวลาประมาณ 18.00น.กว่าๆ นางสาวแพร กลับมาบ้าน หลังจากไปชื้อถุงเท้าให้ลูกชาย

 

ก่อนที่เวลาประมาณเกือบ 1 ทุ่มได้รับโทรศัพท์จากนายบ๊อบ ที่คาดว่าจะเรียกผู้ตายออกไปหา

 

ต่อมาเวลา 1 ทุ่มกว่า ๆ ของวันที่ 7 มค. 67 เพื่อนบ้านเห็นนางสาวแพร นั่งเล่นเกมส์โต๊ะม้าหินอ่อน หน้าบ้านสวน ที่เกิดเหตุ

 

ก่อนที่เวลา 20.00น. ของวันที่ 7 มค.67 ภรรยาของนายทองจันทร์ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากบ้านสวนของผู้ตาย ประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงทะเลาะกัน และเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ

เวลา 22.00 น.ของวันที่ 7 มค.67 นายเจริญ พลศรี พ่อผู้ตาย ได้รับข้อความจากเฟซบุ๊คลูกสาว ที่นายบ๊อบแชตหา

 

จนเวลาประมาณตี 5.30 น.ของวันที่ 8 มค.67 นายเจริญ พ่อผู้ตาย ตื่นมาพบข้อความ

 

ต่อมาเวลา 07.30น.ของวันที่ 8 มค.67 ครอบครัวผู้ตายได้ทราบข่าวว่าทั้งคู่ทะเลาะ จึงได้ไปตามหาที่บ้านสวน

 

จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 8 ม.ค.67 ครอบครัวไม่สามารถติดต่อนางสาวแพรได้จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

ต่อมาเวลาประมาณ 18.00น. ญาติไปเจอหลุมต้องสงสัย และได้ลงมือขุด

 

จนกระทั่งเวลา 18.30น.วันที่ 8 มค.67 พบศพถูกฝังในดิน

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้คุยกับนายฉันท์ อายุ 63 ปี พ่อผู้ต้องสงสัย ยอมรับว่า ลูกชายและลูกสะใภ้มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยตลอด 2-3 ปีที่คบกัน ซึ่งบางครั้งก็มีลงไม้ลงมือกันแต่ไม่ถึงกลับรุนแรง จึงทำให้ครอบครัวไม่ค่อยสนใจ อีกทั้งตนเองก็อยู่บ้านคนละหลังกับลูกชาย และเวลาที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน ตนเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน อีกทั้งตนเองก็ไม่อยากปรักปรำผู้ตาย

 

ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นและได้คุยกับลูกชายคือวันที่ 7 ก่อนเกิดเหตุซึ่งตนเองได้วานให้ลูกชายไปเอาสว่านมาให้จากที่บ้านเพราะตนจะซ่อมแซมบ้านพี่สาว หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย

 

จนกระทั่งช่วงค่ำก่อนพบศพครอบครัวของนางสาวแพรผู้ตายได้มาถามหาลูกสาวกับตนเอง ครั้งสุดท้ายลูกสาวได้มาหาลูกชายของตนเองและมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง ตนเองจึงได้ช่วยออกตามหาจนกระทั่งไปเจอหลุม ซึ่งมีลักษณะเพิ่งขุดขึ้นมาใหม่ จึงได้เดินเข้าไปดู ซึ่งในระหว่างที่ตนเองเดินไปดูพบรอยเท้าที่สวมรองเท้าและมีขนาดเล็ก 1 รอยอยู่ที่เกิดเหตุที่พบศพนางสาวแพร ซึ่งตนได้สังเกตว่ารอยเท้าดังกล่าวมีลักษณะเล็กเท่าขนาดรอยเท้าลูกชาย

 

นายฉันท์ ยังยอมรับอีกว่า ลูกชายเคยถูกจับ 2 คดี คือคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์และคดียาเสพติด พ้นโทษออกมาได้หลายปีแล้ว ส่วนลูกชายจะกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกหรือไม่ ตนเองไม่ทราบเลยเพราะถือว่าลูกโตแล้วไม่อยากเข้าไปยุ่งมาก

 

หลังเกิดเหตุยอมรับว่าพ่อของผู้ตายโกรธแค้นครอบครัวตนเองมาก จนถึงขั้นถือมีดมาขู่จะฆ่ากัน ซึ่งตนได้ไปแจ้งความลงบันทึกผระจำวันกับตำรวจไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้เอาเรื่อง เพราะเข้าใจว่าครอบครัวคงจะโกรธแค้น

 

