เมื่อเวลา 03.10 น. วันที่ 11 มกราคม 2567 พ.ต.ท.อนุวัตร์ มูลมาตร สารวัตร (สอบสวน) สภ.ธาตุพนม รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณตลาดนัดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม ทางทิศเหนือ หมู่ 13 ต.ธาตุพนม เขตเทศบาลตำบลธาตุพนม ถนนเลียบน้ำโขง จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน พร้อมช่วยเหลือคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ทราบชื่อคนเจ็บภายหลัง คือ นายธนิสร หรือ เสี่ยเอก ทำอาชีพพ่อค้า รวมถึงรับฝากรถ เช่าที่จอดรถ เช่าแผงขายสินค้า ตลาดนัดจุดผผ่อนปรนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม ถูกยิงบริเวณต้นขาขวา 1 นัด รวมถึงมีกระฉุดเฉียดหน้าท้อง 1 นัด เบื้องต้นแพทย์ พยาบาล ให้การช่วยเหลืออาการปลอดภัย แต่ยังรอรับการรักษาต่อเนื่อง



หลังเกิดเหตุทางด้าน พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม ประสานตำรวจทีมสืบสวน พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน บริเวณจุดใกล้บ้านผู้ตาย ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบปลอกกระสุนปูน คาดว่าเป็นขนาด .38 จำนวน 6 นัด ถูกยิงใช้งานแล้ว 5 นัด เหลืออีก 1 นัดยิงมีหัวกระสุน เชื่อว่าคนร้ายนำมาทิ้งก่อนหลบหนี นอกจากนี้ยังมีการสอบสวนพยานแม่ค้าที่เห็นเหตุกาณณ์ ระบุว่า พบเห็นบุคคลต้องสงสัย สวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว รองเท้าผ้าใบ สีดำ สวมโม่งปิดบังใบหน้า จำนวน 1 คน แต่ไม่ทราบว่า ขับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์มาก่อเหตุ ไล่ยิงคนเจ็บกำลังเตรียมพื้นที่ เนื่องจากวันนี้จะมีการเปิดตลาดนัดจุดผผ่อนปรนไทย-ลาว ทุกวันจันทร์กับวันพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ ทำให้มีคนร้ายเดินเข้าไปจ่อยิง ทำให้คนเจ็บไหวตัวทันวิ่งหลบหนี ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและญาติ มีเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด ก่อนคนร้ายวิ่งหลบหนี โดยไม่ทราบว่าใช้อะไรเป็นพาหนะ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุรวมถึงละแวกใกล้เคียง พบภาพหลักฐานเพียง 1 จุด พบผู้ต้องสงสัยเดินออกมาจากรถกระบะสีดำ ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 20-30 เมตร แต่ไม่พบว่ามีการขับรถหนีไป แต่มีการแต่งกายคล้ายกับผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ตามที่ชาวบ้านพบเห็นระบุ อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบหาเบาะแส ติดตามคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดี ส่วนปมสาเหตุทางตำรวจ มุ่งปมขัดแย้งธุรกิจตลาดนัดจุดผ่อนปรนตลาดนัดไทย-ลาว เนื่องจากคนเจ็บทำธุรกิจค้าขายบริเวณตลาดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว อีกทั้งยังเป็นแกนนำคนสำคัญ ที่มีการร้องเรียนให้จัดระเบียบการค้าขาย ระหว่างไทย-ลาวมาตลอด ทำให้มี่ความขัดแย้งกับหลายฝ่าย ที่อาจเป็นปมสาเหตุ



ด้าน พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุประมาณตี 3 เนื่องจากเป็นช่วงเตรียมเปิดตลาดนัดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีคนเจ็บ จึงประสานทีมสืบสวน รวมถึงตำรวจเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนคนเจ็บทางตำรวจ และญาติช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลปลอดภัย มีถูกยิงสาหัสที่ต้นขาขวา ส่วนจุดอื่นลักษณะคล้ายกระสุนเฉียด ประมาณ 2-3 จุด กำลังเร่งสอบสวน ตรวจสอบหาหลักฐาน

จากกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยังไม่ระบุชัดว่าคนร้ายมากี่คน และใช้รถอะไร พบเพียงภาพจากวงจรปิดมีผู้ต้องสงสัย ที่สวมโม่งปิดใบหน้าเดินอ้อมรถยนต์ ที่จอดในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการเร่งสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน สาเหตุหลักมุ่มปมขัดแย้งธุรกิจค้าขายในพื้นที่ตลาดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว รวมถึงมีปัญหาข้อร้องเรียนในการทำธุรกิจในตลาด

