จากกรณีอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จุดบางชัน โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะไล่ล่ารถคนร้าย พร้อมระบุข้อความว่า “ท่านใด พบเห็น โตโยต้า สีดำ ทะเบียน... หรือเห็นที่ไหนแจ้ง 191 ได้เลยให้สะกัดจับ เก๋งคันดังกลาวได้ก่อเหตุฉุดหญิงขึ้นรถ แล้วพกอาวุธปืน อาสาติดตามสะกัดจับ คลาดกันแถว ๆ สะพานเคหะรามคำแหง..”

โดยคลิปเหตุการณ์แรกเป็นบรรยากาศในรถกู้ภัยที่กำลังขับไล่ล่ารถโตโยต้าสีดำ บนถนนรามคำแหง ใกล้ซอย 185 ซึ่งรถเก๋งคันนี้พยายามหนีการไล่ล่าขับปาดซ้ายขวาเพื่อแซงรถคันอื่นบนถนน ซึ่งทางกู้ภัยจะบีบแตรและเปิดสัญญาณกู้ภัยเสียงดัง เพื่อกดดันให้รถคนร้ายจอดก็ไม่เป็นผล

และท้ายคลิปจะเห็นรถเก๋งคนร้ายขับปาดหน้ารถกู้ภัยเพื่อยูเทิร์นรถอย่างกระทันหัน ซึ่งรถกู้ภัยต้องเบรกอย่างแรงไม่เช่นนั้นชนรถคนร้าย เป็นเหตุการณ์ตอนไล่ล่ากันบนสี่แยกถนนเสรีไทย แยกเสรีไทย 56 กับซอยนิคมฯ บางชัน 1 โดยไล่ล่ากดดันตั้งแต่ ซอยรามคำแหง 185 ถึงสี่แยกถนนเสรีไทย รวมระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร คนร้ายยังไม่ยอมจอดรถ โดยทางกู้ภัยยังได้ถ่ายภาพนิ่งรถเก๋งคนร้าย เห็นชัดป้ายทะเบียนหมายเลข... จากข้อมูลเบื้องต้นมีคนร้ายเป็นชายสองคนบนรถ หนึ่งในนั้นมีอาวุธปืน

จากข้อมูลของอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จุดบางชัน รับแจ้งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวช่วง 19.30 น. ของวันที่ 12 มกราคม โดยเพื่อนร่วมงานของนางสาวแก้ว (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เป็นคนมาแจ้งที่จุดปฏิบัติการของกู้ภัย ว่ามีพยานเห็นนางสาวแก้วถูกชายแปลกหน้าฉุดขึ้นรถเก๋งสีดำ โดยรถเก๋งได้ขับพาลักพาตัวจากอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอย รามคำแหง 164

ทีมข่าวจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในซอยอพาร์ทเมนต์ พบรถเก๋งต้องสงสัยของคนร้ายขับออกมาจากซอยรามคำแหง 164 หลังลักพาตัวนางสาวแก้วขึ้นรถ ช่วง 19.08 น. ของวันที่ 12 มกราคม

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ อายุ 36 ปี หนึ่งในชุดปฏิบัติการที่ไล่ล่ารถเก๋งสีดำของคนร้าย ซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จุดบางชัน เล่าว่า เมื่อวานนี้ทางเพื่อนที่ทำงานของนางสาวแก้วแจ้งเหตุที่จะปฏิบัติการณ์ของอาสาสมัครกู้ภัยช่วง 19.30 น. เพื่อนผู้หญิงถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถลักษณะลักพาตัวออกไปจากอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 164โดยทางเพื่อนพยายามตามหาเพื่อหาทางช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ จึงมาแจ้งกู้ภัยให้ช่วยตามหาอีกแรง

ส่วนลักษณะการลักพาตัวคล้ายกับนางสาวแก้ว นำเสื้อผ้ามาลงเครื่องซักผ้าใต้อพาร์ทเมนต์ ปรากฏว่าระหว่างนั้นมีชายแปลกหน้ามันล็อกตัว และอุ้มขึ้นรถเก๋งก่อนหายตัวไปปริศนา ระหว่างนั้นมีพยานเห็นเหตุการณ์จึงมาแจ้งเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมงานก็มาแจ้งทางกู้ภัย

ทำให้เกิดปฏิบัตการไล่ล่ารถเก๋งสีดำของคนร้าย และไปเจอโดยบังเอิญระหว่างจอดรถชั่วคราวที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าปากซอยรามคำแหง 185 จึงประสานกำลังอาสาสมัครกู้ภัยให้มาช่วยกันตาม ทำให้เกิดปฏิบัตการไล่ล่าคนร้ายมีรถกู้ภัยประมาณ 4-5 คัน และมีรถจักรยานยนต์ที่ตามอีกประมาณ 5-7 คัน

