เพื่อนสนิท "โยโกะ" ยังติดใจการเสียชีวิต ไม่เชื่อว่าผู้ตายจะสั่งซื้อยาไซยาไนด์ได้เอง
นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เพื่อนสนิทของคุณโยโกะ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวเองรู้จักกับโยโกะมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ทำกิจกรรมมาด้วยกันตลอด จนกระทั่งเรียนจบ ตนเองกับโยโกะก็ยังมาทำงานในแวดวงเดียวกันคือ พริตตี้, พิธีกรและพรีเซ็นเตอร์
โดย "โยโกะ" มักจะรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคลินิกเสริมความงาม และเป็นพริตตี้ให้กับค่ายรถยนต์ค่ายดัง ซึ่งจะมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนคือ 50,000 - 100,000 บาทหรือบางเดือนก็อาจจะเกิน 100,000 บาทด้วยซ้ำ
นางสาวเอ ยืนยันว่าที่ผ่านมา "โยโกะ" เป็นคนเฮฮาร่าเริง ชอบช่วยเหลือคน เวลาเขามีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่ก็คือเขาก็จะแบบจัดการปัญหาได้ด้วยตัวเองมาตลอด ก็เลยรู้สึกว่าไม่น่าจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้
อีกทั้งไม่เชื่อว่า โยโกะ ฆ่าตัวตายด้วยการใช้สารไซยาไนด์ เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นสารที่คนธรรมดาไม่สามารถสั่งซื้อหรือเอาไว้ในครอบครองได้หายาก ฉะนั้นคิดว่าไม่น่ามีใครจะมีสารนี้ในครอบครองหรือหาซื้อได้ง่ายๆ จึงอยากให้ทางตำรวจชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนมากกว่านี้ว่า"โยโกะ" มีสารไซยาไนด์ไว้ในครอบครองได้อย่างไร
อีกหนึ่งประเด็นที่เพื่อนสนิทของคุณโยโกะ ติดใจก็คือ ประตูหลังห้องพัก ที่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งหลังคุณโยโกะเสียชีวิต พบว่า ไม่ได้มีการล็อกประตูนั้น
นางสาวเอ บอกว่า ปกติ โยโกะเป็นคนรอบคอบ จึงไม่คิดว่าเขาจะเปิดประตูห้องทิ้งไว้ หรือไม่ล็อคกลอน ก็เป็นสิ่งที่เพื่อนและครอบครัวอย่างสงสัยเหมือนกัน
ส่วนกรณีที่พบแช็ตในมือถือผู้ตาย ปรากฏว่ามีการเขียนข้อความตัดพ้อและฝากถึงแฟนหนุ่ม ใจความคร่าวๆว่า "ขอให้Daddy ใช้ชีวิตได้ตามสบาย" นั้น นางสาวเอ บอกว่า เพิ่งมาทราบหลังแม่ผู้ตายนำหลักฐานดังกล่าวออกมาเปิดเผย แต่ก่อนหน้านี้
"โยโกะ" ก็ไม่เคยมาปรึกษาเพื่อนหรือว่าถามเพื่อนๆในเรื่องนี้เลย
นอกจากนี้นางสาวเอ ยังตั้งข้อสังเกตถึงลักษณะการตายของ"โยโกะ" ว่าเขาตายถ้าแบบเรียบร้อยมาก อันนี้คือสิ่งที่ได้ทราบจากคุณแม่ผู้ตาย เพราะปกติคนกินยาฆ่าตัวตาย จะต้องมีน้ำลายฟูมปากหรือมีอาการดิ้นทุรนทุราย ซึ่ฝมันไม่น่าจะนอนตายได้สวยขนาดนั้นหรืออาจจะมีคนจัดวางท่าทางหรือเปล่า จึงทำให้รู้สึกเอะใจว่า คนฆ่าตัวตายเองจะเป็นแบบนี้หรอ ก็เลยคิดว่า"โยโกะ"ไม่น่าจะเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย