หนุ่มร้องถูกหลอกขายรถซูเปอร์คาร์ เป็นรถถูกดีเอสไออายัดเนื่องจากสำแดงเท็จ-เลี่ยงภาษีนำเข้า
วันที่ 14 ม.ค. 2567 ที่ทำการสายไหมต้องรอด นายสัญญา นำเอกสารหลักฐานเป็นสัญญาซื้อขายรถยนต์ สลิปการโอนงวดรถ ร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังซื้อรถซูเปอร์คาร์แต่กลับโอนกรรมสิทธิ์รถไม่ได้
นายสัญญา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ได้ทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ลัมโบร์กินี ในราคา 8,900,000 บาท กับเต็นท์รถมือสองย่านรามอินทรา โดยได้วางเงินดาวน์จำนวน 2,800,000 บาท และตกลงผ่อนชำระจำนวน 31 งวด งวดละ 158,829 บาท ที่ผ่านมาผ่อนมาแล้ว 20 งวด จำนวน 3,000,000 บาท แต่กลับโอนกรรมสิทธิ์รถไม่ได้ เพราะรถคันดังกล่าวถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ อายัดไว้ตรวจสอบ เนื่องจากสำแดงเท็จและหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า
ก่อนหน้านี้ ตนติดต่อไปยังผู้ถูกกล่าวหาขอคืนเงินที่ชำระไปทั้งหมด แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับแจ้งไฟแนนซ์ให้เข้ามายึดรถ แต่ไม่สามารถยึดได้เนื่องจากมีหลักฐานการผ่อนชำระถูกต้อง จนทำให้ไม่ได้มีการคืนรถ คืนเงินในวันดังกล่าว
นายสัญญา ยังให้ข้อมูลว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถวนขาย ก่อนหน้านี้ขายให้คนอื่นมาแล้ว แต่โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ รีไฟแนนซ์ไม่ได้ เหมือนเป็นรถเปล่า นำเศษเหล็กมาขาย ยอมรับว่า ตอนนั้นตัวเองไม่ทราบมาก่อนเพราะหน้าร้านเต็นท์รถดูดี มีใบซื้อขายถูกต้อง จึงไม่คิดว่าจะถูกโกง ขณะนี้ตัวเองหมดตัวแล้ว เพราะนำเงินไปดาวน์ และผ่อนค่างวดกว่า 5,000,000 บาท จึงอยากได้เงินคืนมาหมุนธุรกิจ
ด้านนายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า หลังจากนี้จะประสานผู้กำกับ สน.วังทองหลาง ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าหากพฤติการณ์เป็นไปตามที่ผู้เสียหายร้องเรียน รู้อยู่แล้วว่ารถโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ จะถือว่าเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่