จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part 6 แชร์ภาพและแนบคลิป ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปขณะอาจารย์ท่านหนึ่งกำลังทำพิธี ‘ลงนะดาก’
โดยปกติทุกคนอาจจะเห็นแต่ ‘ลงนะหน้าทอง’ ที่มีการแปะแผ่นทองบริเวณใบหน้า เพื่อเสริมสิริมงคลตามความเชื่อ
แต่พิธีที่อาจารย์ท่านนี้กำลังทำ มีวิธีการคล้ายกัน เปลี่ยนจากแปะแผ่นทองที่ใบหน้า มาแปะบนบั้นท้ายหญิงรายหนึ่ง และ สวดเป่าคาถา แถมปิดท้ายด้วยการเลีย ทำให้เกิดการวิจารณ์ถึงความเหมาะสม
อ.แมน ชี้ลงนะดากทอง เป็นศาสตร์เก่าแก่ เรียนรู้เอง ไม่ได้บังคับใครทำ ส่วนใหญ่ลูกค้ามาขอทำให้
ต่อมาทีมข่าวได้เจอกับอาจารย์แมน หรือนายอภิวรสิทธิ์ อายุ 35 ปี กำลังโดยอ.แมน สาธิตการทำพิธี "นะที่ลับ" โดยสมมุติว่าแขนของผู้สื่อข่าวเป็นเจ้าโลก ซึ่งอาจารย์แมนได้ใช้เครื่องรางคล้ายๆกับปลัดขิก ทำการลงอักขระบริเวณของสงวนของผู้ชาย พร้อมกับบริกรรมคาถาจนครบจากนั้นอาจารย์แมนจะทำการอมตรงนั้นให้เป็นจำนวน 9 ครั้ง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี โดยเวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงต่อคน ซึ่งอาจารย์แมนจะรับทำแค่ 2 คนต่อวันเท่านั้น
เช่นเดียวกับการลงนะดากทอง อาจารย์แมนก็จะใช้เครื่องรางทำพิธีที่เรียกว่า มหาวน-มหาเวียน พร้อมกับบริกรรมคาถาหลังจากนั้นก็จะเลียตรงนั้นเป็นจำนวน 9 ครั้งก็เป็นอันเสร็จพิธีเช่นกัน ซึ่งก่อนที่อาจารย์จะเลียหรืออมจะใช้สีผึ้งที่มีกลิ่นหอมชโลมไปที่ของลับหรือจุดสงวนก่อนจะทำการเลียและอมให้ โดยไม่ได้เป็นการบังคับแต่ลูกค้าร้องขอให้การทำตรงนั้น เพราะเขาอยากให้ผู้ชายรักอยากให้ผู้ชายหลง โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาลงนะดากทองและนะเจ้าโลกทอง จะเป็นเพศชาย lgbtq+ เนื่องจากลูกค้าบางคนใช้ร่างกายทำงาน อยากจะให้ทำนะ ใต้ร่มผ้า อย่างลูกค้าคนที่มาลงนะที่ก้น ทำงานด้านบริการ ต้องการให้ลูกค้ามาเลี้ยงเยอะ อยากให้ผู้ชายมาเลี้ยง
ซึ่งที่ผ่านมาอาจารย์ จะรับลงนะตามปกติ ทั้งหน้า แขน คอ มือ แต่มีลูกค้าบางคน ตั้งใจมาหาอาจารย์และระบุเลยว่าต้องการทำนะตรงบริเวณที่ก้นหรือที่อวัยวะเพศ โดยรายแรกที่มาทำพิธีเป็นผู้ชาย เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว แต่รายล่าสุดที่เพิ่งเป็นกระแสก็เป็นผู้ชายที่มาขอให้อาจารย์ทำพิธีเมื่อช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมานี่เอง
ซึ่งพิธีทำนะ มีมานานแล้ว โดยตนศึกษาจากตำรา เนื่องจากอาจารย์เป็นคนสุรินทร์ แต่ยืนยันไม่ใช่มนต์ดำของเขมร แต่เป็นคาถาแบบพุทธนำมาประยุกต์ใช้เฉพาะส่วนที่เป็นของลับ ทำแบบนี้มาประมาณ 10 กว่าปี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่า ที่มาทำครั้งแรกและได้ผล ก็กลับมาทำซ้ำอีก ที่สำคัญมีลูกค้าเป็นทั้งนักการเมืองดาราที่มีชื่อเสียง influencer ในสาย lgbtq +มักจะมาให้อาจารย์ทำพิธีแล้วมากมาย
ส่วนกรณีที่ต้องใช้ลิ้นแตะ ปากเป่าหรือแม้แต่อมของลับ อ.แมนบอกว่า ก็เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งของสำนักตนเอง โดยที่ผ่านมาก็เคยมีเคสแปลกๆ ที่มาขอให้อาจารย์อมจนสำเร็จความใคร่ แต่อาจารย์ยืนยันที่ทำลงไปไม่ใช่เพื่อความต้องการทางเพศ แต่เป็นวิชาที่ตนร่ำเรียนมาและอยากช่วยเหลือผู้คนที่ประสบกับความทุกข์ยากลำบาก ด้วยคาถาเสน่ห์มหานิยม