โดยเริ่มไล่ล่าตั้งแต่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยรามคำแหง 185 แล้วรถของคนร้ายก็พยายามหลบหนีการไล่ล่าไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าไปยัง ถ.มีนพัฒนา และมีการตัดหน้ารถกู้ภัยคล้ายต้องการจะให้รถกู้ภัยเสียหลักชนช่วงสี่แยกถนนเสรีไทย แยกเสรีไทย 56 กับซอยนิคมฯ บางชัน 1 ก่อนยูเทิร์นรถหนีที่เสรีไทย 56 แล้วมุ่งหน้าหนีต่อ

ระหว่างนี้ก็มีการชักปืนขู่กู้ภัยอีก ทำให้สังเกตเห็นระหว่างที่คนร้ายรถกระจกลงเพื่อชักปืนขู่มีคนที่นั่งในรถเป็นชายสองคน หนึ่งในนั้นมีอาวุธปืนแล้วคนร้ายก็พยายามหนีต่อ ซึ่งกำลังของกู้ภัยก็มีการนำรถตู้มาขวางทางหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งรถเก๋งสีดำของคนร้ายคลาดการตามล่าของกู้ภัยช่วงถนนรามคำแหงใกล้ซอย รามคำแหง 207 ใช้เวลาไล่ล่าทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นได้รับแจ้งจากกำลังกู้ภัยของตนอีกชุดว่าเหยื่อปลอดภัยแล้ว โดยคนร้ายได้ปล่อยตัวเหยื่อที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าปากซอยรามคำแหง 185 ระหว่างปล่อยตัวลงจากรถมีการใช้ปืนข่มขู่และบอกเหยื่อว่า "ห้ามแจ้งความและบอกคนอื่น" อ้างจับผิดตัวจึงปล่อย ตรวจสอบสภาพร่างกายเหยื่อพบว่าถูกคนร้ายใช้ปืนตบบริเวณใบหน้า และยังมีอาการผวา ทางกู้ภัยจึงส่งเหยื่อให้กับเพื่อนร่วมงานในสถานที่ทำงานของผู้เสียหายเพื่อฝากดูแลต่อ

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุ วงจรปิดตัวที่ 2 เป็นตอนหลังคนร้ายขี่รถเก๋งสีดำอุ้มเหยื่อขึ้นรถก็มุ่งหน้าไปยังซอยรามคำแหง 185 จากนั้นปล่อยตัวเหยื่อลงบริเวณป้ายรถเมล์

ต่อมาวงจรปิดตัวที่ 3 และ 4 บันทึกนาทีที่ขบวนรถกู้ภัยเริ่มไล่ล่าคนร้ายเพื่อตามจับตัวเป็นเหตุการณ์ที่ไล่ล่าบนถนนมีนพัฒนา จากภาพวงจรปิดจะเห็นรถเก๋งสีดำของคนร้ายขับด้วยความเร็วเพื่อหนีการไล่ล่า ในขณะที่ขบวนรถกู้ภัยที่ตามจับมีรถกระบะกู้ภัยสองคันและรถจักรยานยนต์กู้ภัยอีกสามคัน โดยขับด้วยความเร็วอย่างไม่ลดละเพื่อกดดันให้ยอมมอบตัว

ในขณะที่เวลาประมาณ 20.00 น. ทางอาสาสมัครกู้ภัยเรียกกำลังเสริมเพื่อกดดันและไล่ล่ารถเก๋งต้องสงสัยของผู้ต้องหาให้ยอมมอบตัว เพราะหวั่นหนีได้อาจจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ จะเห็นขบวนรถกู้ภัยขบวนใหญ่ไล่ล่าคนร้ายเป็รรถกู้ภัยกระบะ 4 คัน จยย. กู้ภัย 4 คัน แต่น่าเสียดายที่จังหวะนั้นเป็นช่วงที่คนเลิกงาน และกำลังกลับบ้านทำให้คนร้ายอาศัยช่วงที่ไฟแดงเยอะ และรถติด สามารถหลุดรอดและหนีการจับได้

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวแก้ว (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ทางโทรศัพท์เนื่องจากนางสาวแก้ว ยังคงมีอาการผวา และยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ เล่าสั้น ๆ เพียงว่า วันนี้มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ของทางร้อยเวร สภ.บางชัน โดยตนเองมีรอยถลอกและรอยฟกช้ำตามร่างกาย เนื่องจากว่าตนเองขัดขืนและพยายามต่อสู้คนร้าย ขณะอุ้มตัวเองขึ้นรถเก๋งสีดำใต้อพาร์ทเมนต์ที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีรอยปูดที่บริเวณศีรษะเนื่องจากถูกคนร้ายใช้ปืนทุบหัว ขณะอยู่บนรถเก๋งสีดำ ก่อนคนร้ายตัดสินใจปล่อยตัวตนเอง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ดีใจที่รอดจากการถูกคุมตัว หรือลักพาตัว และตอนนี้อาการก็ปลอดภัยดีแล้ว ยืนยันว่าเป็นการจับผิดตัวและตนเองไม่รู้จักกับคนร้ายมาก่อน