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีมือปืนบุกยิงเสี่ยเอก พบทำงานเป็นทีม มีรถกระบะมาส่งก่อเหตุและ จยย. มารับพาขี่หลบหนี โดยวงจรปิดตัวที่ 1 บริเวณริมถนนเลียบน้ำโขง หมู่ 13 เทศบาลตำบลธาตุพนม จ.นครพนม เวลา 3.11 น. พบชายต้องสงสัยแต่งตัวมิดชิด เป็นมือปืนก่อเหตุเดินริมถนน โดยสวมหมวกไอ้โม่ง เดินตรงมุ่งหน้าที่จุดที่เป็นลานจอดรถของตลาดนัด (จุดเกิดเหตุ) จากนั้นเดินข้ามฝั่งถนน มาฝั่งลานจอดเพื่อดักรอเสี่ยเอก ผู้บาดเจ็บ

จากนั้นวงจรปิดตัวที่ 2 เวลา 3.28 น. จะเห็นรถกระบะสีดำคันหนึ่งขับตรงมาและกลับรถก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนรถคันนี้เป็นรถที่ขับมาส่งมือปืนที่ก่อเหตุ โดยหลังจากจอดรถส่งใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที เผื่อสังเกตุการณ์ และกลับรถออกจากพื้นที่ไป

จากนั้นวงจรปิดตัวที่ 3 เวลา 3.49 น. กล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งใกล้กับจุดเกิตเหตุ บันทึกเสียงปืนที่คนร้ายไล่ยิงนายเอก ผู้บาดเจ็บเสียงดัง 4 นัดติด ๆ กัน

เมื่อดูจากกล้องวงจรปิดที่ได้ยินเสียงปืนเท่ากับว่าคนร้ายก่อเหตุช่วงเวลาประมาณ 3.49 น. แต่ในช่วงเวลาประมาณ 03.47 น. ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพชายสวมใส่เสื้อสีแดง ซึ่งเป็นคนมารับมือปืนคนก่อเหตุขับรถวนเวียนอยู่ยังบริเวณจุดเกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 3.57 น. มีชายขี่ จยย. สีดำ มารับมือปืนที่ซอยฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ซึ่งมือปืนเดินหลบหนีมา คาดว่ามีการนัดแนะให้มารับ ขี่หลบหนีอย่างเร็วผ่านไปตามเส้นทาง



ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นกล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งก็จับภาพคนร้ายหลบหนีด้วยรถจักรยานยนต์ ซึ่งขับขี่รถอย่างเร็วเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น กล้องวงจรปิดจุดที่ 3 ก็จับภาพคนร้ายที่แต่งกายตรงกับผู้ต้องสงสัยตามกล้องวงจรปิดจุดแรกที่กำลังเดินไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นคนนั่งซ้อนท้าย โดยคนขี่ จยย. มารับมือยิงสวมเสื้อสีแดงแขนยาว ภาพวงจรปิดจุดนี้จับภาพไว้ได้ค่อนข้างชัดเจน

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางดาวัน ภรรยาของเสี่ยเอก เล่าว่า ช่วงเกือบตี 4 ขับรถมาถึงที่ตลาด พร้อมกับสามี กำลังเตรียมพื้นที่จอดรถและที่วางขายของให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่จะมาขายของในตลาดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว โดยอยู่ห่างจากสามีประมาณ 10 เมตร จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นรัว ๆ 3-4 นัด หันมามองเห็นสามีวิ่งหนีเพราะถูกคนร้ายไล่ยิง

กระทั่งจนมุมร้องขอชีวิตจากคนร้าย และจังหวะนั้นเคราะห์ดีกระสุนหมดเสียก่อน สามีจึงวิ่งหนีออกไป ตนพยายามสกัดไม่ให้คนร้ายวิ่งตามสามี คว้าแผงเหล็กขว้างไว้ คนร้ายจึงหันปืนมาขู่และตะโกนเป็นภาษาอีสานว่า “อย่าเข้ามานะไม่งั้นจะยิงทั้งสองคน” ตนจึงเรียกให้คนมาช่วยคนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงเดินหนีออกไปอย่างใจเย็น มั่นใจเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวสามีรู้ทางหนีและเวลาก่อเหตุ เชื่อว่าตั้งใจมาฆ่าไม่ใช่การข่มขู่ถ้าลูกกระสุนปืนไม่หมดอาจจะเสียชีวิตทั้งสองคน และปมเหตุก็คงเป็นเรื่องความขัดแย้งกับกลุ่มมาเฟียในพื้นที่

นางดาวัน ยังบอกอีกว่า ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 10 ม.ค. ตนฝันว่ามีชายชุดขาวมาติดต่อขอเช่าที่จอดรถของตนเพื่อจัดงานศพ และพอตื่นเช้ามาวันที่ 11 มกราคม เช้ามืดสามีก็โดนไล่ยิงตรงที่จอดรถ ซึ่งชายที่ฝันว่ามาติดต่อจัดงานศพลักษณะแต่งกายคล้ายมือปืนที่ก่อเหตุ ตอนนี้วอนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งจับตัวคนร้ายให้เร็วที่สุด ถือว่าอุกอาจมากและถ้ายังจับไม่ได้มือปืนต้องย้อนกลับมาทำร้ายอีกแน่นอน