นอกจากนี้อาจารย์แมนยังได้น้อมรับข้อท้วงติงจากพระราชธรรมนิเทศหรือหลวงพ่อพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่มองว่าเป็นพิธีลามก วิปริตวิปลาส ยิ่งทำยิ่งเพิ่มราคะนั้น อาจารย์แมนมองว่า เป็นความเชื่อและความต้องการของบุคคลบางบุคคลมากกว่า และถ้าหากว่าหลังจากนี้ มีหน่วยงานที่อยากจะมาตรวจสอบ อาจารย์ยินดีให้ตรวจสอบ และมองว่าอนาคตก็จะไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการอะไร แต่จะตั้งใจทำดีกว่าเดิม
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามความคิดเห็นกับทางพระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วในเรื่องนี้
โดยพระพยอม กล่าวว่า อาตมาเพิ่งเคยเห็นพิธีกรรมแบบนี้เป็นครั้งแรก ลงแล้วยังมีเป่า เป่าแล้วยังมีจูบ เรียกว่า วิปริต วิตถาร มากขึ้น ๆ ทุกวัน ต้องไปลูบคลึงลูบคล้ำเพื่อให้ก้นมีเสน่ห์ ทั้งๆที่ตัณหา ราคะ ที่มีอยู่ก็เป็นภาระที่หนักอยู่แล้ว ยังจะไปเรียกไปเพิ่มมันขึ้นมาอีก เดี๋ยวก็เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาจากความที่หมกหมุ่นในเรื่องเหล่านี้
พระพยอมกล่าวว่า อยากให้ถอนออก ถอนตัวขึ้นเสียบ้าง ไปหาหมุดปักที่มันถูกต้องให้ถูกจุดดีกว่า เหมือนคำที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนเอาไว้ว่า ให้รักษาจิต ประคองใจให้ดี มันก็จะไม่มีเรื่องวิปลาศ ควรหันมาประคองจิตใจให้ดี ปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ ซึ่งต้องปัดด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาปัดให้ ปัดให้ใจห่างไกลจากกิเลส ตัณหา ราคะ รักโลภโกรธหลง
พระพยอมกล่าวอีกว่า คนที่เชื่อไปทำพิธีกรรมเหล่านี้ต้องทนกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมให้ได้ เพราะไปทำอะไรที่ไม่เหมือนคนทั่วไปเขาทำกัน ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้เป็นธรรมดา ปักหมุดไม่ถูกเพราะมัวแต่ไปหมกหมุ่นในสิ่งเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตำหนักบ้านเกิดของอาจารย์แมน ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบแม่ของอาจารย์แมน ชื่อนางน้อย 53 ปี โดยนางน้อยผู้เป็นแม่ได้พยายามโทรติดต่อลูกชาย แต่ลูกชายไม่ยอบรับสาย นางน้อยบอกว่าปกติโทรหาก็จะรับพูดคุยกันมาตลอด ก่อนเป็นข่าวดังก็คุยกันอยู่ มาตอนนี้ ลูกชายไม่ยอมรับโทรศัพท์แม่เลย
และนางน้อย แม่ของอาจารย์แมน เล่าให้ฟังว่า ลูกชายเคยไปเรียนวิชาหมอดูกับเพื่อน 2 คน แต่ไม่รู้ว่าไปเรียนที่ไหน เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นแม่ก็พึ่งรู้ แม่ว่าไม่ควรทำเลยแบบนี้ ดูแล้วไม่เหมาะสม เป็นเรื่องที่ไม่ดี เป็นของต่ำ อยากให้ลูกอย่าทำแบบนี้อีกต่อไป ควรทำดีสิ่งที่ดีๆ ให้สังคมยอมรับ นางน้อยกล่าวแบบน้ำตาคลอเล็กน้อย
ส่วนทางด้านน้องสาวอาจารย์แมน คือ น้องผึ้ง อายุ 28 ปี เล่าไปน้ำตาไหลไป รู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่พี่ชายทำ มันทำให้ตนและแม่เสียใจ อายคนอื่นเขา