จับแล้ว! "ละมัย" เสี่ยกำมะลอ หลังซ่อนในป่าอ้อย 2 วัน 1 คืน หิวโซเดิน 20 กม. ขอข้าวบ้านเมียเก่า อ้างไม่ตั้งใจแทงเมียใหม่และใช้สันมีด หวังคืนดีติดใจเมียขอคืนละสองครั้ง
เจอตัวแล้ว! เสี่ยละมัย เสี่ยร้อยล้านกำมะลอ ซ่อนตัวในป่าอ้อย 2 วัน 1 คืน เดินมาขอข้าวกินบ้านเมียเก่า อ้างขอยืมเงินไปงานศพญาติไม่ให้เลยโมโห แถมเมียด่าเก่ง ด่าโคตรเหง้าวงศ์ตระกูล แค่ใช้สันมีดปาด หากเมียยังยอมรับจะขอกลับไปคืนดีเพราะติดใจเมียขออึ๊บคืนละสองครั้ง ยังติดตราตรึงในความทรงจำ ขณะที่ป้าอ้อยและพี่ไรรู้ข่าวเดือดจัดพรุ่งนี้จะขอดูหน้าซักหน่อยบอกโกหกแถไปเรื่อย
วันที่ 11 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายละมัย อายุ 54 ปี ชาว ต.ลำสนธิ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี อ้างเป็นเสี่ยร้อยล้านมีที่ดิน 400 ไร่ มีธุรกิจรถแบ็กโฮ ไปคบกับหญิงหม้ายคนหนึ่งที่บ้านดงหวาย แต่ก่อเหตุมีดแทงและปาดคอหญิงหม้ายชื่อนางบัวไร อายุ 48 ปี ชาวบ้านดงหวาย ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เหตุเพราะขอยืมเงินไปงานศพญาติที่อุบลฯ ไม่ได้ แต่แทงไม่เข้า จากนั้นได้ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีดำหลบหนีไป แต่เกิดซิ่งมาด้วยความเร็วแหกโค้งบ้านดงบาตรชนกับเสารั้วบ้านของชาวบ้านจนรถพัง จากนั้นนายละมัยได้หลบหนีเข้าป่าอ้อยพร้อมอาวุธปืน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ตร.สภ.บ้านดุง ปิดล้อมป่าอ้อยหาตัวยังไม่เจอ
กระทั่งช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา มีชาวบ้านบ้านโนนกกบาท ต.บ้านดุง แจ้งมายังนายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดตว่า พบนายละมัยเดินมามาขอข้าวและน้ำเมียเก่ากินที่บ้านหลังหนึ่ง มีท่าทางวิตกกังวล ใส่หมวกปิดบังใบหน้า นายวีระพล จึงได้แจ้งยังไป พ.ต.อ.พงศ์พันธุ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง สั่งให้ชุดสืบสวนคุมตัวมายัง สภ.บ้านดุง ทันที
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.บ้านดุง พบกับนายละมัย โดยเดินทางไปพร้อมกับพระปัญญา พระลูกวัดวัดจันทศรีมงคล บ้านมีชัย ต.