ส่วนนายธนิสร อายุ 50 ปี หรือ เสี่ยเอก ผู้บาดเจ็บ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม โดยเสี่ยเอกเล่าให้กับทีมข่าวพร้อมกับนำรอยกระสุนจากเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่อยู่ มาโชว์ให้ดูว่ากระสุนเฉียดเข้ามาที่ร่างกายตัวเองจนเสื้อขาด และกางเกงขาดหลายจุดแต่ก็แทบไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลย

โดยเฉพาะกระสุนนัดแรกและนัดที่สองที่คนร้ายมุ่งเป้ามาที่ศีรษะและหัวใจ แต่กระสุนทั้งสองรูปกับเฉียดตัวเองไป ที่สำคัญตัวเองอยู่ห่างอยู่กับคนร้ายเพียงแค่ประมาณ 5-10 ก้าวเท่านั้น แต่คนร้ายก็ไม่สามารถยิงจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิตได้



ทั้งนี้ เสี่ยเอกเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของครูบาอาจารย์คุ้มครอง เนื่องจากตัวเองมีความเชื่อและศรัทธาพกพระกริ่งหลวงตามหาบัวรุ่นสมปรารถนาอยู่ตลอดเวลา รวมถึงตอนในขณะที่โดนยิงด้วย จึงเชื่อว่าที่ตัวเองรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ นี่เป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งหลวงตามหาบัว และที่สำคัญตัวเองก็หมั่นปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะถ้าหากถามใครว่าโดนยิงขนาดนี้ คงไม่มีใครเชื่อว่ารอดมาได้

เสี่ยเอก เล่าว่า ตัวเองประกอบอาชีพให้บริการที่จอดรถบริเวณตลาดไท-ลาว ในเขตอำเภอพระธาตุพนม มานานเกือบ 10 ปีแล้ว และเป็นผู้เรียกร้องจัดระเบียบการค้าบริเวณริมโขงไทยลาวตรงนั้นด้วย

ซึ่งเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 03.00 น. ตัวเองก็ออกจากบ้านไปเพื่อเตรียมเปิดให้บริการเช่าที่จอดรถบริเวณตลาดไทย-ลาวตามปกติ แต่ในขณะที่ตัวเองกำลังลงไปเคลียร์พื้นที่จอดรถอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีคนมาเรียกจากบริเวณด้านหลังว่า “พี่เอก“ ตัวเองจึงเหลียวหันไปมอง ก็เห็นว่าชายคนดังกล่าวแต่งตัวมามิดชิด แล้วเหมือนล้วงหยิบอะไรออกมาจากกางเกง

หลังจากนั้นชายคนดังกล่าว ก็เอาปืนยิงรวงมาที่ตัวเองนัดแรกมุ่งเป้าไปที่บริเวณศรีษะ แต่โชคดีที่หลบทำให้กระสุนเฉี่ยวศรีษะไปนิดเดียว นัดที่สองยิงเข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้าย กระสุนก็เฉี่ยวไปเช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็ยิ่งพยามหลบหนีแล้ว แต่คนร้ายก็ตามวิ่งเข้าไปเพื่อจะยิงซ้ำ ตัวเองจึงวิ่งหนีสวนออกมา ตอนนั้นภรรยาที่อยู่บนรถจึงออกมาส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายยิงเข้ามาที่ตัวเองทั้งหมด 4 นัด มีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่กระสุนฝังเข้าบริเวณต้นขาด้านขวา ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป

ส่วนสาเหตุที่ตัวเองถูกยิงแบบนี้ เสี่ยเอก เชื่อว่าน่าจะเป็นมาจากปัญหาเรื่องความขัดแย้งบริเวณตลาดการค้าไทย-ลาว เนื่องจากบริเวณจุดนั้นมีกลุ่มมาเฟียซึ่งตนเองก็พยามร้องเรียนเรื่องนี้มาโดยตลอด อาจจะทำให้ไปขัดผลประโยชน์กับคนใดคนหนึ่ง จึงเกิดความโกรธแค้นมาก่อเหตุกับตนแบบนี้

นอกจากนั้น เสี่ยเอก ยังทิ้งท้ายไปด้วยว่าการเรียกร้องเรื่องการจัดระเบียบของตัวเองนั้น อาจจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายฝ่าย

เหลือเชื่อ 5 นัดไม่เข้า! เสี่ยรอดถูกมัจจุราชคลุมโม่งสั่งเก็บ เจอฤทธิ์ "หลวงตาบัว" ช่วย