นอกจากนี้ครอบครัวยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ลูกชายได้ทำผิดไป จึงอยากขอให้ลูกชายกลับมารับผิดชอบสิ่งที่ตนเองทำแบบลูกผู้ชาย ทำผิดก็ต้องกล้ายอมรับผิด ตอนนี้ตนเองรู้สึกสงสารภรรยามาก เพราะกำลังทุกข์ใจอย่างหนัก จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ส่วนลูกชายถ้าหากไม่กล้าออกมามอบตัวก็ให้โทรศัพท์มาหาตนเอง ซึ่งจะเป็นคนรับและพามามอบตัวเอง

 

หลานชายผู้ก่อเหตุเผยเมื่อสี่วันก่อนผู้ก่อเหตุได้มาว่าจ้างให้ไปขุดหลุมโดยอ้างว่าจะใช้เป็นที่ทิ้งขยะ พร้อมกับยืนยันตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนางสาวแพร

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายประกาศิต หรือโก้ อายุ 22 ปี หลานชายผู้ก่อเหตุ (คนขุดหลุม) ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่พฤหัสที่ผ่าน ตนเองได้รับการว่าจ้าง จากนายบ๊อบ ผู้ก่อเหตุ ให้ไปขุดหลุม โดยนายบ๊อบ อ้างว่า ต้องการที่จะใช้เป็นบ่อเผาขยะ โดยให้ค่าจ้างเป็นเหล้าขาว 1 ขวดกับเงิน 100 บาท

 

วันต่อมาตนเองจึงได้สอบถามนายฉันท์ พ่อของนายบ๊อบ ว่าต้องการให้ตนเองขุดหลุมได้ที่บริเวณไหน ซึ่งพ่อของนายบ๊อบผู้ก่อเหตุให้ตนเองเป็นคนตัดสินใจเลือกเอง

ต่อมาตนเองจึงได้ตัดสินใจไปเลือกขุดดินในพื้นที่ของพ่อนายบ๊อบ (จุดฝั่งร่างของนางสาวแพร) โดยตนเองได้ใช้เวลาขุดประมาณ 1 วันก็แล้วเสร็จ

 

หลังจากทราบข่าวว่า ผู้ตายนั้นหายตัวไป และญาติๆออกตามหา ตนเองก็ออกไปช่วยตามหาด้วย ซึ่งขณะที่ตน ผ่านหลุม จุดที่ตนเองเคยขุด แต่จากการสังเกตพบว่าหลุมนั้น ดูผิดปกติ เนื่องจากหลุมนั้นถูกกลบด้วยดิน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลังจากตรวจสอบก็พบว่าผู้ตายนั้นถูกฝังอยู่ ในกลุ่มนี้จริงๆ

 

ยืนยันว่าตนเองกับนายบ๊อบ ไม่ได้สนิทกัน หนำซ้ำยังไม่ถูกกันด้วย ซึ่งเคยทะเลาะกันเรื่องเงิน

 

ส่วนนายบ๊อบ พี่ชายตน มักมีเรื่องทะเลาะกับพี่สะใภ้อยู่เป็นประจำ เพราะตนได้ยินเสียงเขาทะเลาะกันบ่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

 

ยอมรับว่าตนเอง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ที่สุดท้ายแล้วหลุมที่ตนเองเป็นคนขุดกับมือ กลับกลายเป็นสถานที่ใช้ฝังร่างของผู้เสียชีวิต และไม่คิดว่าพี่ชายจะก่อเหตุแบบนี้ พร้อมกับยืนยันว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายป๊อบ เพียงแต่ได้รับว่าจ้างให้ไปขุดหลุมเพื่อฝังขยะเท่านั้น

 

ต่อมาเราได้เดินทางไปที่บ้านสวนของผู้ตาย ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน และได้คุยกับนางสวย นามสมมุติ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านข้างจุดเกิดเหตุ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุจะมานอนที่บ้านสวนหลังนี้อยู่บ้าง แต่ไม่ได้มานอนทุกวัน ยอมรับว่าได้ยินเสียงเขาสองคนทะเลาะกันบ่อย และด่ากันอยู่เป็นประจำ ส่วนมากจะได้ยินแต่เสียงผู้หญิง ไม่ค่อยได้ยินเสียงผู้ชาย

 

โดยก่อนหน้าที่เขาจะฆ่ากันนั้นก่อนหน้านี้เขาก็ทะเลาะกันและตัวเองได้ยินเสียงฝ่ายหญิง(ผู้ตาย) พูดว่า " บ๊อบ มึงฆ่ากูให้ตายโลด ถ้ามึงบ่ฆ่ากู กูก็สิฆ่ามึง " จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดว่า "นอน นอน มันดึกแล้ว " ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า แต่ไม่ใช่คืนที่ตายเป็นคืนก่อนหน้า ประมาณ 3 วัน ก่อนผู้ตายนั้น จะถูกฆ่า

 