บ้านตาด ที่ถูกต้มเอาเงินไป 4,000 บาท เมื่อเสี่ยละมัยเจอพระอาจารย์ปัญญาก็ยิ้มยกมือไหว้ จำครูบาอาจารย์ได้ เสี่ยละมัยบอกว่า หลังผมขับรถชนต้นไม้ผมก็ไปหลบในป่าอ้อย ไม่ได้ออกไปไหน 2 คืน 1 วัน เพิ่งเดินออกจากป่าอ้อยเย็นที่ผ่านมา เดินเท้าเปล่ากว่า 20 กม. มาหาบ้านเมียเก่า แต่เมียเก่าเขามีผัวใหม่แล้ว จึงได้ขอข้าวหลานๆ กิน เจ้าตัวบอกอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมยอมรับผมใช้มีดพยายามปาดคอและแทงนางบัวไรจริง แต่ใช้สันมีด เพราะโมโหที่ด่าโคตรเหง้าตระกูล บ่นด่าบ่อย และชอบไปเล่นพนัน ตนก็เตือนอย่าไปเล่นเรามาสร้างครอบครัวแล้ว หยุดบ้างก็ดี แต่เขาไม่ฟัง ทั้งๆ ที่งานบ้านงานเรือนตนก็ทำให้ ซักเสื้อผ้า ซักกางเกงในเมียก็ทำ ตนอยากสร้างครอบครัว แต่ตนไม่ชอบที่เขาขี้บ่น
นายละมัยกล่าวตอนท้ายว่า ผมสึกจากพระเพราะบัวไรเขาเป็นคนติดต่อหาผมตลอดหลังจากที่มีคนแนะนำให้รู้จักกัน บอกให้ผมสึกไปอยู่ด้วย ไม่มีเงินไม่มีทองก็ได้ ผมก็บอกให้บวชก่อน แต่นางบัวไรก็โทรมาคะยั้นคะยอมาเถอะๆ จนผมต้องสึก และเราก็มีอะไรกันตอนที่ผมเป็นนาคอยู่ด้วย หากบัวไรยอมรับให้ผมไปอยู่ด้วย ผมก็อยากจะไป แม้ผมจะอายุมากแล้ว แต่เมียคนนี้เขาขออึ๊บผมคืนละสองครั้ง เรื่องราวบนเตียงยังติดตราตรึงผมอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่รู้เขาจะรับผมอีกหรือเปล่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเสี่ยร้อยล้านจริงหรือ นายละมัยบอกว่า ไม่ใช่ๆ ผมไม่เคยบอกมีแต่ชาวบ้านพูดเท่านั้น ส่วนที่ว่าผมไปหลอกพระหลายวัดว่าเป็นเสี่ยจะเอารถตู้ไปถวายก็ไม่เป็นจริง แค่ผมยืมเงินพระเท่านั้น ขณะนั้นเองพระปัญญาก็ถามว่า โยมละมัยทำไมพูดโกหกไปเรื่อย รู้อยู่แก่ใจอยู่ แต่นายละมัยก็ยืนยันพูดความจริงไม่ได้โกหกใครทั้งนั้น พระอาจารย์ปัญญาถามว่า แล้วเงิน 4,000 บาทที่เอากับอาตมาไปซ่อมรถให้ อ้างว่าจะถวายรถให้ใช้ นายละมัยก็บอกว่า ผมไม่ได้บอกว่าถวายรถให้ แค่ใช้ร่วมกัน พระอาจารย์เป็นคนให้เงินเอง ดูท่าไม่ยอมรับความจริง พระอาจารย์ปัญญาส่ายหัว บอกอีกว่า โยมละมัยไปหลอกเอาเงินชาวบ้านอีกหลายคนที่เขาโทรมาบอก นายละมัยก็บอกว่า ไม่ได้เอา ไม่ได้หลอก และโต้เถียงกับพระอาจารย์ปัญญาว่าอย่ามาพูดแบบนี้ ผมไม่ได้หลอกใครทั้งสั้น จากนั้นก็เดินหนีทันที
ขณะที่ป้าอ้อยและนางบัวไร หลังรู้ข่าวว่านายละมัยถูกจับแล้ว และรู้ว่านายละมัยโกหไม่ได้ยอมรับความจริง และอ้างว่าซักผ้าให้เมียทำงานทุกอย่าง ป้าอ้อยและนางบัวไรถึงกับโกรธเลือดขึ้นหน้า บอกว่า อย่างนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย โกหกไปเรื่อย ช่วงเช้าจะขอไปดูหน้าชัดที่โรงพักซักหน่อย คนอะไรช่างโกหกได้เก่ง
ด้านตำรวจแจ้งข้อหานายละมัย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย เตรียมส่งศาลดำเนินคดีช่วงเช้าวันนี้ (11 ม.ค.)