ยอมรับว่า สองคนนี้ทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงไม่ค่อยจะสนใจ เพราะปกติเวลาทะเลาะกันเสร็จ ก็จะขับรถจักรยานยนต์ออกมาด้วยกัน และกอดเอวกันออกไป ตนจึงไม่ได้สนใจ ซึ่งตนนั้นก็ไม่เคยได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ได้ยินแค่เสียงคนทะเลาะกันด่ากันเท่านั้น แต่เท่าที่จับใจความได้จะเป็นในเรื่องของความหึงหวง

 

ส่วนมากที่ตนเองแอบดู และเห็นนั้น จะเห็นเป็นฝ่ายหญิงเสียมากกว่าที่ทำร้ายฝ่ายชาย ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นและทำให้ฝ่ายหญิงนั้นเสียชีวิตนั้น ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นการพลั้งมือเสียมากกว่า ไม่น่าใช่กันจงใจฆ่า

 

ยอมรับว่าหลังจากเกิดเหตุใกล้บ้านตนเองก็รู้สึกกลัวและไม่มีใครกล้านอนที่นี่ ยอมรับว่าน้องแพร (ผู้เสียชีวิต) เป็นคนน่ารัก เป็นคนเอางานเอาการ แต่มาช่วงหลังรู้สึกว่าเขานั้นเปลี่ยนไปไม่ค่อยมองหน้าไม่ค่อยสบตา ส่วนฝ่ายชายนั้นจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด

 

เปิดแชตพี่สาวของผู้ตาย หลังน้องสาวหายตัวปริศนาและสงสัยว่าสามีน้องสาวเป็นผู้ก่อเหตุ

 

ขณะเดียวกันเราได้รับแชตจากพี่สาวของนางสาวแพรที่ได้แชตไปคุยกับนายบ๊อบผู้ต้องหา หลังน้องสาวหายตัวปริศนาและสงสัยว่าสามีน้องสาวเป็นผู้ก่อเหตุ

 

โดยในแชตฝั่งขวามือคือพี่สาวของผู้ตาย ในช่วงเวลา 12.12 น. นางสาวแพรว พี่สาวผู้ตาย ได้โทรแชตไปหานายบ๊อบ แต่ไม่มีการรับสาย โดยเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ทางครอบครัวได้ออกตามหานางสาวแพรผู้ตาย หลังไม่สามารถติดต่อได้

 

ต่อมานางสาวแพรว ที่ได้แชตข้อความไปหานายบ๊อบ โดยอ้างว่า ติดต่อน้องสาวไม่ได้ เนื่องจากที่ทำงานน้องสาวต้องการเอกสารจากผู้ตาย

 

โดยตัวนายบ๊อบได้อ่านข้อความและได้ตอบกลับพี่สาวผู้ตาย ว่า ผู้ตายไม่ได้รับสายตนเช่นกัน ก่อนจะอ้างว่า ผู้ตายบอกว่าจะไปทำงาน

 

จากนั้นพี่สาวผู้ตายได้แชตข้อความไปหานายบ๊อบอีกครั้ง เพื่อบ่งบอกว่าน้องสาวไม่ได้ไปทำงาน

 

แต่นายบ๊อบได้ตอบกลับอ้างว่าผู้ตายบอกจะไปทำงาน

 

ก่อนที่นายบ๊อบจะตอบกลับว่าให้รอผู้ตายติดต่อกลับ เดี๋ยวผู้ตายก็จะโทรไปหาลูกเอง พร้อมกับอ้างว่า ที่ผู้ตายไม่ทำงานเพราะไม่มีเงินเติมน้ำมันรถไปทำงาน

 

ต่อมาเวลา 15.08 น.ของวันที่เกิดเหตุ พี่สาวของผู้ตาย ได้โทรเฟสไปหานายป๊อบแต่ไม่มีการรับสาย

 

ก่อนที่พี่สาวผู้ตายจะแชตข้อความไปหานายป๊อบอีกครั้งเพื่อให้นายบ๊อบออกมาตามหาผู้ตายด้วยกัน

 

ซึ่งพบว่านายบ๊อบได้อ่านข้อความและตอบกลับพี่สาวของผู้ตายว่า อ้างว่าตนเองก็ไม่รู้ว่านางสาวแพรไปไหนและไม่รู้จะไปหาที่ไหน

 

จนกระทั่งพี่สาวของผู้ตายได้แชตข้อความไปหานายบ๊อบว่าจะไปหาแถวสวนที่เกิดเหตุ ซึ่งนายบ๊อบได้อ่านข้อความแต่ไม่ได้มีการตอบกลับข้อความของพี่สาวผู้ตายแต่อย่างใด ก่อนที่นายบ๊อบจะไม่อ่านข้อความและรับสายของพี่สาวผู้ตายอีก

ล่าไอ้บ๊อบฝังเมียสาว โคตรแสบจ้างเพื่อนขุดหลุมก่อนบีบคอ ตีเนียนช่วยหาร่าง